แบงก์ทหารไทยประกาศพร้อมควบกิจการระหว่าง 3 สถาบันคืบ ทหารไทย-ดีบีเอส ไทยทนุ-ไอเอฟซีทีเตรียมกำหนดTender Offer วันที่ 21 พ.ค.-25 มิ.ย.นี้ โดยให้บล.ภัทร เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ และตัวแทนใน
การรับซื้อหลักทรัพย์ คาดดันหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 6 ก.ค.47นี้
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
การทำ คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการทั้งสอง คือ DTDB และ IFCT เป็นขั้นตอนหนึ่งของโครงการรวมและโอนกิจการระหว่างผู้ทำคำขอเสนอซื้อ
คือ ทหารไทย และกิจการทั้งสองที่ได้รับความเห็นชอบในหลักการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โดยคำแนะนำของธนาคาร แห่งประเทศไทย และที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบ
มร.ไมเคิล เฮค กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ
กล่าวว่า ในส่วนหลักทรัพย์ของ DTDB มีทั้งหุ้นสามัญ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant)
หุ้นกู้บุริมสิทธิควบหุ้นกู้ด้อยสิทธิ หรือ CAPS และหุ้นบุริมสิทธิควบหุ้นกู้ด้วยสิทธิแปลงสภาพ
หรือ MCAPS#2 ซึ่งธนาคาร ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่
29 เมษายน 2547 ที่ผ่านมา ให้มีการทำคำเสนอ ซื้อจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด
นายไกรทิพย์ ไกรฤกษ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
กล่าวว่า ในส่วนของหลักทรัพย์ของ บรรษัทฯ นั้น มีหุ้นสามัญ และใบสำคัญแสดงสิทธิ
(Warrant) การทำ Tender offer ครั้งนี้ จะเป็น การเสนอซื้อโดยสมัครใจเพื่อเพิกถอนหุ้นสามัญออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับราคาที่จะเสนอซื้อหลักทรัพย์ หรือแลกหุ้นของ DTDB และ IFCT นั้น เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ลงนามในสัญญารวมและโอนกิจการเมื่อวันที่
8 มีนาคม 2547 คือ หลักทรัพย์ ทุกประเภทของ DTDB สามารถแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญใหม่ธนาคารทหารไทยได้ในอัตราส่วน
0.9 : 1 หุ้น ส่วนหุ้นสามัญของ IFCT 1 หุ้น จะแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญใหม่ของธนาคารทหารไทยได้
1.124 หุ้น
ทั้งนี้ราคาที่เสนอแลกซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว เป็นราคาเสนอซื้อสุดท้ายที่จะไม่มีการแก้ไขอีกแล้ว
โดยที่ผู้เสนอขายหรือผู้ถือหุ้นจะไม่มีภาระค่าธรรมเนียมในการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้
โดยผู้ถือหุ้นของ DTDB และ IFCT สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
(แบบ 247-4) ซึ่งได้จัดส่งให้กับผู้ถือหุ้นแล้ว หรือสามารถขอรับได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่
สำหรับระยะเวลาแลกซื้อหลักทรัพย์ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม ถึง วันที่
25 มิถุนายน 2547 โดยผู้ถือหุ้น หรือผู้เสนอขายสามารถยื่นแบบตอบรับขายหลักทรัพย์ได้ที่
บริษัทที่ผู้ถือหุ้นมีบัญชีซื้อขายอยู่ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด
ทั้งนี้ เมื่อผู้ถือหุ้นของ DTDB และ IFCT ได้ทำการเสนอขายหรือแลกหุ้นกับทหารไทยแล้ว
ประมาณวันที่ 2 กรกฎาคม 2547 ผู้เสนอขายจะได้รับหุ้นของธนาคารทหารไทย และคาดว่าหุ้นธนาคารทหารไทยที่ได้แลกซื้อดังกล่าวจะ
ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประมาณวันที่ 6 กรกฎาคม 2547
"ขอให้ผู้ถือหุ้นของ DTDB และ IFCT ให้มาแลกหุ้นแต่เนิ่นๆ เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเอง
เพราะเมื่อ DTDB และ IFCT ได้เพิกถอนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ผู้ถือหุ้นจะขาดสภาพคล่องในการขายหุ้น
และจะต้องรอจนกว่า จะถึงวันชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการ ซึ่งผู้ถือหุ้นก็จะได้รับส่วนแบ่งในฐานะผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น
แต่ทั้งนี้ไม่มีความแน่นอนในเรื่องของ เวลาและมูลค่า ณ วันชำระบัญชี"
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 3 สถาบันเชื่อว่าการทำ
Tender Offer ครั้งนี้ จะไม่มีปัญหา และสามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น อันจะส่งผลให้การรวมกิจการในครั้งนี้ประสบความสำเร็จในที่สุด ทั้งนี้ลูกค้าและผู้ถือหุ้นของธนาคารจะได้รับผลประโยชน์และความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
ซึ่งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ที่เกิดจากการรวมกิจการนี้ จะมีทางเลือกในผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย
มีเครือข่ายและเทคโนโลยีในการให้บริการที่ทันสมัย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้นเช่นกัน