ปตท.ยอมรับสนใจซื้อปั๊มน้ำมันคิวเอท หลังบริษัทแม่เร่ขาย เหตุไม่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดค้าปลีก
น้ำมันในไทยที่ใช้เงินลงทุนไปกว่า 5 พันล้านบาท มั่นใจได้ข้อสรุปภาย ในปีนี้ ขณะเดียวกันเซ็นสัญญา
ตั้งแบงก์พาณิชย์ 3 แห่งเป็นอันเดอร์ไรต์หุ้นกู้ มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท นำเงินไปลงทุนระยะยาว
และชำระคืนหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนด
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)
เปิดเผยว่า ปตท.มีความสนใจที่จะเข้าไป ซื้อกิจการสถานีบริการน้ำมันคิวเอท เพื่อขยายธุรกิจน้ำมันให้มีศักยภาพ
หลังจากบริษัทคูเวต ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของปั๊มน้ำมันคิวเอทได้ส่งเอกสารเสนอขาย
ธุรกิจปั๊มน้ำมันคิวเอทในไทย 125 แห่งให้กับบริษัทน้ำมันต่างๆ โดยปตท. ได้เซ็นเอกสารที่จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในการเจรจาในขั้นตอนต่อไปส่งไปให้คิวเอทเรียบร้อย
แล้ว
โดยปั๊มน้ำมันคิวเอทส่วนใหญ่มีทำเลที่ดี โดยกระจายอยู่รอบ กรุงเทพฯและปริมณฑล
ไม่ทับซ้อน ในเรื่องพื้นที่ปั๊มน้ำมันของปตท.ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่มีปัญหาการแข่งขันกันเองระหว่างปั๊มใหม่และปั๊มเก่าของปตท.
จึงมั่นใจว่าจะไม่ขาดทุนในการทำกิจการหลังรับช่วง มาจากคิวเอท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าที่ปตท.จะเสนอซื้อปั๊มคิวเอทได้ แต่เท่าที่ทราบ
คิวเอทได้ใช้เงินลงทุนในการก่อสร้าง ปั๊มไปกว่า 5,000 ล้านบาท คาดว่า การเจรจาดีลนี้กับคิวเอทจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
สาเหตุที่คิวเอท ต้องการขาย กิจการนั้น เนื่องมาจากไม่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดค้าปลีกน้ำมัน
และไม่สามารถแข่งขันในธุรกิจน้ำมันในประเทศไทยได้อีกต่อไป เพราะขณะนี้สถานการณ์
ค้าปลีกน้ำมันค่อนข้างรุนแรง รวมทั้งต้องมีรายได้หรือกำไรมาจากธุรกิจเสริม เช่น
มินิมาร์ท คาร์แคร์ เพื่อนำรายได้มาถัวเฉลี่ยกำไร หากบริษัทใด เน้นเพียงการขายน้ำมัน
ก็จะไม่สามารถ อยู่ได้ ส่วนธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน หรือบริษัทน้ำมันต่างประเทศ ที่จะเข้ามาเปิดกิจการในไทย
นับจากนี้ คงไม่มีรายใดเข้ามาลงทุนอีก เพราะอยู่ในภาวะที่ไม่น่าลงทุน
ปัจจุบันปตท.มีปั๊มสาขาอยู่ 1,400 แห่ง โดยจะมีการทยอยปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพ
เพื่อลดต้นทุน ส่วนจะมีการซื้อกิจการปั๊มน้ำมันจากบริษัท น้ำมันแห่งอื่น นอกเหนือจากคิวเอท
ยอมรับว่าหากมีผู้เสนอขาย ปตท.ก็พร้อมจะพิจารณาข้อเสนอ โดยต้องดูเรื่องราคาและทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม
เป็นเงื่อนไขในการพิจารณา
ปตท.ออกหุ้นกู้ 1.9 หมื่นล้าน
วานนี้ (11 พ.ค.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในประเทศครั้งที่
1/2547 วงเงินรวม 19,000 ล้านบาท กับธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย
โดยมีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานในพิธีลงนาม
ปตท.จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้รวมมูลค่า 19,000 ล้านบาท มาใช้ในโครงการลงทุนระยะยาวของปตท.
อาทิ โครงการก่อสร้าง ท่อส่งก๊าชธรรมชาติเส้นที่ 3 และโครงการก่อสร้าง โรงแยกก๊าชฯ
แห่งที่ 5 รวมถึงการชำระคืนเงินกู้ที่ครบกำหนด
ทั้งนี้หุ้นกู้ที่จะนำออกจำหน่ายแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นที่ 1 มีมูลค่า 15,000
ล้านบาท เป็นหุ้นกู้อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ยระยะเวลา 4 ปีแรก 4.25% ต่อปี และ 4
ปีหลัง 5.75% รุ่นที่ 2 มูลค่า 3,000 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย
ระยะเวลา 6 ปีแรก 5% ต่อปี และระยะเวลา 6 ปี หลัง 5.95% และรุ่นที่ 3 มูลค่า 1,000
ล้านบาท เป็นหุ้นกู้อายุ 15 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.9% ต่อปี
โดยหุ้นกู้ในรุ่นที่ 1 และ 2 นั้นจะทำการจัดจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่
14-19 พฤษภาคมนี้ โดยจำหน่ายจองซื้อขั้นต่ำจะต้องไม่น้อยกว่า 100 หน่วย โดยสามารถจองซื้อที่ธนาคารพาณิชย์ทั้ง
3 แห่ง ส่วนหุ้นกู้ในรุ่นที่ 3 จะเป็นการจำหน่ายให้แก่นักลงทุนสถาบันทั้งจำนวน
นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า หุ้นกู้ของปตท.ที่ออกขายในครั้งนี้ ยังไม่ทันขายก็สามารถ
จำหน่ายได้หมดแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชน มั่นใจเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้จองซื้อหุ้นปตท.ที่ออกจำหน่ายในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
โดย นักลงทุนสถาบันได้จองซื้อล้นโควตาเกือบ 2 เท่า ส่วนนักลงทุนรายย่อยแม้ว่ายังไม่เปิดจำหน่าย
แต่มีนักลงทุนรายย่อยก็ติดต่อจองซื้อมายังธนาคารพาณิชย์ทั้ง 3 แห่งที่จัดจำหน่ายเป็นจำนวนมาก