กองทุนฟื้นฟูฯ เตรียมยุบ RAMC โอนหนี้เน่ากว่า 5 หมื่นล้านบาทให้ BAM รับช่วงบริหารแทน
และรับโอนพนักงานมาอยู่ด้วย เผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 47 กำไรกว่า 400 ล้านบาท
ตั้งเป้าซื้อหนี้เน่าเข้ามาบริหารอีก 5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเจรจากับแบงก์แห่งหนึ่งซื้อทรัพย์อีกหมื่นล้านบาท
นายโชคชัย อักษรนันท์ ประธานกรรมการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด
(BAM)หรือ บสก. เปิดเผยในพิธีลงนามรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย
(NPA) จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ รัตนสิน จำกัด(RAMC) วานนี้ (8 เม.ย.)ว่า บสก.ได้รับซื้อทรัพย์จาก
RAMC มูลค่า 5,167.3 ล้านบาท เป็นจำนวนลูกหนี้ทั้งสิ้น 2,259 ราย ทั้งนี้ การซื้อทรัพย์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้อง
การให้มีหน่วยงานหลักเพื่อแก้ไขหนี้ เสียของระบบ
และการขายสินทรัพย์ของRAMCในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการยุติการบริหารจัดการหนี้ก่อน
กำหนดของ ธนาคารยูโอบี รัตนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ UOBR โดย ที่กระทรวงการคลังและกองทุนเพื่อ
การฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเห็นชอบให้ RAMC ขายสิน ทรัพย์ให้กับ บสก.
"แม้ว่าจะได้ทรัพย์จากRAMC มาบริหารจัดการก็จะไม่เป็นอุปสรรคใดกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของ
BAM อย่างแน่นอน เพราะ BAM มีกลยุทธ์และ ช่องทางจัดจำหน่ายทรัพย์รอการขาย และบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพถึง
24 แห่ง ซึ่งการซื้อทรัพย์จากRAMC ถือเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ BAM มุ่งหวังในการรับซื้อ
หนี้มาบริหารในปี 2547 จำนวน 50,000 ล้านบาท" นายโชคชัยกล่าว
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวว่า การซื้อสินทรัพย์จาก
RAMC ในครั้งนี้ บสก.จะทยอยแบ่งชำระเงินออกเป็น 7 งวด งวดละ 1 ปี เริ่มชำระเงินงวดแรกวันที่
31 มีนาคม 2548 และงวดที่ 7 ชำระในวันที่ 31 มีนาคม 2554 ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ทั้งนี้ การดำเนินการตรวจรับมอบข้อมูลสินทรัพย์จะใช้เวลาประมาณ 45 วันนับจากวันลงนาม
ในสัญญา และเมื่อยุบ RAMC เสร็จ สิ้นก็จะรับโอนพนักงานบางส่วนหรือทั้งหมดเข้ามาอยู่ที่
BAM ด้วย
ส่วนผลการบริหารหนี้ที่ บสก. รับบริหารจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ พญาไท จำกัด
(PAMC)นั้น ณ วันที่ 7 เมษายน 2547 สามารถบริหารหนี้ ได้ผลดังนี้ 1. หนี้ที่ได้รับการชำระหนี้แล้ว
230 ราย จำนวนเงิน 205.27 ล้านบาท 2. หนี้ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ 68
ราย จำนวน เงิน 1,269.15 ล้านบาท 3. หนี้ที่อยู่ ระหว่างการขออนุมัติ 66 ราย จำนวน
เงิน 3,356.04 ล้านบาท และ 4. หนี้ ที่อยู่ระหว่างการหาข้อยุติ 908 ราย จำนวนเงิน
22,475.46 ล้านบาท
"การดำเนินการแก้หนี้เสียที่รับโอนจาก PAMC นั้นถือว่ามีความคืบหน้ามาก
เนื่องจากสามารถ บริหารได้แล้วถึง 26,000 ล้านบาท จากหนี้ที่โอนมาจำนวน 3,940 ราย
เม็ดเงินประมาณ 61,695.44 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2547 สามารถเรียกเก็บได้
1,500 ล้านบาท เป็นกำไร 412 ล้าน บาท และ BAM มีนโยบายที่จะซื้อ หนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม
ซึ่งในเบื้องต้น ได้เจรจากับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งแล้วทั้งไทยธนาคาร นครหลวงไทย
กรุงไทย และทหารไทย"
นายบรรยงกล่าวต่อว่า บสก. ได้เจรจากับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเพื่อรับซื้อหนี้มาบริหารมูลค่าประมาณ
10,000 ล้านบาท และเตรียมเซ็นสัญญาในต้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งสามารถตกลงราคากันได้แล้วและถือว่าเป็น
ราคาที่ยุติธรรมเนื่องจากเป็นทรัพย์ กองที่ซื้อมาแบบกึ่งนโยบาย โดยขั้นตอนที่เหลือจะเป็นการเจรจากันในเรื่องของเงื่อนไขระยะเวลาการชำระเงินเท่านั้น
ทั้งนี้ ลูกค้าของ บสก.ที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยแล้ว บสก.จะส่งต่อให้กับธนาคารพาณิชย์
เนื่องจากเล็งเห็นว่าเมื่อโอน ให้กับแบงก์แล้วลูกค้ามีโอกาสเติบโต ได้มากกว่าเพราะแบงก์สามารถทำธุรกรรมได้รอบด้านกว่า
โดยได้ร่วม มือกับธนาคารพาณิชย์ของรัฐทั้ง 4 แห่งเพื่อปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มนี้
"การแก้หนี้ของ AMC ทุกแห่งถือว่าประสบความสำเร็จมากผลงานออกมาดีเกือบทุกแห่ง
เป็น เพราะช่วงปลายปี 46 มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาลจะสิ้นสุดลง จึงเป็นส่วนช่วยให้สามารถขาย
NPA ได้มาก และเศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้นส่งผลให้ลูกหนี้มีกำลังเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้"
นายบรรยงกล่าว