เผยแนวทางระดมเงินซื้อหุ้นหงส์แดงของนายกฯไทย หวังยิงปืนนัดเดียว ได้ทั้งชื่อทั้งเงิน
ตั้งเป็นบริษัทหรือกองทุนกระจายหุ้นให้คนไทยร่วมเป็นเจ้าของ ก่อนเจียดให้กลุ่มธุรกิจที่สนใจ
วงในเผย "บิ๊กเบียร์ช้าง-การบินไทย-สามารถคอร์ป-กองสลากฯ" พร้อมโดดร่วมขบวน
"ทักษิณ" สุดคึกคุยฟุ้งทั้งในครม.และที่ประชุมพรรคระบุ ดังระดับโลกแล้ว
กลบข่าวรุนแรงใต้ลงชะงัด ล่าสุดเจอนักธุรกิจลิเวอร์พูลเกทับ 5,256 ล้านบาท แย่งซื้อ
จากกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เจรจาขอซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล หรือหงส์แดง
ทีมฟุตบอลชื่อดังในพรีเมียร์ลีกประเทศอังกฤษในสัดส่วน 30% คิดเป็นมูลค่าราว4,600ล้านบาท
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการบริหารของลิเวอร์พูล ตัดสินใจซึ่งคาดว่าจะทราบผลในวันศุกร์ที่
14 พ.ค.นี้ กระแสดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีและการประชุมใหญ่ส.ส.พรรคไทยรักไทย
วานนี้(11 พ.ค.)
นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีได้เล่าให้ครม.ฟังถึงที่มาและเหตุผลของ
การซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลซึ่งขณะนี้อยู่ในความสนใจอย่างมาก ทำให้เรื่องความรุนแรงทางภาคใต้หายไป
1 วัน โดยเหตุที่นายกฯต้องเล่าเพราะข่าวที่ออกไปมีทั้งจริงและไม่จริง มีการต่อเติมกันไปบ้าง
"ไม่อยากให้มองฟุตบอลเป็นแค่ฟุตบอล" นายกฯกล่าวในที่ประชุมครม.
ขณะเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้อ้างคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ
ที่พูดต่อที่ประชุมใหญ่ ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยว่า การซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูล
ประเทศไทยจะได้ผลประโยชน์หลายอย่างโดยเฉพาะผลประโยชน์ทางธุรกิจที่จะตามมาหลายอย่างและหากเข้าไปมีหุ้นแล้วจะเป็นช่องทางอันดีต่อการกระจายสินค้าของไทยไปสู่ต่างประเทศ
"ตั้งแต่มีข่าวผมจะซื้อหุ้นลิเวอร์พูลทำให้ผมเป็น ผู้นำประเทศที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
เช่นเดียว กับอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐเชชเนียที่ถูกลอบวางระเบิดจนเสียชีวิต"
นายสุทินอ้างคำพูดนายกฯ เผยสูตรระดมเงิน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจมากที่สุดคือ แหล่งเงินในการซื้อหุ้นลิเวอร์พูล
พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แจ้งรายละเอียดทั้งในที่ประชุม ครม.และที่ประชุมพรรค ว่า จะเป็นเงินส่วนตัวหรือเงินภาษีประชาชน
พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ที่อาคารชินวัตรก่อนเข้าประชุมพรรค ว่า วันนี้ขอให้ซื้อมาให้ได้ก่อน
จากนั้นจะโดยประชาชนหรือรัฐบาลหรือเอกชนจะพิจารณาอีกครั้ง
"ยังไม่อยากพูดเพราะเร็วไป เอาสเต็ปแรกก่อน ให้เขายอมขายให้เราก่อนในเงื่อนไขที่เราได้เสนอไป
ถ้าลิเวอร์พูลยอมและยืนยันชัดเจนแล้วก็จะมีสเต็ปต่อไปว่าจะเอาเงินที่ไหน ใครจะซื้อ
ใครจะถือหุ้น ซึ่งขณะนี้มีภาคเอกชนพร้อมจะลงขันซื้ออยู่แล้ว"
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตั้งองค์กรมหาชนขึ้นมาเข้าไปซื้อ พ.ต.ท.ทักษิณ
กล่าวว่า ก็น่าสนใจอยู่
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมช.พาณิชย์ ในฐานะผู้นำทีมในการเจรจาของพ.ต.ท.ทักษิณ
กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้อาจจะจัดตั้งบริษัทขึ้นมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนเข้าไปซื้อหุ้นและ
ในระหว่างการดำเนินการขั้นตอนสุดท้าย ทางบริษัทดังกล่าวอาจจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยการเปิดขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปก่อนจากนั้นที่เหลือจะขายให้เอกชนที่สนใจ
"ขณะนี้มีบริษัทต่าง ๆ แสดงเจตจำนงในการซื้อ หุ้นจำนวนมาก แต่รัฐบาลต้องการให้ประชาชนเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลด้วย
เพื่อให้มีส่วนร่วมในการร่วม กันในการพัฒนากีฬาฟุตบอล จึงต้องกระจายหุ้นไปให้ประชาชนก่อน
และคิดว่าไม่น่าใช้เงินของรัฐด้วยซ้ำ"
เบียร์ช้าง-การบินไทย-สามารถสนร่วม
สำหรับเอกชน ที่จะเข้าร่วมถือหุ้นหากพ.ต.ท. ทักษิณ เลือกแนวทางการระดมเงินจากภาคธุรกิจเป็นแกนหลัก
แหล่งข่าวใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า น่าจะประกอบด้วยเบียร์ช้าง การบินไทย และหาก
เป็นหน่วยงานรัฐก็จะมี สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายกฯอยู่ระหว่างการตัด สินใจพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละแนวทาง
อย่างไรก็ตามผลการเจรจาเบื้องต้นนั้นได้มีการต่อรองให้ปรับ ลดราคาในการซื้อขายหุ้นดังกล่าวลดลงได้
100 ล้านบาทจาก 4,600 ล้านบาท เหลือเพียง 4,500 ล้านบาท
ด้าน นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น
จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า สนใจหากมีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลและที่ผ่านมากลุ่มสามารถ
คอร์ป ก็เคยมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการแข่งขันฟุตบอลมาตลอด ทั้งในแง่การเป็นสปอนเซอร์ก็หลายครั้ง
เพียงแต่ความสนใจครั้งนี้ต้องรอดูรายละเอียดก่อนว่าจะเข้าร่วมได้ในลักษณะไหน
เดวิด มัวร์ ยอมสละหุ้นบรรพบุรุษ
เดวิด มัวร์ ประธานสโมสรคนล่าสุดของสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบัน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ
สโมสร 51% โดยอันดับที่สองเป็นบริษัท เกรนาดา 9.9% และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ
สตีฟ มอร์แกน นักธุรกิจชื่อดังซึ่งเคยยื่นข้อเสนอขอซื้อหุ้นเพิ่ม กับสโมสรเช่นเดียวก่อนหน้านี้
ปัจจุบันถืออยู่ 5% ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นของผู้ถือหุ้นรายย่อย
ถ้ากลุ่มทุนจากประเทศไทยสามารถตกลงกับสโมสรได้ ด้วยการเข้าถือหุ้น 30% ก็จะทำให้เป็นกลุ่ม
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์มีเสียงในการบริษัทสโมสรไม่น้อยทีเดียว
ข่าวล่าสุดระบุว่า เดวิด มัวร์ ซึ่งได้รับมรดกตก ทอดหุ้นส่วนสโมสรมาจากครอบครัวของเขา
ซึ่งเป็นเจ้าของ ลิเวอร์พูล มานานกว่า 50 ปีแล้ว โดย มัวร์ จะยอมขายหุ้นที่ตัวเขาเองถืออยู่
ให้กับกลุ่มประเทศ ไทยส่วนหนึ่งด้วย และจะระดมอีกส่วนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ครบ
30% ที่ฝ่ายไทยต้องการ
การตัดสินใจยอมขายหุ้นครั้งนี้ของประธานสโมสร ถือเป็นการแหกนโยบายอนุรักษนิยมของสโมสร
เพราะต้องการหาเงินก้อนใหญ่เข้ามาอัดฉีดทีม เพื่อซื้อนักเตะฝีเท้าระดับโลก และสร้างสนามแห่งใหม่แทน
สนามแอนฟิลด์แห่งเดิม ซึ่งจุได้เพียง 45,000 ที่นั่งเท่านั้น
เสียงส่วนใหญ่อยากให้ทักษิณควักเอง
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจความคิดเห็นเรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไรต่อความสนใจของนายกรัฐมนตรีในการซื้อหุ้นลิเวอร์พูล
