สีอะคริลิก บนแผ่นสังกะสี

โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ริ้วรอยผุพังบนแผ่นสังกะสีขึ้นสนิมคือ texture ที่สวยงามสามารถประสานกลมกลืนไปกับสีอะคริลิก กลายเป็นงานศิลปะที่มีคุณค่า

ความโดดเด่นของผลงานชุด "พระนอนสอนอนิจจัง" ที่สะบัดปลายพู่กัน ด้วยสีอะคริลิกบนแผ่นสังกะสี ทำให้เจ้าของผลงาน สมศักดิ์ สัมโภชานนท์ ได้รับรางวัลที่ 1 "ศิลปินดีเด่นพิเศษ" จากนิทรรศการ "Art Market" จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งคัดเลือกผลงานจากศิลปินหน้าใหม่ทั่วประเทศ

เป็นรางวัลแรกในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งที่กล้าเข้ามาเดินบนเส้นทางของ การเป็นศิลปิน และในวันที่เขากำลังขมขื่น ทดท้อกับชีวิตอย่างสุดๆ บนเส้นทางนี้ แผ่นสังกะสีผุๆ ข้างทาง ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ยากลำบากในวัยเด็ก ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นใหม่ ที่มีเอกลักษณ์พิเศษต่างจากศิลปินทั่วไป

วันนั้นเขาเก็บแผ่นสังกะสีเก่าๆ กลับบ้านไปด้วย วางไว้ข้างที่นอน แล้ว ก็คิด บาดแผล และริ้วรอยของชีวิตที่เกิดขึ้นในชีวิตตนเองหมือนสังกะสีเก่า จะปล่อยให้ชีวิตไร้ค่ารอเวลาโยนทิ้ง หรือจะสร้างคุณค่าขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้คน แล้วในที่สุดภาพสีอะคริลิกบนแผ่นสังกะสีขึ้นสนิมก็เกิดขึ้นมา

สมศักดิ์เป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาตั้งแต่เด็กด้วยเกรดเฉลี่ยถึง 3.7 ชีวิตในช่วงนั้นเลยเป็นไปตามระบบการศึกษา ในเมื่อเรียนดี เกรดสูง ก็น่าจะเลือกเรียนแพทย์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ นั่นคือความคิดเห็นของคนรอบข้างที่มีอิทธิพลต่อเขา ก่อนที่จะรู้ตัวภายหลังว่าไม่ได้ทำให้เขาเรียนหนังสืออย่างมีความสุขเลย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือมหาวิทยาลัย แห่งแรกที่เขาได้เข้าไปเรียน ก่อนที่จะลาออกมาสอบเอนทรานซ์ใหม่ในคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่เรียนไปแค่ปี 3 ก็ลาออกมาอีก

ชีวิตหลังจากนั้นคือการฝึกหัดวาดภาพสีน้ำ และวาดภาพเหมือนด้วยตนเอง ไม่มีครู ไม่ได้เรียนต่อจากสถาบันใดๆ ตระเวนวาดไปเรื่อยๆ ตามงานประจำปีในจังหวัดต่างๆ งานหมด เงินก็หมด จนมาเปิดร้านตำนานศิลป์ รับเขียนภาพเหมือนอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ รายได้แม้ไม่สูงนักแต่เต็มไปด้วยความอิสระกับชีวิต

เป็นงานที่ทำด้วยใจรัก แต่เขาก็ยังไม่พอใจกับผลงานตัวเองนัก และเกิดความเบื่อหน่าย ความท้อแท้ในชีวิตอย่างมาก จนกระทั่งได้มีโอกาสไปพบสัจธรรมบนกองสังกะสีผุ

พระพุทธรูปที่มีร่องรอยของการสึกกร่อนตามกาลเวลา และเรื่องราวของศิลปวัฒนธรรมไทยบนวัสดุที่ค่อยๆ เสื่อมสลายไปตามธรรมชาติแสดงถึงความเป็นอนิจจัง และยังได้สะท้อนไปถึงเรื่องราวของมรดกชาติที่จะเลือนหายไป หากคนรุ่นหลังไม่รู้จักรักษาไว้

เป็นแนวความคิดที่ตกผลึกแล้วของชีวิตและสะท้อนออกมาเป็นผลงาน ที่นำออกแสดงครั้งแรกในนิทรรศการจิตรกรรมชุด "ลีลาไทย" ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท เมื่อเดือนตุลาคมในปีที่ผ่านมา

น้ำยาเคลือบสีกันสนิม อาจนำมาใช้กับงานนี้ได้ แต่ดูเหมือนว่า ไม่ใช่เจตนารมณ์ที่แท้จริงของศิลปิน เพราะเขาไม่ต้องการให้งานเป็นอมตะ ร่องรอยใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้นมา ตามวันเวลาที่ผ่านไปได้แน่นอน เพราะนั่นคือความเป็น จริงในชีวิต



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.