Prima Vest ได้เวลาบุก

โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ในจำนวนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา คนส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ชื่อของ บลจ.เอเจเอฟ ที่เน้นการทำตลาดเชิงรุก แต่หลังจากนี้ไป ชื่อของ บลจ.พรีมาเวสท์ จะเป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากขึ้น

ถ้าจะถามว่าความแตกต่างระหว่าง บลจ.เอเจเอฟ กับพรีมาเวสท์อยู่ตรงไหน เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คำตอบก็น่าจะอยู่ที่บุคลิก ของบริษัท

ทั้งนี้เพราะ บลจ.พรีมาเวสท์เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เกิดขึ้นทีหลัง เพิ่งมีการจัดตั้งเป็นรูปบริษัทเพียง 3 ปี เพราะฉะนั้นการดำเนินงานจึงเป็นไปอย่างเงียบๆ และค่อนไปทาง Conservative

ผิดกับเอเจเอฟที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มานานกว่า ดังนั้นการทำธุรกิจจึงดูเหมือน จะติดไปทางหวือหวา ทั้งทางด้านการตลาด และนโยบายการลงทุน

แต่นับจากนี้ไป พรีมาเวสท์ได้ตั้งใจ ไว้แล้วว่า จะทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น

"เราคิดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ภาวะหลายๆ อย่างเอื้ออำนวย จริงๆ แล้วมันก็เอื้ออำนวยมาตั้งแต่ปีก่อน เช่นเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพียงแต่ว่าเราคิดว่าปีนี้น่าจะเป็น ปีที่เราพร้อมมากขึ้น จากใน 1-2 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงที่เราเริ่มฟอร์มทีมทำระบบภายใน พอปีนี้เราคิดว่าเรามีคนพอเพียงแล้วที่จะเริ่มรุกธุรกิจนี้มากขึ้น" เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บลจ.พรีมา เวสท์ บอกกับ "ผู้จัดการ"

บลจ.พรีมาเวสท์จัดตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม 2544 โดยการซื้อใบอนุญาตของ บลจ.ซิทก้า-ศรีนคร ต่อจากคณะกรรม-การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)

กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในพรีมาเวสท์ นอกจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ถือหุ้นอยู่ 10% แล้ว ก็คือ กลุ่มบริษัทกรุงเทพวิทยุและโทรทัศน์ ผู้ดำเนินการสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 สี

นอกจากนี้ยังมีบริษัท Mees Pierson International ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Fortis บริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำ จากประเทศเนเธอร์ แลนด์ ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยอีก 25% (รายละเอียดผู้ถือหุ้น โปรดดูตาราง)

"Mees Pierson เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมาตั้งแต่ต้น โดยร่วมทุนกับกลุ่มซิทก้าเพื่อยื่นขอใบอนุญาตจัดการกอง ทุนตั้งแต่เมื่อปี 2540 แต่หลังวิกฤติใบอนุญาตใบนี้ตกอยู่กับ ปรส.เขาก็ไม่ได้ถอนตัวไป จนเมื่อ กลุ่มธนาคารกรุงศรี อยุธยา และช่อง 7 สี ซื้อใบอนุญาตต่อมา จาก ปรส. เขาก็ยังคงถือหุ้นอยู่"

แม้จะมีอายุการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพียง 3 ปี แต่กิจกรรมทางธุรกิจของพรีมา เวสท์ก็มีไม่น้อย เพราะมีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาแล้วถึง 10 กองทุน และมีมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารถึง 2,900 ล้านบาท

ทั้ง 10 กองทุน ที่มีการจัดตั้งขึ้นมา เป็นกองทุนเปิด มีนโยบายการลงทุนแบบระแวดระวัง เน้นลงทุนในตราสารที่มีความ เสี่ยงน้อยที่สุด

"ช่วงแรกที่เราเพิ่งเริ่มต้น เราก็ต้อง ทำอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากทำอะไร ที่มันหวือหวามาก เดี๋ยวเสียหายไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้"

เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา บลจ. พรีมาเวสท์ได้ประกาศออกกองทุนใหม่อีก 3 กองทุน มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ซึ่ง ถือว่ามีมูลค่ามากกว่า 10 กองทุนที่เคยออก มาในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว

ทั้ง 3 กองทุน มีทั้งกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนผสมแบบยืดหยุ่นและ กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุนโดยเฉพาะ

กองทุนแรก ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม (KPI) มูลค่า 4,000 ล้านบาท มีอายุ 3 ปี 4 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเป็นหลัก โดย 50% ของกองทุน จะลงทุนในตราสาร หนี้ของสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทในกลุ่มอุตสาห-กรรมการเกษตร อสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสื่อสาร

กองทุนที่ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์แวลู (KPV) มูลค่า 5,000 ล้านบาท แม้จะเป็นกองทุนเปิด แต่จะไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน จนกระทั่งถึงปี 2550 เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงแต่ต่อเนื่อง

กองทุนสุดท้าย ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์เอ็คควิตี้ (KPE) มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนใน ตราสารทุนโดยเฉพาะ และไม่จ่ายเงินปันผล มีเป้าประสงค์ที่ให้เป็น Growth Fund ที่จะต้องมีอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์ เทียบเท่า หรือสูงกว่าอัตราการเปลี่ยนแปลง ของ Set Index ดังนั้นกองทุนนี้จะต้องมีการ ซื้อมา-ขายไปที่บ่อยครั้งกว่ากองทุน KPV

อาจถือว่าเป็นกองทุนที่จะ Active ที่สุดของพรีมาเวสท์

การออกกองทุนใหม่อีก 3 กองทุน เป็น 1 ใน 4 เป้าหมายหลักของแผนการดำเนินงานในปี 2547 ที่เน้นเพิ่มขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารขึ้นมาอีก 100% เพิ่มความหลากหลายของรูปแบบผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เพื่อให้พรีมาเวสท์ขึ้น เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ

"เป้าหมายของเราคือ ต้องการให้สินทรัพย์ที่เราบริหาร เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะใน 3 ปีแรก เราดำเนินธุรกิจอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ปีนี้เราก็อยากรุกมาก ขึ้น โดยการขยายกองทุน เพิ่มประเภทสินค้าให้ครบทุกประเภท" เพิ่มพลกล่าว

ปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์มีพนักงาน ทั้งสิ้น 36 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้จัดการกองทุนจำนวน 5 คน นำทีมโดยณัฐรา อิสรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ

ภายหลังจากการออกกองทุนใหม่ 3 กองทุนดังกล่าว ในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ. พรีมาเวสท์ยังตั้งใจไว้ว่าจะออกกองทุนเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 2 กองทุน

บุคลิกของ บลจ.พรีมาเวสท์กำลังเพิ่มบทบาทที่มีสีสันขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ถือหุ้นของ บลจ.พรีมาเวสท์

1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 10%

2. บริษัทบีบีทีวี แอสเซตแมเนจเมนต์ 10%

3. Mees Pierson International A.G. 25%

4. บริษัทบีบีทีวี เอ็คควีตี้ 55%







กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.