อารียาฯวันแรกเกือบไม่รอด เปิดตลาดเหนือจองแค่ 5 สตางค์จากนั้นหลุดต่ำจอง โชคดีภาวะโดยรวมกลับมาสดใส
ส่งผลปิดตลาดเหนือจองได้ที่ 9.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.22% ด้าน "วิศิษฏ์"
บิ๊กบอส ย้ำอย่ากังวล เพราะเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี
วานนี้ (1 เม.ย. 47) หุ้นของอารียา พรอพเพอร์ตี้ (AREEYA) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นวันแรก
ด้วยจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 379 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท โดยอารียาได้เสนอขาย
78.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 9 บาท ราคาหุ้นเมื่อเปิดซื้อขายปรับตัวอยู่ที่ 9.05
บาท เพิ่มขึ้นแค่ 5 สตางค์ แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นปรับตัวลงไปต่ำกว่าราคาจองและลงต่ำสุดที่
8.60 แต่ในช่วงบ่ายราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 9.55 บาทก่อนปิดตลาด ที่ราคา 9.20
บาท เพิ่มขึ้น 20 สตางค์ หรือคิดเป็น 2.22 % โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1,444.61 ล้านบาท
นายวิศิษฏ์ เลาหพูนรังษี ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเกี่ยวกับราคาเปิดหุ้น AREEYA ที่สามารถเปิดซื้อขาย 9.05
บาท ในราคาสูงกว่าราคาจองที่ 9 บาท ก่อนปรับตัวลงมา ต่ำกว่าราคาจองหลังจากเปิดทำการซื้อขายว่าราคา
หุ้นของบริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดที่ค่อนข้างซบเซาและดัชนีตลาดหุ้นก็ปรับตัวลดลงมาก
ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลง ทุน แต่เชื่อว่าจะเป็นเหตุการณ์ในระยะสั้นเท่านั้น
สำหรับราคาเสนอขายนั้นถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานของบริษัท โดยในการกำหนดราคาไอพีโอ
ที่ 9 บาท นั้นกำหนดเพื่อให้นักลงทุนได้กำไร 15-20% จากการจองซื้อหุ้น แต่เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย
ทำให้ราคาหุ้นไม่ตอบรับกับปัจจัยพื้นฐานเท่าที่ควร หากนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นของบริษัทถือลงทุนระยะยาว
เชื่อว่าเมื่อภาวะตลาดปกติ จะได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังเป็นจังหวะของนักลงทุนที่มีความหนักแน่นไม่หวั่นไหวกับบรรยากาศการลงทุนที่จะเข้าซื้อ
เมื่อราคาต่ำกว่าราคาจอง
บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน หลังหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์
มูลค่ารวม 680 ล้านบาท มาลงทุนในโครงการเพิ่มเติม จำนวน 500 ล้านบาท โดยในปี 2547-2548
บริษัท มีนโยบายจะเปิดโครงการขายที่ดินจัดสรรพร้อม บ้านใหม่อีก 5 โครงการ มีมูลค่ารวม
4,144 ล้านบาท และชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน จำนวน 180 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราการเติบโตของกำไรอย่าง ก้าวกระโดดถึง 1,202% จากปี 2545
และคาดว่าจะโตต่อเนื่องถึง 589% จากปี 2546 เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น
ความต้องการของประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่ในเมืองจะเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการที่บริษัทมีความเสี่ยงต่ำ
และมีสภาพคล่องสูง รวมถึงมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
ด้านนางสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน
และบริษัทผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่าพอใจกับราคาหุ้น
AREEYA ที่สามารถเปิดซื้อขายเหนือราคาจองได้ในภาวะที่ตลาดหุ้นไม่ตอบรับต่อปัจจัยบวกนี้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาหุ้นที่เสนอขายนั้นเป็นราคาที่เหมาะสมและถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูง
และมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพประกอบกับโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุน
และยังเป็นจังหวะให้นักลงทุนที่พลาดการจองในตลาดแรก สามารถซื้อหุ้นได้ในราคาถูกด้วย
"แม้ว่าราคาเปิดจะไม่หวือหวามากนัก แต่ก็รู้สึกพอใจมากที่สามารถเปิดเหนือราคาจองได้ในภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจในการกระจายหุ้น
แต่มั่นใจว่าในระยะยาวราคาหุ้น AREEYA จะปรับ ตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน" นางสุวภา
กล่าว
ในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ ยังมีความมั่นใจในตลาดหุ้นและในไตรมาสที่สอง
บริษัทในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเตรียมนำบริษัท แมงป่องและเวิร์คพอยท์ เข้าจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์