"เอ็น เกท" น้องใหม่อสังหาฯ ชิมลางตลาดบ้านระดับบน ย่านศรีนครินทร์
มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เน้นคอนเซ็ปต์ความแปลกแตก ต่างของรูปแบบบ้านจากเยอรมนี
เจาะกลุ่มผู้บริหาร รุ่นใหม่ระดับบน เล็งตรียมเปิดตัวอีก 1 โครงการในปีนี้
นายจักษ์ทอง นาวาศุภพานิช ประธานบริหาร บริษัท เอ็น เกท ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ผู้พัฒนาโครงการศรีนครินทร์ พาร์ค เปิดเผยว่า ก่อนการเข้า มาทำธุรกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันโดยแรกเริ่มนั้นได้ดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจท่าเรือ
และธุรกิจ เรือเดินสมุทรในนามบริษัท ศุภนาวา จำกัด ซึ่งก่อตั้งมาประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว
มีบริษัทในเครือจำนวน 7 บริษัท ซึ่งในการดำเนินการธุรกิจเกี่ยวกับเรือนั้น ทำให้มีความรู้และประสบการณ์ด้านวิศวกรรมเป็นอย่างดี
มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากต่างประเทศเข้ามาใช้ในการก่อสร้างต่อเรือและมีการทำงานที่เป็นระบบรวมถึงมีทีมวิศวกรที่มีความรู้ความชำนาญ
"ส่วนนายรัชพันธ์ งามเจริญ รองประธานบริหารบริษัท มีประสบการณ์ในวงการธุรกิจพัฒนาที่ดินมาก่อนหน้านี้
โดยได้เคยพัฒนาโครงการหมู่บ้านกรีนฟิลด์ ย่านเพชรเกษม 81 ขนาดโครงการ 40 ไร่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เนื่องจากช่วงปี 40 ประสบปัญหาด้านวิกฤตเศรษฐกิจพอดี จากนั้นจึงหันมาพัฒนาที่ดินเปล่าและสร้างอาคารพาณิชย์
แทน ต่อมาเมื่อได้มีการพบปะและปรึกษากัน จึงพบ ว่ามีความสนใจธุรกิจอสังหาฯ ตรงกัน
จากนั้นจึงได้ริเริ่มพัฒนาโครงการนี้เป็นโครงการแรก" นายจักษ์ทองกล่าวขยายความ
สำหรับบริษัท เอ็น เกท ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 46 ด้วยทุนจดทะเบียน
110 ล้านบาท ซึ่งเริ่มพัฒนาโครงการศรีนครินทร์ พาร์ค เป็นโครงการแรก หลังซื้อที่ดินย่านถนนศรีนครินทร์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ซึ่งมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพด้านการคมนาคมที่สะดวกขนาดเนื้อที่โครงการทั้งหมดรวม
11 ไร่ จำนวน 28 ยูนิต โดยขณะนี้มียอดขายแล้ว 8 แปลงซึ่งลักษณะการขายจะแยกขายส่วนที่ดินออกจากการขายตัวบ้าน
เฉลี่ยราคาที่ดิน ตร.ว. ละ 100,000 บาทและราคาก่อสร้างบ้าน ตร.ม.ละ 22,000 บาท
เฉลี่ยที่ดินมีจำนวนแปลงละ 110 ตร.ว. ลักษณะการก่อสร้างจะเน้นเป็นบ้านสั่งสร้าง
จะมีราคาขายอยู่ระหว่าง 18-30 ล้านบาท มีมูลค่าโครงการ รวม 400 ล้านบาท และคาดว่าจะปิดยอดขายได้ภายในสิ้นปีนี้ส่วนการก่อสร้างจะแล้วเสร็จราวสิ้นปี
48
จุดเด่นของโครงการนี้จะเป็นแบบบ้าน Modern Style ภายใต้แนวคิด Innovation Idea
โดยบ้านทุกหลังออกแบบให้มีความหมายตามชื่อที่ใช้เรียก 4 แบบ คือ House of Remind,
House of function, House of Transparency และ House of sense พร้อมพัฒนาด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
Wing Roof ที่ได้รับการออกแบบจากนายอรรถสิทธิ์ ศรีมาเสริม สถาปนิกที่คุ้นเคยกับแบบบ้านที่มีนวัตกรรมในการประหยัดพลังงานจากประเทศเยอรมนีมาใช้กับการออกแบบโครงการนี้
ส่วนภาวะการแข่งขันในย่านนี้ นายจักษ์ทองมองว่า การออกแบบบ้านในลักษณะนี้เป็นความแตก
ต่างจากคู่แข่งโดยสิ้นเชิง ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ระดับบน อาจเป็นนักบริหารหรือผู้ประกอบการธุรกิจส่วนตัวที่มีรสนิยมเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน
เพราะจากการออกแบบรูปทรงของบ้านเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีขึ้นในประเทศไทย
ทั้งนี้ภายในปี 47 บริษัทจะมีการพัฒนาโครงการ ใหม่อีก 1 โครงการ ในทำเลย่านศรีนครินทร์เช่นเดิม
และจะเป็นโครงการขนาดเท่าเดิม คือ 10 กว่าไร่ เพราะเชื่อว่าจะสามารถปิดการขายได้เร็วและสร้างเสร็จทั้งโครงการได้เร็วกว่าโครงการที่มีขนาดใหญ่
สำหรับโครงการศรีนครินทร์ พาร์ค บริษัทได้ตั้งเป้างบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ปีนี้ไว้ที่
20 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด