"ฟอร์ด" ดิ้นหนีภาพ Truck Company ทุ่มกว่าสองหมื่นล้าน พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ
เอสยูวี เก๋งคอมแพกต์ และซิตี้คาร์ ก้าวสู่การเป็น Motor Company ในสายตาลูกค้าไทย
ขณะที่ "นิสสัน มอเตอร์ส" คาดทุ่มนับหมื่นล้านบาท เพิ่มทุนและซื้อหุ้นใหญ่
75% ใน"เอสเอ็นเอ" ผู้ผลิตและขายรถนิสสันในไทย จากกลุ่มสยามกลการของตระกูล
"พรประภา" โดยประธานใหญ่ "คาร์ลอส กอส์น" จะเดินทาง มาเซ็นสัญญาและร่วมแถลงข่าวในวันจันทร์ ที่ 5 เม.ย.นี้
นายฉัตรชัย บุนนาค ประธานฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ดกำลังมีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในสายตาลูกค้าไทยเสียใหม่ ต่อไปนี้ฟอร์ดไม่ใช่แบรนด์ปิกอัพอย่างเดียว
แต่เป็นแบรนด์ ที่มีความหลากหลายในตัวสินค้า คือมีครบทั้งปิกอัพ รถยนต์นั่ง หรือเก๋ง
รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ (SUV) และรถประเภทต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถ นำมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าในไทยได้อย่างครบถ้วน
"เราจะต้องสร้างภาพลักษณ์ฟอร์ดในไทย ไม่ใช่ Truck Company อีกต่อไป แต่จะเป็น
Motor Company ที่มีรถยนต์ให้ลูกค้าเลือกครอบคลุมทุกประเภท ซึ่งได้เริ่มแล้วจากการรุกตลาดเก๋งที่เป็นรายเดียวมีเก๋งขนาดคอมแพกต์ครบ
ทั้งเครื่องยนต์ 1.6, 1.8 และ 2.0 ลิตร และยังมีรถยนต์อเนก-ประสงค์ประเภทเอสยูวี
อย่างรุ่นเอสเคป และเอเวอเรสต์ ที่มียอดขายรวมกันมากเป็นอันดับหนึ่งของเซกเมนต์ทีเดียว"
อย่างไรก็ตาม การที่จะทำให้ลูกค้าเข้าใจคงต้อง ใช้เวลา และขณะนี้ก็เริ่มมีคนเข้าใจแล้ว
จากการสำรวจลูกค้าที่ใช้รถเก๋ง และเอสยูวี ซึ่งไม่เคยมองฟอร์ดเพราะเห็นเป็นแบรนด์ปิกอัพ
แต่ปัจจุบันได้หันกลับมามองรถยนต์ฟอร์ดกันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นแสดงให้เห็นถึงความพยายามของฟอร์ดเริ่มเห็นผลบ้างแล้ว
นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า จากการลงทุนเพิ่มกว่า 2 หมื่นล้านบาท นอกจากทำให้ฟอร์ดสามารถขยายกำลังการผลิตแล้ว
ยังเตรียมพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ของฟอร์ดเปลี่ยนไป
ดังจะเห็นได้จากการมีรถเอสยูวี ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เอสเคป ที่ขณะนี้ได้มีการเพิ่มรุ่น
2.3 ลิตร เข้ามาเสริมทางเลือกให้ลูกค้า มากขึ้นแล้ว และจะเป็นไฮไลต์ของฟอร์ดในปีนี้
ส่วนปีหน้าฟอร์ดจะรุกหนักในตลาดเก๋ง ด้วยการเปิดตัวเก๋งคอมแพกต์รุ่นใหม่ "ฟอร์ด
โฟกัส" ซึ่งจะมาแทนรุ่นเทียร่า จากนั้นในปีถัดไปก็จะเป็นการปรับโฉมใหม่ของปิกอัพ
ฟอร์ด เรนเจอร์
"ฟอร์ด และมาสด้า ยังมีการศึกษาเก๋งขนาดเล็กอย่างจริงจัง เพื่อขึ้นไลน์ผลิตและทำตลาดในไทย
ซึ่งโชคดีตรงกับนโยบายรัฐบาลที่กำลังผลักดันให้มี อีโคคาร์ เพื่อเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนคู่กับปิกอัพ
แน่นอนหากอีโคคาร์มีนิยามที่ใกล้เคียงกับเก๋งขนาดเล็กของฟอร์ด-มาสด้า จะทำให้ได้รับประโยชน์กันหมด
ทั้งผู้บริโภค ภาครัฐ และฟอร์ดด้วย"
ในขณะที่ฟอร์ดกำลังปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยการลงทุนหลายหมื่นล้านบาทในการพัฒนา
สินค้าใหม่ๆ สู่ตลาดไทยมากขึ้น ค่าย "นิสสัน" ซึ่งเป็นรถญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่รายเดียว
ที่ยังไม่เข้ามาทำตลาดในไทย ล่าสุดได้เตรียมประกาศย้ายฐานการผลิตปิกอัพมาไทย พร้อมกับทุ่มเงินซื้อหุ้นจากกลุ่มสยามกลการของตระกูล
"พรประภา" ที่สร้างแบรนด์ นิสสันในไทยมานานกว่า 50 ปี เพื่อเปลี่ยนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน
โดยในวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 นี้ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น
และบริษัท สยามกลการ จำกัด จะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุนในบริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล
จำกัด (SNA) ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์นิสสันในไทย ซึ่งการเซ็นสัญญาครั้งนี้ นายคาร์ลอส
กอส์น ประธานและซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จะเดินทางมาทำพิธีเซ็นสัญญา
และแถลงข่าวร่วมกับ นายพรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด
ด้วยตนเอง
ทั้งนี้เดิมเอสเอ็นเอเดิมเป็นการร่วมทุนระหว่าง สยามกลการ และนิสสัน มอเตอร์
ประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วน 75 : 25 เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย รถยนต์นิสสันในไทย
แต่การเข้ามาเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนของ นิสสัน มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น
เปลี่ยนเป็น 75% ขณะที่สยามกลการลดลงเหลือ 25% ส่งผลให้นิสสันกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
และจะเข้ามาบริหารในตำแหน่งสำคัญๆ ของเอสเอ็นเอ แทนสยามกลการ
สำหรับจำนวนเงินที่ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น นำมาซื้อหุ้นจากสยามกลการ และเพิ่มทุนอีกจำนวนหนึ่ง
รองรับการย้ายฐานการผลิตปิกอัพมาไทย เพื่อทำตลาดในประเทศ และส่งออกทั่วโลกครั้งนี้
คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาทแน่นอน