บางกอกแลนด์ พอใจชื้น หลังจบดีลเพิ่มทุน 5.8 พันล้านหุ้นขาย 2 กองทุน ตปท. วงเงิน
2 พันลบ.แบ่งเป็น 2 ล็อต ล็อตแรก 2.8 พันล้านหุ้น ขายเหมา 2 พันล้านบาท ล็อตที่สอง
1,000 ล้านหุ้น ขาย 1.85 บาท/หุ้น แต่ไม่ได้บังคับจะซื้อหรือไม่ ก็ได้ แต่ไม่หนำใจเพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้น
1.1 พันล้านหุ้น เบ็ดเสร็จงานนี้เพิ่มทุน 6.9 พันล้านหุ้น หวังนำเงินไถ่หนี้แบงก์กรุงเทพ-ไทยธนาคาร-ออมสิน
พร้อมลงทุนทำโครงการอาคารแสดงสินค้าที่เมืองทองธานีและขยายธุรกิจอื่นๆเพิ่ม
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานบริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) B-LAND
เปิดเผยระหว่างประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (12 พ.ค.) ว่าขณะนี้แผน การเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวน
5,857,142,858 หุ้น ได้ข้อสรุปที่จะตกลงในการทำสัญญาจะขายหุ้นให้กับผู้ลงทุนต่างชาติ
2 ราย คือ Mc Carthy Venture (VBI) Ltd. และ Quam Securities Nominee (Singapore)
Pte. Ltd. โดยทั้ง 2 กองทุนได้รับการ ชักนำมาจากที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บล.ซีมิโก้
ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และทำธุรกิจโบรกเกอร์ในต่างประเทศ
สำหรับรายละเอียดในการซื้อหุ้นจะแบ่งออกเป็น 2 ล็อตด้วยกัน ล็อตแรก 2,857,142,858
หุ้น จะขายมูลค่า 2 พันล้านบาท โดยมีเงื่อนไขคือ ทั้ง 2 แห่งจะซื้อ หุ้นทุกๆ วันสุดท้ายของเดือนไม่เกิน
10 ครั้ง ครั้งละมากกว่า 200 ล้านบาท เป็นระยะเวลานาน 10 เดือน โดยเงินที่ได้จะนำมาใช้ก่อสร้างอาคารแสดงสินค้า
และผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทครั้งนี้ผู้ลงทุนจะได้รับ commitment free ในอัตรา
1.5% ของเงินลงทุน
ส่วนล็อตที่ 2 จะขายจำนวน 1 พันล้านหุ้นที่ราคา 1.85 บาท/หุ้น เงินที่ได้จากการระดมทุนที่
2 นี้จะนำไปใช้หนี้ อย่างไรก็ตามการซื้อหุ้นของล็อตที่ 2 ไม่ได้มีการบังคับโดยพันธมิตรทั้ง
2 รายจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อหุ้นก็ได้
"เราเพิ่งได้รับคำตอบจากพันธมิตรใหม่ไม่นาน ทั้งนี้กำหนด ว่าจะต้องขายล็อตที่
2 ก่อน โดยล็อตที่กำหนดขาย 1 พันล้านหุ้น ราคา 1.85 บาท/หุ้น ไม่ได้บังคับ เขาจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้
ซึ่งได้ปรึกษากับก.ล.ต.แล้วไม่ได้ว่าอะไร" นายอนันต์กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อได้รับเงินจากพันธมิตรต่างชาติทั้ง 2 รายซึ่งจะเป็นการค่อย ๆ ทยอยรับรู้ระหว่างนี้
จะไปลงทุนสร้างอาคารแสดงสินค้าที่เมืองทองธานี ซึ่งมีขนาดประมาณ 2.25 แสนตารางเมตร
จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 14 เดือน ซึ่งหากก่อสร้างเสร็จประเมินว่าจะทำรายได้เพิ่มให้กับบริษัทประมาณ
1,500 ล้านบาท/ปี โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,600 ล้านบาท
นายอนันต์ กล่าวว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นได้มีการเสนอให้เพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอีก
1,100 ล้านหุ้น ทำให้จำนวนหุ้นที่จะเพิ่มทุนรวมเท่ากับ 6,957,142,858 หุ้น โดยในการเพิ่มทุนขายให้กับผู้ถือหุ้น
