"NCH"หลุดจอง17%-ลุ้นSPACวันนี้


ผู้จัดการรายวัน(30 มีนาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ลุ้น SPAC เทรดวันนี้ (30 มี.ค.)วันแรกที่ปรึกษาทางการเงินชี้เป็นหุ้นลง ทุนตัวหนึ่ง ด้านเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งสังเวยภาวะหุ้นทรุดปิดที่ 16.60 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 3.50 บาท หรือ 17% ผู้บริหารมั่นใจระยะยาวผู้ลง ทุนน่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีจึงไม่อยากให้นักลงทุนรู้สึกวิตกเนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

วานนี้(29 มี.ค.)หุ้นบริษัทเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ NCH เข้าซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์วันแรกท่ามกลางบรรยากาศการลง ทุนในตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลง เนื่องจากสถาน การณ์การก่อการร้ายทางภาคใต้ ส่งผลให้ราคา หุ้น NCH แม้เปิดตลาดได้ที่ 21 บาท และปรับ สูงสุดที่ 21.20 บาท แต่ก็ไม่สามารถยืนเหนือจองได้โดยปิดตลาดที่ราคาต่ำสุด 16.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,244.53 ล้านบาท NCH นับเป็นหุ้นใหม่ตัวที่สองของปีนี้ที่ราคาเข้าซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคาจอง โดยตัวแรกได้แก่ บริษัทแกรนด์ แอสเซท จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้ชื่อโครงการ "บ้านฟ้า" เปิดเผยถึงการเข้าทำ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันแรกโดยมีราคาปิดต่ำกว่าราคาจองที่ 20 บาท ว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่มีการปรับตัวลดลงอย่างมากในวันนี้

แต่ทางผู้บริหารของบริษัทมั่นใจสำหรับการลงทุนในระยะยาวนั้นผู้ลงทุนน่าจะได้รับผลตอบ แทนที่ดี เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดจนมีระบบการบริหารงานที่ดีจึงไม่อยากให้นักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะที่เกิดขึ้นในขณะนี้

"ต้องยอมรับในภาวะที่ผันผวนในขณะนี้ เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่งคงไม่สามารถต้านกระแสได้ ถ้ามองจากในช่วงเปิดตลาดเราก็สามารถยืนเหนือราคาจองได้และเมื่อดัชนีมีการปรับตัวลดลงมาก ราคาหุ้นของเราจึงปรับตัวลดลงตามภาวะโดยรวม" นายสมเชาว์กล่าวสำหรับราคาเสนอขาย IPO ที่20 บาทนั้น ไม่ถือว่าเป็นราคาที่สูงเกินไปเนื่องจากบริษัทกำหนดราคาจาก P/Eบริษัทฯที่ 8-9 เท่า ขณะที่P/Eกลุ่มอยู่ที่ 10-12 เท่า จึงได้รับการตอบรับจากนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นของบริษัทฯเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยบริษัทฯจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เม.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อพิจารณาการจ่ายปันผล ของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2547 กว่า 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2546 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,400 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บริษัทมีโครงการทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่าโครงการ ประมาณ 13,000 ล้านบาท ปิดโครงการไปแล้ว 9 โครงการ และในปี2547บริษัทฯจะมีการลงทุนอีก 4 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ จะเป็นบ้านเดี่ยว โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้มาลงทุนในโครงการข้างต้นจำนวน 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ คิด เป็น 60% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งมีดอกเบี้ย ประมาณ 4-5%

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเตรียมงบประมาณเพื่อ ซื้อที่ดินเพิ่มจำนวน 150 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีที่ดินอยู่ประมาณ 555 ไร่ นอกจากนี้บริษัทกำลังพิจารณาที่จะซื้อ NPAและ NPL ของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย

ส่วนการที่ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นนั้น ทำให้บริษัทมีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นประมาณ 6% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็ได้มีการปรับราคาบ้านเพิ่มขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ตั้งแต่ปี2546

