แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ปรับกลยุทธ์ผลิตสินค้าลงสู่บ้านระดับกลาง 2-3 ล้านบาทมาก ขึ้น
ผลักดันยอดขายบ้านระดับกลางเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ของยอดขายรวมปี 47 และเพิ่มเป็น
13.5% ในปี 49 นักวิเคราะห์ชี้กลยุทธ์สร้าง ปริมาณการขายส่งผลยอดขายรวม โต 14%
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง จำกัด ระบุว่า แลนด์แอนด์เฮ้าส์ได้ วางแผนที่จะขยายไปสู่ตลาดบ้านระดับกลาง
(ราคาอยู่ระหว่าง 2-3 ล้านบาทต่อหลัง) คาดว่าจะมีแนว โน้มการเติบโตที่ค่อนข้างสูง
และต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยเชื่อว่าแผนการขยายตลาดสู่ตลาดกลางน่าจะเป็นกลยุทธ์สำคัญ
ของบริษัทอย่างหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดขายของบริษัทในอนาคต
ตามแผนการของบริษัทคาดว่าจะทำให้ยอดขายในตลาดบ้านระดับกลางเพิ่มขึ้นเป็น 8.5%
จากยอดขายรวมทั้งปี 47 และในปี 49 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 13.5%
กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยรักษา ส่วนแบ่งตลาดและปริมาณยอดขาย บ้าน (จำนวนหลัง)ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ให้โตขึ้นประมาณ
18% ต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่มูลค่า ยอดขายรวมคาดว่าจะโตขึ้นประมาณ 14%
ในช่วงเดียวกัน ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาขายต่อหน่วย/หลังที่ต่ำลง
ทั้งนี้ กำไรต่อหน่วยจากยอดขายบ้านระดับกลางที่ลดลงจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อผลตอบ
แทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นของ LH (Return on Equity) ในระยะเวลาอัน ใกล้นี้ เนื่องจากคาดว่าอัตราการหมุนเวียนทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้น
(Asset turnover) เป็นผลมาจากระยะเวลาการก่อสร้างที่สั้นลงประมาณ 3 เดือน เนื่องจากการเปลี่ยนระบบการก่อสร้างที่ใช้แผ่นพื้นสำเร็จรูปแทน
กำไรทั้งหมดของ LH คาดว่าในปีนี้จะขยาย ตัวประมาณ 16% และ 11%ในปี 48 ส่วนในปี
49 คาดว่าจะขยายตัวเพียง 4%
จากการคาดการณ์ผลกำไรบนสมมติฐานที่ต้องจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของยอดขายและภาษีเงินได้ที่
22-23% ในช่วงปี 47-49 สิทธิประโยชน์ จากการลดหย่อนทางภาษีจำนวน 6 พันล้านบาทคาดว่าจะนำมาใช้ปีละประมาณ
2 พันล้านบาทระยะเวลา 3 ปี
กำไรสุทธิต่อหุ้น โดยไม่มีการประเมินกำไร พิเศษจากการขายเงินลงทุนในปี 47-49
(กำไรจากราย การพิเศษเป็น 498 ล้านบาทในปี 46) คาดว่าจะตกลง เล็กน้อย และอยู่ที่
0.87 บาทในปี 47 และจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4% เป็น 0.9 บาทในปี 48 และในปี 49 จะลดลงเล็กน้อยประมาณ
2% เหลือ 0.88 บาท
จากการคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นบนฐานของการแปลงสภาพวอร์แรนต์โดยเฉลี่ยนอกจากนี้กำไรสุทธิต่อหุ้นในปีนี้จะลดเหลือ
0.69 บาทต่อหุ้นหากสมมุติให้วอร์แรนต์ทั้งหมดแปลงสภาพ
ปัจจุบันหุ้นของ LH ซื้อขายที่ PER 13.2 เท่า ส่วนในปี 48คาดว่าจะอยู่ที่ 12.7
เท่าซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในตอนนี้อยู่ที่ 9.7 เท่า นอกจากนี้ถ้าคิดรวมผลกระทบจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ทั้งหมด
แล้วจะทำให้ PERในปีนี้อยู่ราวๆ 16.8 เท่า ขณะเดียวกันอัตราเงินปันผลอยู่ที่ 6%
โดยกำหนดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 80%
นายเฉลิม เกียรติธนะบำรุง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำงานก่อสร้างและพัฒนาบ้านในกลุ่ม 2-3 ล้านบาทในปีนี้
จะเริ่ม 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพฤกษ์ลดา รังสิตคลอง 4 และพฤกษ์ ลดา เพชรเกษม-พุทธมณฑล
มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท จะเปิดขายได้ช่วงกลางปี 2547
แผนงานในอนาคต เตรียมจะพัฒนาบ้านเดี่ยว สร้างเสร็จก่อนขาย ระดับราคา 2-3 ล้านบาท
ในอีก 6 ทำเล ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ตอนเหนือในโซนรังสิต นครนายก, กรุงเทพฯ ตะวันตกเฉียงเหนือ
โซนวงแหวน บางใหญ่ , กรุงเทพฯ ตะวันตก โซนปิ่นเกล้า เพชรเกษม, กรุงเทพฯ ตอนใต้
โซน พระราม 2 บาง ขุนเทียน , กรุงเทพฯ ตะวันออก โซนอ่อนนุช บางนา เทพารักษ์ และกรุงเทพฯ
ตะวันออกเฉียงเหนือ ในโซนรามอินทรา สุวินทวงศ์