จะให้เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารดำเนินการต่อไป ซึ่งต้องหารือกับบล.ซีมิโก้ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินถึงอัตราส่วนในการขายและกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสม
การเพิ่มทุนดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อนำเงิน ที่ได้ไปใช้หนี้สถาบันการเงินและเพิ่มสภาพคล่อง
ให้หุ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้กับธนาคาร 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) จำนวน
1,500 ล้านบาท ในปัจจุบันไม่มีปัญหา หนี้ที่มีกับธนาคารไทยธนาคาร(BT)จำนวน 300
ล้านบาท และหนี้กับธนาคารออมสิน จำนวน 1,100 ล้านบท ซึ่งยืมมาเพื่อก่อสร้างตึกเอเชี่ยนเกมส์
ดังนั้น หากเพิ่มทุนสำเร็จจะได้คืนหนี้พร้อมดอกเบี้ยให้กับธนาคารออมสิน
"เราเห็นตลาดหุ้นไม่เฟื่องฟูก็จะขายหุ้นกับกลุ่มพีพี เพราะไม่อยากรบกวนเงินในกระเป๋า
ผู้ถือหุ้นเดิม แต่เมื่อผู้ถือหุ้นเห็นชอบร่วมกันก็จะนำเรื่องนี้ไปหารือที่ปรึกษาทางการเงิน
เพื่อกำหนดอัตราส่วนที่เหมาะสม และหาอันเดอร์ไรเตอร์โดยผู้ถือหุ้นจะซื้อหุ้นในเงื่อนไขเดียวกันกับพีพี"
นายอนันต์กล่าว
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)แอ๊ดคินซัน
ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มทุนของบริษัทบางกอก แลนด์ อีกจำนวน 1.1 พันล้านหุ้น
ว่าการเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว บริษัทน่าจะนำเงินไปใช้ในการ ขยายธุรกิจ เพราะบริษัทมีโครงการบ้านที่จะเปิดตัวในเร็วๆนี้
ซึ่งการเพิ่มทุนก้อนใหม่นี้ จะทำ ให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการเพิ่มทุนก่อนหน้านี้
บริษัทนำเงินส่วนใหญ่ไป ใช้ชำระหนี้ หากการเพิ่มทุนรอบหลังนี้สำเร็จน่าจะทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อคำนวณรวมการเพิ่มทุนเก่าและของใหม่อีกจำนวน 1.1 พันล้านหุ้น จะทำให้
BLAND เกิดไดลูชั่น เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ประมาณ 53%
หากดูจากผลการดำเนินงานในปี 2547 (งวดบัญชี มี.ค.46- มี.ค.47)คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิจำนวน
7.9 พันล้านบาท สาเหตุที่กำไร สุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการขายหุ้นกู้
ในขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) จะอยู่ที่ระดับ 0.93 บาท ซึ่งรวมหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 5.8
พันล้านหุ้น) ในขณะที่ประมาณการผลประกอบการปี 2548 (งวดบัญชี มี.ค.47-มี.ค.48)
จะมีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท โดยมีรายได้จากค่าเช่าปีละ 2 พันล้านบาท หากบริษัทเพิ่มทุนอีกจำนวน
1.1 พันล้านหุ้น ราคาเหมาะสม (fully dilute) 1.30 บาท กำไรต่อหุ้น (Fully dilute)
0.22 บาทต่อหุ้น ในขณะที่มูลค่าทางบัญชี (BV) 1.10 บาทต่อหุ้น (fully dilute) แต่ถ้าใช้วิธี
Weighted Average (จำนวนหุ้นเพิ่มทุน 9.9 พันล้านหุ้น) ราคาเหมาะสมจะอยู่ที่ 1.70
บาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาทต่อหุ้น ดังนั้น แนะนำเล่นเก็งกำไรจาก 2 ประเด็นได้แก่
ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี และเก็งกำไรราคาขายหุ้นเพิ่มทุนชุดใหม่