4ด.TPIอีบิทดาโต111%ประชัยต้านขายหุ้นถูก


ผู้จัดการรายวัน(11 พฤษภาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ก.ล.ต.เตรียมออกประกาศกองทุนตราสารทุนระยะยาวภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากมีการหารือกับก.ล.ต. และสรรพากรอีกครั้ง "อดิศร" นายกสมาคมบลจ.ชี้ทุกบลจ.สนใจจะออก กองทุนคาดว่าจะได้เห็นภายในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 นี้ ระบุภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง เป็นจังหวะเหมาะที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน

วานนี้ (10 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้หารือในข้อปฏิบัติและการวางกรอบเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาวที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจากมาตรการของรัฐบาล

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน(บลจ.)ไทยพาณิชย์ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สมาคมได้เข้าหารือกับก.ล.ต.เกี่ยวกับแนวทางการ จัดตั้งกองทุนตราสารทุนระยะยาว (Longtermequity fund) ซึ่งเป็น กองทุนที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี โดยได้หารือเกี่ยวกับกรอบกฎเกณฑ์ ของกองทุน และคาดว่าสำนักงาน ก.ล.ต.จะสามารถออกประกาศกฎเกณฑ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้รูปแบบของกองทุนจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้คือจะดำรงการถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 65% และผู้ถือหน่วยกองทุนจะต้องถือในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี แต่ถ้ามีการขายออกมาก่อนกำหนดสิทธิประโยชน์ดังกล่าวก็จะไม่ได้รับ

"นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนตราสาร ทุนระยะยาว ถ้ามีการขายหน่วยลงทุนออกมาก่อนกำหนดระยะเวลา 5 ปีนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าเงินต้นที่เข้ามาลงทุนจะได้รับผลกระทบ เพราะทางการจะไม่ยุ่งเกี่ยว เพียงแต่จะไม่ได้รับสิทธิภาษีที่ให้ไปตั้งแต่เริ่มลงทุน โดยเงินต้นนั้นมูลค่าจะขึ้นหรือลดลงนั้นขึ้นอยู่กับราคาหุ้นที่เข้าไปลงทุนว่าเป็นอย่างไร"

นายอดิศรกล่าวว่า สมาคมบลจ.จะมีการหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต.กับสรรพากรอีกครั้ง เพื่อที่จะหารือเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อย เช่นการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยว่าจะมีวิธีการแบบใด เป็นต้น นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง แต่ก็ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะสำหรับกองทุน ตราสารทุนระยะยาวที่จะออก เพื่อที่จะสามารถเข้ามาลงทุนในหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลง และจากการที่สภาพเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่ขยายตัว อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น จึงเชื่อว่าโอกาสที่ภาวะหุ้นจะปรับตัวลงอย่างหนักจึงมีไม่มากนัก ทั้งนี้จากการ สอบถามบลจ.ที่เป็นสมาชิกสมาคมนั้น ปรากฏว่าบลจ.ทุกแห่งจะให้ความสนใจอย่างมากที่จะออก เพราะถือว่าเป็นกองทุนที่ดีเพราะเป็นกองทุนที่ ทางการให้การสนับสนุนและได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี โดยคาดว่าจะมีการออกกองทุนดังกล่าวภายในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

"ผลตอบแทนจากกองทุนตราสารทุนระยะยาวนั้น น่าจะอยู่ในระดับที่ดีถ้าพิจารณาจากปัจจัยโดยรอบ ทั้งจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 20-30% โดยพี/อี เรโชของตลาดยังอยู่ในระดับเท่าเดิม และคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 15-20%Ž"นายอดิศรกล่าว

นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาติ จำกัด กล่าวว่าได้มีการหารือร่วม กันเกี่ยวกับปัญหาในการปฏิบัติงานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาว ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยมีประเด็นที่ได้หารือ คือ กรณีที่กองทุนหุ้นระยะยาวเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี

ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนที่เปิดใหม่นี้ผู้ถือหน่วยสามารถโอนหน่วยลงทุนระหว่าง บลจ. ได้ ดังนั้นการควบคุมและการตรวจสอบการขายหน่วยลงทุนของสรรพากรจึงทำได้ยาก เนื่องจากขณะนี้บลจ.ก็ยังไม่มีระบบเพื่อควบคุมปัญหาดังกล่าวด้วย จึงอาจมีนักลงทุนอาศัยช่องว่างเพื่อผลประโยชน์ทางภาษี

นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างของระบบการบันทึกบัญชีของแต่ละ บลจ.เนื่องจากมีความต้องการให้มีรูปแบบการบันทึกการขายคืนหน่วยลงทุนที่เป็นระบบเดียวกันคือระบบ FIFO คือการบันทึกการซื้อขายหน่วยแบบเข้าก่อนออกก่อน แต่ บลจ. ส่วนใหญ่ใช้การบันทึกแบบเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลา

ส่วนความต้องการให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเกณฑ์กำหนดกรอบการลงทุนในอัตราไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี นั้นเป็นเกณฑ์ที่มีการกำหนดจากสรรพากรเพื่อให้เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในทางเดียวกันกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF และเพื่อสร้างความสะดวกในการดำเนินงาน ตลอดจนความเข้าใจในการให้ข้อมูลนักลงทุนในทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นการกำหนดการจ่ายปันผล ซึ่งได้มีข้อโต้แย้งจาก ผู้จัดการกองทุนว่าจะลดความสนใจในการลงทุนของนักลงทุน เนื่องจากเมื่อจะรับเงินปันผล นักลงทุนจะต้องเสียภาษีเงินปันผลที่ได้รับด้วย โดยทาง ก.ล.ต.ไม่ยินยอมให้มีการทำ ออโต้ รีเด็มชั่น ซึ่งนักลงทุนที่ขายหน่วยลงทุนแล้วได้กำไรจากการขายหน่วยลงทุน (แคปปิตอล เกน) จะไม่ต้อง จ่ายภาษีส่วนนี้

ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆในการจัดตั้งกองทุนเปิดที่ลงทุนในหุ้นระยะยาว โดยทางสมาคม บลจ. ร่วมกับ ก.ล.ต. ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดเกณฑ์ต่างๆแล้ว และสมาคม บลจ.ก็จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว อีกครั้งในวันนี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.