ยูนิค ไมนิ่งฯ ผู้นำ เข้าถ่านหินคุณภาพจากอินโดนีเซีย วางแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่
โดยขายหุ้นไอพีโอ 20 ล้านหุ้น พ.ค.นี้ มั่นใจศักยภาพธุรกิจ ชี้แนว โน้มราคาน้ำมันสูงขึ้น
ผู้ประกอบการแห่ใช้พลังงานถ่านหินทดแทน เอื้อธุรกิจ
นายสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส
จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายถ่านหินคุณภาพดี ประเภทบิทูมินัส
และซับบิทูมินัส จากอินโดนีเซีย เปิดเผยว่าขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างขออนุมัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.)
เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้ประชาชนทั่วไป 20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 1
บาท คิดเป็น 28.57% ของทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย)
ในเครือกลุ่มคูส์จากไต้หวัน เป็นที่ปรึกษาการเงิน และผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
คาดว่าจะสามารถขายหุ้น และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) สิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
"แม้ภาวะตลาดหุ้นไทยขณะนี้ จะยังมีความผันผวนอยู่ก็ตาม แต่เรา ก็มั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจ
ของบริษัท โดยเฉพาะการอยู่ในกลุ่ม ธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัจจัย พื้นฐานดี
และมีศักยภาพในการเติบโต สูง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
ทำให้ ความต้องการใช้แหล่งพลังงานเพิ่มขึ้นตาม ประกอบกับจุดแข็งของถ่าน หิน ที่เป็นเชื้อเพลิงที่มีราคาถูก
เมื่อเทียบกับน้ำมันเตาหรือก๊าซธรรมชาติ" นายสมบูรณ์กล่าว
แนวโน้มราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลราคาน้ำมันเตาที่เป็นปัจจัยต่อการผลิต ราคาสูงขึ้นด้วย
จึงเป็นโอกาสดี ที่ผู้ประกอบการจะพิจารณา ใช้ถ่านหินมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการ ผลิต
ปัจจัยดังกล่าว ช่วยสนับสนุนกลยุทธ์บริษัท ที่เน้นจะเจาะกลุ่มลูกค้า ที่ยังไม่เคยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง
ปัจจุบัน มีลูกค้า 70 ราย ตั้งเป้าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 100 รายอีก 2 ปีข้างหน้า
นายสมบูรณ์กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะใช้ในโครง การสร้างคลังสินค้า
2 แห่ง ซื้อรถบรรทุก 10 คัน และใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียน
บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% ปีนี้ ขณะที่ปี 2548 ตั้งเป้าจะขยายตัว อัตราสูงต่อไป
เนื่องจากบริษัทมีรายได้ เพิ่มเติมจากโครงการอนาคต ทั้งโครง การสร้างคลังสินค้า
2 แห่งที่สมุทร- สาครและอยุธยา หรือสระบุรี ตลอดจน โครงการเป็นตัวแทนจำหน่ายหม้อไอน้ำ
ฮามาดะ ซึ่งจะเริ่มขายไตรมาส 4 ปีนี้
สำหรับโครงการระยะยาว บริษัท จะสร้างท่าเทียบเรือขึ้นถ่านหิน และสร้างโรงงานผลิตถ่านหินก้อน
ปี 2549-2551 เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทต่อไป ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์
ทั้งด้านยอดขาย และกำไร ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นด้วย
ผลประกอบการปี 2546 บริษัท ดีขึ้นมากเทียบปี 2545 มีรายได้รวม 661.77 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 47.62 ล้าน บาท เนื่องจากกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก
มากขึ้น
และเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยคัดเลือก และปรับปรุงคุณภาพถ่านหิน ให้ตรง กับความต้องการลูกค้า
ซึ่งส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงด้วย เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เยื่อกระดาษ
ปูนซีเมนต์ ผลิตไฟฟ้า ฯลฯ
บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส ก่อตั้งโดยบริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์
จำกัด (มหาชน) และ นายสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ ซึ่งจดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่
17 มี.ค. 2537 ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท เริ่มต้นประกอบธุรกิจนำเข้าถ่าน
หินคุณภาพดีจากต่างประเทศ และจำหน่ายถ่านหินให้โรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ ภายในประเทศ