บริษัทแปซิฟิกไพพ์แต่งตัวเข้าตลาดหุ้น กระจาย หุ้น 15.30 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินไป
ใช้ในการลงทุนสร้างศูนย์กระจาย สินค้า ณ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.14 ซึ่งแต่งตั้งบล.ทิสโก้
เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมาสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแบบรายการแสดงข้อมูล
(ไฟลิ่ง) หุ้นของบริษัทแปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
โดยได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทแปซิฟิกไพพ์ จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 15.30 ล้านหุ้นคิดเป็น
23.43% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยเงินที่ได้จาก การระดมทุนจะนำไปใช้ในการลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า
ณ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.14 รวมทั้งเพื่อชำระคืนเงินกู้บางส่วน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับสินค้าคงคลังเพื่อรองรับปริมาณการจำหน่ายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว
บริษัทแปซิฟิกไพพ์ ประกอบ ธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่าย ท่อเหล็กโดยวิธีเชื่อมเหล็กแผ่นซึ่งอาศัยความต้านทานไฟฟ้า
โดย มีทั้งการผลิตตามคำสั่งลูกค้า และ ผลิตพร้อมสำหรับการจำหน่าย ซึ่งท่อเหล็กของบริษัทสามารถแบ่ง
ตามลักษณะการใช้งานของท่อเหล็กซึ่งแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ งานทั่วไปและงานโครงสร้าง
โดยบริษัทประมาณการว่าสัดส่วนการจำหน่ายท่อเหล็กของบริษัทโดยแบ่งตามลักษณะการใช้งานดังกล่าวประมาณ
40% และ 60% ของมูลค่าการจำหน่ายรวม
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ บริษัทแปซิฟิกไพพ์ ได้แก่กลุ่มเลขะพจน์พานิชถือหุ้น
99% ภายหลังการเสนอขายประชาชนทั่วไป ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลง 75.30% ส่วนผลประกอบการของบริษัทในปี
2545-2546 บริษัทมีรายได้จากการขายท่อเหล็กเท่ากับ 1,616.87 ล้านบาทและ 1,963.46
ล้านบาทตามลำดับ แบ่งเป็นการขาย ในประเทศและส่งออกในอัตราส่วน ประมาณ 70-80% และ
30-20% ของรายได้จากการจำหน่าย ในส่วนของกำไรสุทธิในปี 2545-2546 มีกำไรสุทธิ 108.75
ล้านบาท และ 161.33 ล้านบาทตามลำดับ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงิน ปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า
40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ และหลังหักสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนได้
ขึ้นอยู่กับ ผลการดำเนินงาน, ฐานะการเงิน และแผนการลงทุนของบริษัท