แบงก์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (HSBC) ของอังกฤษ สนใจจะซื้อกิจการด้านต่าง ๆ หากโอกาสเปิด
เพราะแบงก์กลุ่มนี้ ซึ่งปกติทำธุรกิจแบบอนุรักษนิยม วางเป้าหมายขยายตัวกว่าเท่าตัวทุกๆ
4 ปี และพร้อม จะรุกขยายธุรกิจกลุ่มในไทยเพิ่ม หลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยสดใส ตลาดทุนไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว
นายไมเคิล สมิธ (Michael Smith) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้
(The Hongkong and Shanghai Banking Corporation) ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สำนักงานฮ่องกง
ซึ่งดูแล สาขาในภูมิภาคนี้ รวมทั้งในไทยกล่าวว่า กลุ่มธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้
ซึ่งปกติทำธุรกิจ แบบอนุรักษนิยม เพราะต้องบริหารความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง
พร้อมจะซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่ม หากโอกาสเปิด
เขามองว่าเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน เป็นช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะตลาดทุนไทย ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ซึ่งกลุ่มพร้อมจะขยายธุรกิจบริการด้านการเงินในประเทศไทยต่อเนื่อง แม้แผนแม่บทสถาบันการเงินไทย
(Financial Master Plan) ฉบับล่าสุด ค่อนข้างจำกัดบทบาทของธนาคารต่างประเทศในไทยก็ตาม
แม้กลุ่มธนาคารฮ่องกงดำเนินธุรกิจแบบอนุรักษนิยม แต่เขากล่าวว่า เป้าหมายธุรกิจกลุ่ม
หวังขยายตัวกว่าเท่าตัวทุก ๆ 4 ปี
ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ เป็นสมาชิกของ กลุ่มเอชเอสบีซี (HSBC) ซึ่งมีสำนักงานกว่า
9,500 แห่ง 79 ประเทศทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธ.ค.ปีที่แล้ว กลุ่มมีทรัพย์สินรวม 1.03
พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ (ประมาณ 4.12 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือเป็น กลุ่มธนาคารที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งในโลกปัจจุบัน
กลุ่มธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้มีกำไรก่อน หักภาษีปีที่แล้ว 3.48 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
(ประมาณ 17.4 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 4.2% จาก 3.37 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ที่ทำได้ปี
2545