ระดมทุนซือหงส์แดง"ทักษิณ"เจอคู่แข่งนักธุรกิจลิเวอร์พูล


ผู้จัดการรายวัน(12 พฤษภาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

เผยแนวทางระดมเงินซื้อหุ้นหงส์แดงของนายกฯไทย หวังยิงปืนนัดเดียว ได้ทั้งชื่อทั้งเงิน ตั้งเป็นบริษัทหรือกองทุนกระจายหุ้นให้คนไทยร่วมเป็นเจ้าของ ก่อนเจียดให้กลุ่มธุรกิจที่สนใจ วงในเผย "บิ๊กเบียร์ช้าง-การบินไทย-สามารถคอร์ป-กองสลากฯ" พร้อมโดดร่วมขบวน "ทักษิณ" สุดคึกคุยฟุ้งทั้งในครม.และที่ประชุมพรรคระบุ ดังระดับโลกแล้ว กลบข่าวรุนแรงใต้ลงชะงัด ล่าสุดเจอนักธุรกิจลิเวอร์พูลเกทับ 5,256 ล้านบาท แย่งซื้อ

จากกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เจรจาขอซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล หรือหงส์แดง ทีมฟุตบอลชื่อดังในพรีเมียร์ลีกประเทศอังกฤษในสัดส่วน 30% คิดเป็นมูลค่าราว4,600ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการบริหารของลิเวอร์พูล ตัดสินใจซึ่งคาดว่าจะทราบผลในวันศุกร์ที่ 14 พ.ค.นี้ กระแสดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีและการประชุมใหญ่ส.ส.พรรคไทยรักไทย วานนี้(11 พ.ค.)

นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีได้เล่าให้ครม.ฟังถึงที่มาและเหตุผลของ การซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลซึ่งขณะนี้อยู่ในความสนใจอย่างมาก ทำให้เรื่องความรุนแรงทางภาคใต้หายไป 1 วัน โดยเหตุที่นายกฯต้องเล่าเพราะข่าวที่ออกไปมีทั้งจริงและไม่จริง มีการต่อเติมกันไปบ้าง "ไม่อยากให้มองฟุตบอลเป็นแค่ฟุตบอล" นายกฯกล่าวในที่ประชุมครม.

ขณะเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้อ้างคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พูดต่อที่ประชุมใหญ่ ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยว่า การซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูล ประเทศไทยจะได้ผลประโยชน์หลายอย่างโดยเฉพาะผลประโยชน์ทางธุรกิจที่จะตามมาหลายอย่างและหากเข้าไปมีหุ้นแล้วจะเป็นช่องทางอันดีต่อการกระจายสินค้าของไทยไปสู่ต่างประเทศ

"ตั้งแต่มีข่าวผมจะซื้อหุ้นลิเวอร์พูลทำให้ผมเป็น ผู้นำประเทศที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เช่นเดียว กับอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐเชชเนียที่ถูกลอบวางระเบิดจนเสียชีวิต" นายสุทินอ้างคำพูดนายกฯ เผยสูตรระดมเงิน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจมากที่สุดคือ แหล่งเงินในการซื้อหุ้นลิเวอร์พูล พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แจ้งรายละเอียดทั้งในที่ประชุม ครม.และที่ประชุมพรรค ว่า จะเป็นเงินส่วนตัวหรือเงินภาษีประชาชน

พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ที่อาคารชินวัตรก่อนเข้าประชุมพรรค ว่า วันนี้ขอให้ซื้อมาให้ได้ก่อน จากนั้นจะโดยประชาชนหรือรัฐบาลหรือเอกชนจะพิจารณาอีกครั้ง

"ยังไม่อยากพูดเพราะเร็วไป เอาสเต็ปแรกก่อน ให้เขายอมขายให้เราก่อนในเงื่อนไขที่เราได้เสนอไป ถ้าลิเวอร์พูลยอมและยืนยันชัดเจนแล้วก็จะมีสเต็ปต่อไปว่าจะเอาเงินที่ไหน ใครจะซื้อ ใครจะถือหุ้น ซึ่งขณะนี้มีภาคเอกชนพร้อมจะลงขันซื้ออยู่แล้ว"

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตั้งองค์กรมหาชนขึ้นมาเข้าไปซื้อ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็น่าสนใจอยู่

