CPAC ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเครือซิเมนต์ไทย จับสินค้าใหม่ลงตลาดวัสดุ รั้วสำเร็จ
รูปและกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งฉีกความแปลกใหม่ตัวสินค้าหลีกหนีคู่แข่งหั่นราคาสู้เน้นเจาะกลุ่มโครงการบ้านจัดสรรและสถาปนิกออกแบบบ้านทั่วไป
นายอนันต์ เกษเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ซีแพคบล็อค จำกัด เปิดเผยว่า
บริษัทให้ความสำคัญในการค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอด คล้องกับความต้องการของผู้บริโภค
อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงต้นปี 47 ที่ ผ่านมาบริษัทได้ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดแล้ว
2 ตัว ประกอบด้วยแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปและพื้นไม้สำเร็จรูปและล่าสุดบริษัทได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอีก
2 ตัวคือ CPAC FENCE รั้วสำเร็จรูปรุ่น CASTLE STONE เป็นวัสดุประเภทรั้วสำเร็จรูปผิวขรุขระเหมือนหินธรรมชาติและมี
สีในตัวทั้งสีน้ำตาลอ่อนและสีเข้ม ซึ่งวัสดุประเภทรั้วนี้ในปี 2547 บริษัทจะเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง
มากขึ้น
ทั้งนี้ การเจาะตลาดจะเน้นไป ในกลุ่มของบ้านสร้างเอง, กลุ่มสถาปนิกและโครงการบ้านจัดสรร
โดยเน้นการขายเข้างานโครงการเป็น หลักซึ่งต้องมีการสร้างทีมงานช่างที่มีความชำนาญเข้าไปให้คำปรึกษา
ในเรื่องการติดตั้ง ตั้งแต่ระบบฐาน รากการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่า การก่อสร้างสามารถทำได้ง่ายและไม่จำเป็นต้องใช้ปูนฯในการก่อก็ได้
"สำหรับราคาขายเฉลี่ยต่อตร.ม.ประมาณ 500 บาท โดยจะนำ ไปจำหน่ายในร้านค้าในเครือซิเมนต์
ไทย ในกทม.และปริมณฑล โดยมีโรงงานผลิตอยู่ย่านลาดกระบังและภายในปลายปีนี้บริษัทจะเริ่มขยายโรงงานผลิตไปยังทุกภูมิภาค
ซึ่งจะเริ่มขยายโรงงานเบื้องต้นใน 2 แห่งก่อน โดยจะต่อจากส่วนขยายในโรงงานซิเมนต์ไทยเดิมที่มีอยู่แล้ว
ในจังหวัดต่างๆ อาทิ ลำพูน ขอน- แก่น ศรีราชา ทุ่งสง และสระบุรี
ส่วนการใช้งบลงทุนเพิ่มส่วนต่อขยายนี้จะใช้ประมาณแห่งละ 100 ล้านบาท ซึ่งการตอบรับหลังจากการวางตลาดไปเมื่อเร็วๆนี้
ปรากฏว่ามีโครงการจัดสรรเข้ามาติดต่อนำรั้วสำเร็จรูปตัวนี้ไปใช้บ้างแล้ว อาทิ หมู่บ้านกฤษดานคร
หมู่บ้านสารินและหมู่บ้านประดับดาว" นายอนันต์กล่าว
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 ตัวคือกระเบื้องคอนกรีตตกแต่ง CPAC PAVE วัสดุตกแต่งพื้นเหมาะสำหรับพื้นที่ระเบียง
เฉลียง ทางเดินเท้า ตกแต่งสวนและลานอเนกประสงค์กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งมีการสร้างความแตกต่างของ
สินค้าที่อิงกระแสของธรรมชาติมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดการแข่งขัน ด้านราคาของคู่แข่งได้อีกทางหนึ่งสินค้าประเภทนี้จะจับกลุ่มลูกค้าเจ้าของโครงการบ้านจัดสรร
สถาปนิก เจ้าของบ้านพักอาศัยเช่นเดียวกัน ขณะนี้บริษัทมีกำลังการผลิตเฉลี่ย 50,000
ตร.ม.ต่อเดือน มีราคาขาย 300 บาทต่อ ตร.ม.ซึ่งในปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายที่
10,000 ตร.ม.ต่อเดือนหรือ 120,000 ตร.ม. ต่อปี จากตลาดรวมแผ่นคอนกรีตที่มีอยู่ทั้งหมด
400 ล้านบาท
ส่วนการตั้งเป้ายอดขายวัสดุโดยรวมของปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดรายได้ประมาณ 4,500
ล้านบาท แบ่งเป็นกระเบื้องปูพื้น 50% แผ่นพื้น-ผนัง 50% ส่วนของรั้วสำเร็จ รูปไว้ที่
50 ล้านบาทในปีแรก จากตลาดรั้วรวมปัจจุบันที่มีประมาณ 2,500 ล้านบาท
เนื่องจากขณะนี้มีโรงงานที่ ทำการผลิตสมบูรณ์แบบเพียง 1 แห่ง เฉลี่ยกำลังการผลิตต่อเดือนที่
8,000 ตร.ม. ส่วนในปีถัดไปตั้งเป้ายอดขายประมาณ 100 ล้านบาทหลังจากที่โรงงานใหม่สร้างเสร็จ
ทำให้มีกำลังเพิ่มขึ้นและสินค้า จะเป็นที่รู้จักในท้องตลาดมากขึ้นด้วยนายอนันต์กล่าวเพิ่มเติมว่า
นอกเหนือจากการขายผลิตภัณฑ์งาน โครงสร้างและงานตกแต่งตามร้านตัวแทนจำหน่ายเครือซิเมนต์ไทยแล้ว
บริษัทยังได้เข้าไปดำเนินการสร้างในโครงการระดับชาติ เช่นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ซึ่งเป็นการดำเนินก่อสร้างใน 3 ด้าน อาทิ การ ทำพื้นสำเร็จรูป มูลค่าประมาณ 50
ล้านบาท พื้นโพสเทนชัน (คอนกรีต อัดแรงภายหลัง) จำนวน 3 อาคาร 40 ล้านบาทและส่วนของหินขัดสำเร็จรูป
มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 70 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการขยาย การก่อสร้างพื้นโพสเทนชันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
คือ พม่า จำนวน สร้าง 4 อาคาร มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด 20 ล้านบาทด้วย