บล.ทิสโก้ตั้งเป้าปี47ฟันรายได้1,200ล้าน


ผู้จัดการรายวัน(12 พฤษภาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

บล.ทิสโก้ยังไม่สนเข้าจดทะเบียนในตลาดเน้นยกบง.ขึ้นเป็นแบงก์ก่อน ตั้งเป้าปีนี้โกยรายได้ 1,200 ล้านบาท จากธุรกิจวาณิชธนกิจที่ก้าวกระโดดประมาณ 400 ล้านบาท เตรียมดันหุ้นใหม่เข้าตลาดหุ้น 23 บริษัทคิดเป็นเม็ดเงินระดมทุนกว่า 1 แสนล้าน ขณะที่ด้านนายหน้าค้าหลักทรัพย์ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาด 4%

นายวันชัย มโนสุทธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัดเปิดเผยว่า ภายในปี 2547 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะมาจากค่า นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 800 ล้านบาท และมาจากธุรกิจวาณิชธนกิจประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 56% ค่าธรรม เนียมในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้านวาณิชธนกิจ 44%

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกปีนี้รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมาก โดยปีก่อนทั้งปีมีรายได้ 155 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกสามารถทำได้ 230 ล้านบาทมากกว่าปีก่อนทั้งปีแล้ว

สาเหตุเนื่องจากในช่วงที่ผ่าน มาได้เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัททีพีไอโพลีนในการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอ ขายแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งในขณะนี้บริษัทก็จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกประมาณ 23 บริษัท

โดยได้มีการเซ็นสัญญาแต่งตั้งให้บล.ทิสโก้เป็นที่ปรึกษาทาง การเงินแล้ว 15 บริษัทส่วนอีก 8 บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินจากการระดมทุนอยู่ประมาณ 1.1-1.2 แสนล้านบาท โดยลูกค้าใหญ่สุดได้แก่รัฐวิสาหกิจซึ่งได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต,การไฟฟ้า นครหลวง และ ทศท คอร์ปอเรชั่น ซึ่งคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ภายในปีหน้า สำหรับบริษัทที่จะนำเข้าจดทะเบียน 23 บริษัทเช่นบล.อินเทลวิชั่น คาดว่าจะระดมทุน 800-1,000 ล้านบาท, บล.ไซรัส คาดว่าจะระดมทุน 700-800 ล้านบาท, บริษัทไทย น็อกซ์ คาดว่าจะระดมทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท

โดยเตรียมจะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเสนอขายหุ้นได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงบริษัทสหมงคลอินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทแปซิฟิกไพน์ บริษัทที่ทำธุรกิจปาร์ติเคิลบอร์ด,ธุรกิจผลิตพลาสติกและธุรกิจปิโตรเคมีเป็นต้น อย่างไรก็ตามจะสามารถ นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 23 บริษัทหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้นโดยรวมว่าเป็นอย่างไร

"บล.ทิสโก้ จะคัดเลือกหุ้นที่ดี มีคุณภาพราคาหุ้นที่กำหนดจะเป็นระดับราคาที่เหมาะสม มีมาตรฐาน ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าจะได้กำไรและให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน"

นายวันชัย กรรมการผู้จัดการ บล. ทิสโก้กล่าวว่า ส่วนธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์นั้น ภายในปีก่อนมีรายได้ประมาณ 760 ล้านบาท แต่ปีนี้จะเพิ่มขึ้นในระดับประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าเป็นนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ 45% นักลงทุนทั่วไป 45% และนักลงทุนที่ซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต 10%

ขณะนี้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ระดับ 3.5-3.6% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 3.4% และตั้งเป้าว่าทั้งปีจะอยู่ในระดับ 4% แผนการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดคือการนำบริษัทจดทะเบียนไปโรดโชว์ต่างประเทศ เพื่อหวังให้นักลงทุนต่างประเทศได้ส่งคำสั่งซื้อขายผ่านบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดสำนักงานสาขาบริการค้าหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก 8 แห่งแบ่งเป็นในกรุงเทพฯและปริมณฑล 4 แห่งซึ่งจะเปิดดำเนินการก่อนหลังจากนั้นก็จะเปิดอีก 4 แห่งที่ต่างจังหวัด

โดยปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานสาขาบริการค้าหลักทรัพย์แล้ว 4 แห่งคือที่เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา และนครปฐม

นายวันชัยกล่าวว่า บล.ทิสโก้ยังไม่มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยสิ่งที่จะต้องดำเนินการขณะนี้คือการยกระดับบริษัทเงินทุนทิสโก้ให้เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ให้เรียบร้อยเสียก่อน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.