"ราชบุรีเพาเวอร์" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยRATCH เตรียมยื่นผลศึกษา EIA
ให้สผ.ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า มั่นใจก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 1,400 เมกะวัตต์เสร็จทันตามกำหนดในปี
51
นายบุญชู ดิเรกสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด
(มหาชน)(RATCH) เปิดเผยว่า โครงการร่วมทุนผลิตไฟฟ้าขนาด 1,400 เมกะวัตต์ในนามบริษัท
ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
(EIA) อยู่ คาดว่าจะเสนอต่อสผ.ได้ภายใน 2 เดือนข้างหน้า รวมทั้งมีการเร่งจัดหาเงินกู้และประชาสัมพันธ์ให้กับคนในพื้นที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าโรงไฟฟ้าดังกล่าว จะส่งไฟฟ้ายูนิตแรกจำนวน 700 เมกะวัตต์ให้กับกฟผ.
ได้ทันตามกำหนดในเดือนมีนาคม 2551 และยูนิตถัดไปอีก 700 เมกะวัตต์ในเดือนมิถุนายน
2551
โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 900 ล้าน เหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการกู้ยืมสถาบันการเงิน
680 ล้าน เหรียญสหรัฐ และเงินทุน 220 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง RATCH ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าดังกล่าว
25% ทำให้ต้องใส่เงิน ทุนประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท
โดยจะทยอยใช้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งแหล่ง เงินทุนส่วนใหญ่จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนและการกู้ยืม
โครงสร้างการถือหุ้นในราชบุรีเพาเวอร์ ประกอบด้วย ราชบุรีอัลลายแอนซ์ 25% ปตท.
15% สหยูเนี่ยน 10% ฮ่องกงอิเลคทริก 25% ชูบูอิเลคทริก 15% โตโยต้า 10%
นายบุญชู กล่าวถึงการลงทุนโรงไฟฟ้าอื่นๆเพิ่มเติมว่า บริษัทฯได้ศึกษาที่จะเข้าไปลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าใน
ต่างประเทศ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากมีความเสี่ยงทางการเมือง ทำให้เกิดต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น
ดังนั้นบริษัทฯจึงหันมาสนใจที่จะไปสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เนื่องจากกฎระเบียบของกระทรวงพลังงานระบุว่า
หากจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 700 เมกะวัตต์ในอนาคต จะต้องมีพลังงานทดแทน 4% หรือประมาณ
28 เมกะวัตต์เพื่อเป็นพลังงานสำรองให้กับประเทศ
"เราอยากเน้นการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเป็นหลัก เพราะถ้าไปคอมมิตสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศแล้ว
อาจทำให้สูญเสียโอกาสการลงทุนในประเทศได้ ดังนั้นการลงทุนในต่างประเทศจึงให้ความสำคัญเป็นอันดับรอง"
นายบุญชูกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ
1,534.98 ล้านบาท ลดลง 3.56% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร สุทธิ
1,591.62 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.06 บาท/หุ้น เนื่องจากมีรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรี
(Availability Payment : AP) ไตรมาสที่ 1/2547 จำนวน 2,810.61 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ค่า
AP จำนวน 3,198.45 ล้านบาท เป็นจำนวน 387.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.13% เนื่อง
จากอัตราค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนลดลง ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
และเป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้แล้ว