ทีมฟุตบอลดังจากอังกฤษ : กรณีศึกษาประชาชนทั่ว ไปเปรียบเทียบกับกลุ่มวัยรุ่นที่สนใจกีฬาฟุตบอลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล"
จากการสุ่มตัวอย่างจำนวน 1,253 คน เมื่อวันที่ 9-10 พฤษภาคม โดยกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ
83.2 ประชาชนทั่วไปร้อยละ 47.8 เห็นด้วยต่อประเด็นที่ว่า การซื้อหุ้นลิเวอร์พูลจะสามารถพัฒนาการกีฬาฟุตบอลไทย
สำหรับความเห็นที่ว่า ถ้าจะมีการลงทุนซื้อ ลิเวอร์พูลควรจะใช้เงินส่วนใดนั้น
ประชาชนทั่วไปร้อย ละ 63.7 และกลุ่มวัยรุ่นร้อยละ 60.1 เห็นว่าควรใช้เงินส่วนตัวของ
พ.ต.ท.ทักษิณ
นักธุรกิจเมืองลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอแข่งทักษิณ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายสตีฟ มอร์แกน นักธุรกิจชาวเมืองลิเวอร์พูล ได้ยื่นข้อเสนอขึ้นมาแข่งขัน
เพื่อพยายามหยุดยั้งไม่ให้นายกฯไทยได้ครอบครองหุ้น 30% ของสโมสรลิเวอร์พูล
นายมอร์แกนได้เขียนจดหมายถึงสโมสรลิเวอร์พูล ขอเปิดการเจรจาเรื่องแผนการของเขาที่จะอัดฉีดเงินจำนวน
73 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,256 ล้านบาท) ซื้อหุ้นสโมสร โดยอยู่ในรูปการออกหุ้นใหม่ที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ซึ่งเขาคาดว่าจะระดมเงินได้ 61 ล้านปอนด์ และอยู่ในรูปการออกหุ้นใหม่ขายตรงแก่แฟนๆ
ผู้สนับสนุนสโมสร ที่เขาระบุว่าน่าจะระดมเงินได้อีก 12 ล้านปอนด์
ทั้งนี้ นายมอร์แกน ซึ่งอดีตเคยเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้าง เรดโรว์ จะเป็นผู้ประกันการจำหน่ายหุ้นเหล่านี้
โดยผ่านบริษัทในปัจจุบันของเขาที่มีชื่อว่า บริดจ์เมียร์ อินเวสต์เมนต์ ลิมิเต็ด
นักธุรกิจชาวลิเวอร์พูลผู้นี้ยังได้ออกคำแถลง ซึ่งตอนหนึ่งกล่าวว่า "ในความเห็นของผม
อนาคตของสโมสร จะไปได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ในมือของคนที่รักสโมสรมากที่สุด นั่นคือ
บรรดาแฟนๆ ผู้สนับสนุน ซึ่งผมภาคภูมิใจมากที่เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น"
คำแถลงของนายมอร์แกนระบุว่า ข้อเสนอของเขาไม่เพียงทำให้สโมสรยังคงเป็นของแฟนๆ
ผู้สนับสนุนตัวจริง แต่ยังจะได้เงินทุนใหม่ 73 ล้านปอนด์ ที่จะอัดฉีดทำให้ทีมผู้เล่นของสโมสรแข็งแกร่ง
ขึ้น ตลอดจนช่วยอุดหนุนโครงการสร้างสนามแข่งขันใหม่ซึ่งกำลังเสนอกันอยู่อีกด้วย
ยิ่งกว่านั้น สิทธิเชิงพาณิชย์ในเอเชียของสโมสร ก็ยังจะคงเป็นสมบัติของสโมสร
อันจะทำให้สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ได้ประโยชน์ จากการใช้สิทธิเหล่านี้
ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งสำคัญยิ่งในการหารายได้ในอนาคต
นายมอร์แกนแจ้งว่า จะอธิบายรายละเอียดแผนการของเขาในการแถลงข่าววันนี้(12)
ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีระบุ นายมอร์แกนเป็นคนที่คอยวิพากษ์วิจารณ์นายเดวิด มัวร์
ประธานสโมสรลิเวอร์พูลคนปัจจุบันเรื่อยมา ดังนั้น นายมัวร์ย่อมไม่ปรารถนาที่จะสละความเป็นเจ้าของสโมสรบางส่วนให้แก่นายมอร์แกน
แต่จากข้อเสนอใหม่นี้ นายมัวร์ยังมีสิทธิซื้อหุ้นใหม่บางส่วน และรักษาเก้าอี้ประธานสโมสรไว้ต่อ
ไป เพียงแต่ต้องยอมให้นายมัวร์ก้าวเข้ามานั่งในบอร์ด สโมสรด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่นายมัวร์จะต้องชั่งใจ