นายกฤช เอทเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัดในฐานะแกน นำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า "วันนี้ตั้งแต่เช้าตลาดปรับตัวลดลงตั้งแต่เช้าสังเกตดูจากทั้งวันมีการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งค่อนข้างเยอะจะเห็นได้จากวอลุ่มที่มีการซื้อขายที่มีถึง 64.6 ล้านหุ้นมูลค่าการซื้อขายวันนี้สูงถึง 1,244.53 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 9%ของมูลค่าตลาดโดยรวมทั้งๆ ที่มีหุ้นมาเสนอขายแค่ 40 ล้านหุ้น เมื่อการเก็งกำไรมาเจอกับภาวะตลาดที่แย่ลง ตลอดวันทำให้เกิดการเทขายออกมามากโดยเฉพาะช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้หุ้นเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งลงมาปิดที่ 16.60 บาทซึ่งทำให้หุ้นเอ็นซีมีราคาถูกมากๆ ที่ค่าพี/อี เรโชที่ 6 เท่ากว่าต่ำกว่าค่าพี/อี เรโชของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ 11 เท่าทั้งๆที่บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จะมีการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย"

ในขณะเดียว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เช่น บล. ธนชาติ จำกัด บล.นครหลวงไทย จำกัด บล.ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) บล.แอสเซทพลัส จำกัด (มหาชน) บล.ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) และบล.เกียรตินาคิน จำกัดมองว่าหุ้นของเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี

โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ในช่วง 22-30 บาท

นายพงศกร เที่ยงธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกโก้ แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวว่าบรรยากาศ การลงทุนในตลาดที่ค่อนข้างซบเซาจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้นักลง ทุนชะลอการลงทุนในช่วงนี้ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อหุ้นใหม่ที่จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดฯในสัปดาห์นี้ ที่ระดับราคาอาจไม่หวือหวามากนัก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าลงทุนในตลาดฯมากขึ้น เนื่องจากดัชนีตลาดฯและ P/E ตลาดปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้ว เป็นจังหวะที่นักลงทุนสถาบันจะทยอยเข้าซื้อเก็บหุ้นพื้นฐานส่วนการที่นักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น นายพงศกร กล่าวว่าเป็นปกติที่นักลงทุนจะมีการขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นสูงกว่าราคาที่เหมาะสม แต่ขณะนี้ดัชนีตลาดมีการปรับตัวลดลงตอบรับกับปัจจัยพื้นฐานของตลาดแล้ว เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ความไม่สงบต่างๆคลี่คลายแล้ว นักลงทุน ต่างชาติจะชะลอการขายและอาจกลับเข้าลงทุนในตลาดมากขึ้นได้

นอกจากนี้ นายพงศกร กล่าวเตือนนักลงทุนรายย่อยว่า ในระยะนี้นักลงทุนควรใช้ความระมัด ระวังในการลงทุน และพิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัย พื้นฐานดี สำหรับหุ้น บริษัท เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดฯเป็นวันแรกในวันนี้ (30 มี.ค.2547)นี้ เชื่อว่าราคาที่เสนอขายที่ 17 บาทต่อหุ้น นั้น ไม่ถือว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป เ นื่องจากเป็นบริษัท ที่มีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่อง และมีนโยบายการจ่ายปันผลดี เป็นหุ้นที่ควรลงทุนระยะยาว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มีนาคมตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทยได้กำหนดให้หุ้นสามัญของบริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 60 ล้าน หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวม 300 ล้านบาท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยจัดอยู่ในกลุ่ม วัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม ภายใต้หมวดบรรจุ ภัณฑ์ และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "S-PAC" เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2547 เป็นต้นไป

นายพงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ไตรมาสที่สองนี้ บริษัทเชื่อว่าเมื่อปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลาย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ มีการขายตัวต่อเนื่อง จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการ ลงทุนมากขึ้น และตลาดหุ้นจะกลับมาคึกคัก ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ 2 บริษัท ภายในไตรมาสที่ 2 นี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.