ตลาดวัสดุก่อสร้างเติบโตตามกระแส ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว แต่ละรายมุ่งแผนการ
ตลาดเชิงรุกทั้งระดับตัวแทนขาย กลุ่มสถาปนิก ผู้รับเหมา และผู้บริโภค พร้อมทุ่มงบเพิ่มกำลังการผลิต
เพื่อเร่งยอดขายให้ทันกับตลาดที่กำลังขยายตัว และให้ถึงเป้าหมายด้านส่วนแบ่งการตลาด
และยอดขายที่ตั้งไว้
กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้างซิเมนต์ไทย เติบโตด้วยยอดขายระดับ 18,000 ล้านบาทในปี
2546 และคาดว่า จะขยับเป็น 20,000 ล้านบาทในปีนี้ ด้วยปัจจัยสนับ สนุนของกำลังซื้อจากกลุ่มตลาดอสังหาริมทรัพย์ทุกแขนง ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม รวมถึงตลาดบ้านสร้างเองที่เติบโตไม่แพ้กันการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีของการสร้างอัตราการเติบโตของยอดขาย
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างซิเมนต์ไทย
จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย กล่าวว่า ผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ ก่อสร้างที่ผ่านมา
มีอัตราการเติบโตทั้งตลาดในและต่าง ประเทศอย่างเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องคอตโต้
ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.2547) มียอดขายประมาณ 10 ล้านตารางเมตร แบ่งเป็นยอดส่งออกประมาณ
4 ล้านตารางเมตร อีก 6 ล้านตารางเมตรเป็นตลาดภายใน ประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ
18%
จากประมาณการยอดขายที่ตั้งไว้ 20,000 ล้านบาทในปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวโดยรวมของเศรษฐกิจ
รวมถึงความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทได้เตรียมขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดที่เติบโต
โดยมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มกระเบื้องหลังคา อีก 3-4 ล้านตารางเมตร จากเดิม
25 ล้านตารางเมตร, กลุ่มเซรามิก สุขภัณฑ์ เพิ่มการผลิตอีก 6 แสนชิ้น จาก 2.5 ล้านชิ้น
และเพิ่มการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องคอตโต้ อีก 5 ล้านตารางเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับขยาย
กำลังการผลิตประมาณ 2,000 ล้านบาท นายธงชัย
กมลพัฒนะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท คอนวูด จำกัด บริษัทในเครือปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ว่าหลังจากที่ทำตลาดมา 2 ปี ตลาดเริ่มให้การตอบรับกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นวัสดุก่อสร้าง ทดแทนไม้ ทำให้บริษัทต้องลงทุนขยายโรงงานแห่งที่
2 เพื่อรองรองกับตลาดที่ขยายตัว โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 350 ล้านบาท และใช้เงินลงทุนเครื่องจักร
800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 9 ล้านตารางเมตร จากที่ทำได้ 4.5 ล้านตารางเมตรต่อปี
ซึ่งเป็นงานต่อเนื่อง จากแผนการขายในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
200 ล้านบาทในปี 2546
นายชนะ สุทธิหวังเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ (ตลาด) บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องตั้งแต่ช่วงไตรมาส
3 และ 4 ของปี 2546 ด้วยการเพิ่มเตาเผากระเบื้องอีก 2 เตา ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่ม
15,000-20,000 ตารางเมตรต่อวัน สามารถทำยอดขาย ได้ 40 ล้านตารางเมตร คิดเป็นอัตราการเติบโตจากปี
46 ประมาณ 30-40%
สำหรับแผนการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวมาจาก ความต้องการใช้กระเบื้องของตลาดภายในประเทศขยายตัว
จากกลุ่มซ่อมแซมบ้านเดิม และตกแต่งบ้านใหม่ ทั้งบ้านสร้างเอง และโครงการจัดสรร
ในส่วนของช่องทางจัดจำหน่าย บริษัทยังเน้นการ พัฒนาช่องทางขายของตัวเอง ในรูปแบบตลาดนัดกระเบื้อง
ไทล์ท้อป ปัจจุบันมีสาขา 130 แห่ง และ จะเพิ่มเป็น 150 แห่ง ภายในสิ้นปี 47 โดยใช้เงินลงทุน
3-10 ล้านบาทต่อแห่ง
นายบรรเจิด ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กัปตันเพ้นท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสีกัปตัน
กล่าวว่า บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตสีให้ได้ 6 แสน แกลลอนต่อเดือน จากปัจจุบันที่ทำได้เพียง
3 แสนแกลลอนต่อเดือน ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับความต้องการใช้ งานภายในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง
โดยจะก่อสร้าง โรงงานผลิตแห่งที่ 2 บนที่ดิน 20 ไร่ ย่านสุวินทวงศ์ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มปริมาณจำหน่ายสี
และยอดขาย 1,200 ล้านบาทตามแผนงานในปีนี้
จากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ประกอบการ กลุ่มวัสดุก่อสร้างในปีนี้ และที่เตรียมจะขยายกำลังการ
ผลิตเพิ่มอีกในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2547 นับเป็นตลาดที่ได้รับผลดีจากการขยายตัวของภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยที่อยู่ในภาวะขยายตัวสูง โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบน ถัดจากนี้น่า จะเป็นโอกาสดีของกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ที่จะรับปัจจัยสนับ สนุนกับตลาดอย่างชัดเจน ภายใน 1-2 ปีหลังการเติบโตของธุรกิจที่อยู่อาศัย และกลุ่มวัสดุก่อสร้างแล้ว