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมช.พาณิชย์ ในฐานะผู้นำทีมในการเจรจาของพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้อาจจะจัดตั้งบริษัทขึ้นมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนเข้าไปซื้อหุ้นและ ในระหว่างการดำเนินการขั้นตอนสุดท้าย ทางบริษัทดังกล่าวอาจจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยการเปิดขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปก่อนจากนั้นที่เหลือจะขายให้เอกชนที่สนใจ

"ขณะนี้มีบริษัทต่าง ๆ แสดงเจตจำนงในการซื้อ หุ้นจำนวนมาก แต่รัฐบาลต้องการให้ประชาชนเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลด้วย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการร่วม กันในการพัฒนากีฬาฟุตบอล จึงต้องกระจายหุ้นไปให้ประชาชนก่อน และคิดว่าไม่น่าใช้เงินของรัฐด้วยซ้ำ"

เบียร์ช้าง-การบินไทย-สามารถสนร่วม

สำหรับเอกชน ที่จะเข้าร่วมถือหุ้นหากพ.ต.ท. ทักษิณ เลือกแนวทางการระดมเงินจากภาคธุรกิจเป็นแกนหลัก แหล่งข่าวใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า น่าจะประกอบด้วยเบียร์ช้าง การบินไทย และหาก เป็นหน่วยงานรัฐก็จะมี สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

แหล่งข่าวกล่าวว่า นายกฯอยู่ระหว่างการตัด สินใจพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละแนวทาง อย่างไรก็ตามผลการเจรจาเบื้องต้นนั้นได้มีการต่อรองให้ปรับ ลดราคาในการซื้อขายหุ้นดังกล่าวลดลงได้ 100 ล้านบาทจาก 4,600 ล้านบาท เหลือเพียง 4,500 ล้านบาท

ด้าน นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า สนใจหากมีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลและที่ผ่านมากลุ่มสามารถ คอร์ป ก็เคยมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการแข่งขันฟุตบอลมาตลอด ทั้งในแง่การเป็นสปอนเซอร์ก็หลายครั้ง เพียงแต่ความสนใจครั้งนี้ต้องรอดูรายละเอียดก่อนว่าจะเข้าร่วมได้ในลักษณะไหน

เดวิด มัวร์ ยอมสละหุ้นบรรพบุรุษ

เดวิด มัวร์ ประธานสโมสรคนล่าสุดของสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบัน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ สโมสร 51% โดยอันดับที่สองเป็นบริษัท เกรนาดา 9.9% และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ สตีฟ มอร์แกน นักธุรกิจชื่อดังซึ่งเคยยื่นข้อเสนอขอซื้อหุ้นเพิ่ม กับสโมสรเช่นเดียวก่อนหน้านี้ ปัจจุบันถืออยู่ 5% ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นของผู้ถือหุ้นรายย่อย

ถ้ากลุ่มทุนจากประเทศไทยสามารถตกลงกับสโมสรได้ ด้วยการเข้าถือหุ้น 30% ก็จะทำให้เป็นกลุ่ม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์มีเสียงในการบริษัทสโมสรไม่น้อยทีเดียว

ข่าวล่าสุดระบุว่า เดวิด มัวร์ ซึ่งได้รับมรดกตก ทอดหุ้นส่วนสโมสรมาจากครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของ ลิเวอร์พูล มานานกว่า 50 ปีแล้ว โดย มัวร์ จะยอมขายหุ้นที่ตัวเขาเองถืออยู่ ให้กับกลุ่มประเทศ ไทยส่วนหนึ่งด้วย และจะระดมอีกส่วนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ครบ 30% ที่ฝ่ายไทยต้องการ

การตัดสินใจยอมขายหุ้นครั้งนี้ของประธานสโมสร ถือเป็นการแหกนโยบายอนุรักษนิยมของสโมสร เพราะต้องการหาเงินก้อนใหญ่เข้ามาอัดฉีดทีม เพื่อซื้อนักเตะฝีเท้าระดับโลก และสร้างสนามแห่งใหม่แทน สนามแอนฟิลด์แห่งเดิม ซึ่งจุได้เพียง 45,000 ที่นั่งเท่านั้น

เสียงส่วนใหญ่อยากให้ทักษิณควักเอง

สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจความคิดเห็นเรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไรต่อความสนใจของนายกรัฐมนตรีในการซื้อหุ้นลิเวอร์พูล ทีมฟุตบอลดังจากอังกฤษ : กรณีศึกษาประชาชนทั่ว ไปเปรียบเทียบกับกลุ่มวัยรุ่นที่สนใจกีฬาฟุตบอลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล" จากการสุ่มตัวอย่างจำนวน 1,253 คน เมื่อวันที่ 9-10 พฤษภาคม โดยกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 83.2 ประชาชนทั่วไปร้อยละ 47.8 เห็นด้วยต่อประเด็นที่ว่า การซื้อหุ้นลิเวอร์พูลจะสามารถพัฒนาการกีฬาฟุตบอลไทย

