N-PARKทุ่มงบ700ล้านผุดรร.เกียวโตเพิ่มตลาด


ผู้จัดการรายวัน(29 เมษายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

แนเชอรัล พาร์ค เปิดแผนลงทุนใน ตลาดโลก ชี้มูลค่าตลาดรวมสูง กระจายความเสี่ยงการลงทุนในประเทศ และเพิ่มเสถียรภาพการลงทุนองค์กร ทุ่มงบ 700 ล้านบาทผุดโรงแรม 5 ดาวเฟสแรกในเมือง เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น แจงเตรียมทุ่มอีกกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายเฟส 2 และ 3 ย้ำภายใน 2 ปี สัดส่วนการลงทุนต่างประเทศต้องเพิ่มเป็น 50% เทียบเท่ากับการลงทุนภายในประเทศ

นายเสริมสิน สมะลาภา กรรม การผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (N-PARK) เปิดเผยว่าบริษัทมีนโยบายขยายฐานการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยใช้แบรนด์ แนเชอรัล เป็นหัวหอกในการขยายฐานการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกำหนดบทบาทไว้ที่ 50% เทียบเท่ากับการลงทุนภายในประเทศ เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว แนวทางที่กำหนดไว้ ภายใน 2 ปีจากนี้ จะปรับเพิ่มการลงทุนให้ครบ 50% จากการศึกษาและการ เดินทางดูงานทางด้านการตลาดในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เชื่อว่าธุรกิจที่พักอาศัยจะมีการเติบโตสูงที่สุด เนื่องจากธุรกิจด้านการท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง ดังนั้นบริษัทจึงจะเน้นการลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับที่พักอาศัยในต่างประเทศ อาทิ การลงทุนในธุรกิจ โรงแรม โดยในระยะแรกบริษัทจะเน้นการลงทุน ในประเทศแถบทวีปเอเชียเป็นหลัก

สำหรับโครงการแรกที่บริษัทเริ่มลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้วคือ การลง ทุนก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ใช้งบประมาณลงทุนจำนวน 700 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงแรมบนเนื้อที่ 100 ไร่ ที่ผ่านมาได้มีการออกแบบการก่อสร้างโรงแรมดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนิน การก่อสร้างได้ภายในปี 2547 สำหรับระยะเวลา ในการก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2550 โดยมีกลุ่มนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวเป็นตลาดเป้าหมายหลัก

นายเสริมสิน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างโรงแรมในเนื้อที่ 100 ไร่นี้ ถือว่าเป็นการ ก่อสร้างโรงแรมในเฟสแรก เพราะในระยะต่อไป บริษัทมีแผนที่จะขยายพื้นที่ก่อสร้างโรงแรมออก ไปอีก ในเฟสที่ 2 และ 3 ซึ่งจะต้องการลงทุนเพิ่ม อีกประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 2,500 ล้านบาท

ในจำนวนนี้แยกเป็นราคาที่ดิน จำนวน100 ไร่ ที่บริษัทและบริษัทพันธมิตรร่วมกันซื้อมาจาก สถาบันการเงินในประเทศญี่ปุ่นในราคา 240 ล้านบาทสำหรับส่วนของเฟสแรก และเตรียมซื้อเพิ่ม อีกในส่วนของเฟส 2

"การที่บริษัทเลือกที่จะลงทุนในเมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่นนั้น เนื่องจากเกียวโตมีจุดเด่น ที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ทั่วโลก คือ เป็นเมืองที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมที่เก่าแก่ กับความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยี และยังเป็นเมืองที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การ UNESCO และประกาศให้ 17 สถานที่สำคัญเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประกอบกับยังเป็นเมืองที่มีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพสูงด้วย" นายเสริมสิน กล่าว

สำหรับ แหล่งเงินทุนที่บริษัทจะนำไปลงทุน ในการก่อสร้างโรงแรมนั้น คาดว่าส่วนหนึ่ง บริษัทจะดำเนินการขอกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ ญี่ปุ่น และอีกส่วนหนึ่งจะใช้เงินทุนของบริษัท โดยอัตราส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ 1 ต่อ 1 ส่วนคาดว่า จะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 20% หลังเปิดให้บริการในปี 2550 และจะสามารถมีผลประกอบการคุ้มทุนได้ภายในระยะเวลา 10 ปี

นายเสริมสิน กล่าวว่า การที่บริษัทหันไปให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศนั้น เนื่องจากต้องการลดอัตราเสี่ยงในการลงทุนของ บริษัท และมูลค่ารวมของธุรกิจอสังหาฯในตลาด โลกมีขนาดที่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับตลาดในประเทศ ประกอบกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงในตลาดธุรกิจอสังหาฯ ในแต่ละประเทศก็จะมีความ แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีเสถียรภาพด้าน การลงทุนมากขึ้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.