สำหรับความเห็นที่ว่า ถ้าจะมีการลงทุนซื้อ ลิเวอร์พูลควรจะใช้เงินส่วนใดนั้น ประชาชนทั่วไปร้อย ละ 63.7 และกลุ่มวัยรุ่นร้อยละ 60.1 เห็นว่าควรใช้เงินส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ

นักธุรกิจเมืองลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอแข่งทักษิณ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายสตีฟ มอร์แกน นักธุรกิจชาวเมืองลิเวอร์พูล ได้ยื่นข้อเสนอขึ้นมาแข่งขัน เพื่อพยายามหยุดยั้งไม่ให้นายกฯไทยได้ครอบครองหุ้น 30% ของสโมสรลิเวอร์พูล

นายมอร์แกนได้เขียนจดหมายถึงสโมสรลิเวอร์พูล ขอเปิดการเจรจาเรื่องแผนการของเขาที่จะอัดฉีดเงินจำนวน 73 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,256 ล้านบาท) ซื้อหุ้นสโมสร โดยอยู่ในรูปการออกหุ้นใหม่ที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งเขาคาดว่าจะระดมเงินได้ 61 ล้านปอนด์ และอยู่ในรูปการออกหุ้นใหม่ขายตรงแก่แฟนๆ ผู้สนับสนุนสโมสร ที่เขาระบุว่าน่าจะระดมเงินได้อีก 12 ล้านปอนด์

ทั้งนี้ นายมอร์แกน ซึ่งอดีตเคยเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้าง เรดโรว์ จะเป็นผู้ประกันการจำหน่ายหุ้นเหล่านี้ โดยผ่านบริษัทในปัจจุบันของเขาที่มีชื่อว่า บริดจ์เมียร์ อินเวสต์เมนต์ ลิมิเต็ด

นักธุรกิจชาวลิเวอร์พูลผู้นี้ยังได้ออกคำแถลง ซึ่งตอนหนึ่งกล่าวว่า "ในความเห็นของผม อนาคตของสโมสร จะไปได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ในมือของคนที่รักสโมสรมากที่สุด นั่นคือ บรรดาแฟนๆ ผู้สนับสนุน ซึ่งผมภาคภูมิใจมากที่เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น"

คำแถลงของนายมอร์แกนระบุว่า ข้อเสนอของเขาไม่เพียงทำให้สโมสรยังคงเป็นของแฟนๆ ผู้สนับสนุนตัวจริง แต่ยังจะได้เงินทุนใหม่ 73 ล้านปอนด์ ที่จะอัดฉีดทำให้ทีมผู้เล่นของสโมสรแข็งแกร่ง ขึ้น ตลอดจนช่วยอุดหนุนโครงการสร้างสนามแข่งขันใหม่ซึ่งกำลังเสนอกันอยู่อีกด้วย

ยิ่งกว่านั้น สิทธิเชิงพาณิชย์ในเอเชียของสโมสร ก็ยังจะคงเป็นสมบัติของสโมสร อันจะทำให้สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ได้ประโยชน์ จากการใช้สิทธิเหล่านี้ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งสำคัญยิ่งในการหารายได้ในอนาคต

นายมอร์แกนแจ้งว่า จะอธิบายรายละเอียดแผนการของเขาในการแถลงข่าววันนี้(12)

ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีระบุ นายมอร์แกนเป็นคนที่คอยวิพากษ์วิจารณ์นายเดวิด มัวร์ ประธานสโมสรลิเวอร์พูลคนปัจจุบันเรื่อยมา ดังนั้น นายมัวร์ย่อมไม่ปรารถนาที่จะสละความเป็นเจ้าของสโมสรบางส่วนให้แก่นายมอร์แกน

แต่จากข้อเสนอใหม่นี้ นายมัวร์ยังมีสิทธิซื้อหุ้นใหม่บางส่วน และรักษาเก้าอี้ประธานสโมสรไว้ต่อ ไป เพียงแต่ต้องยอมให้นายมัวร์ก้าวเข้ามานั่งในบอร์ด สโมสรด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่นายมัวร์จะต้องชั่งใจ



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.