ปิโก กำไรโตคนจองรับปันผล0.16บ.


ผู้จัดการรายวัน(24 มีนาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ปิโก (ไทยแลนด์) ใช้กลยุทธ์จ่ายปันผลอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น หวังดึงนักลงทุนเข้ามาจองซื้อ บล.ยูไนเต็ดชี้ลูกค้ามีความต้องการล้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่ ได้รับจัดสรรถึง 3 เท่า เล็งเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ สถาบันการเงิน บริษัทประกัน และธุรกิจขายตรง

นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัทปิโก (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น จากผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ถือหุ้นใหม่ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทปิโก (ไทยแลนด์) จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 26 ล้านหุ้น โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 6.25 บาทซึ่งในระดับราคาดังกล่าวจะมีค่าพี/อีเรโชอยู่ที่ระดับ 13.48 เท่า ซึ่งจะสูงกว่า พี/อี เรโชของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) ที่เข้าซื้อขาย ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของปี 2546 แต่ถ้าพิจารณาจากผลประกอบการในปี 2547 ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% จะทำให้ค่าพี/อี เรโช ลดลงเหลือ 10 เท่า และหุ้นจะขายในวันที่ 31 มีนาคมถึง 2 เมษายน 2547 เข้าซื้อขายในวันที่ 20 เมษายน 2547 นี้ จากจำนวนหุ้นที่กระจายนั้นในส่วนของบล. ยูไนเต็ดได้รับการจัดสรรประมาณ 30% และปรากฏว่าลูกค้าของบริษัทได้แสดงความสนใจจองที่จะจองซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนที่ได้รับการจัดสรรถึง 3 เท่า

"ถึงแม้ว่าบรรยากาศการซื้อขายหุ้นในช่วงนี้จะมีความผันผวน และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ก็มั่นใจว่าหุ้นบริษัท ปิโกจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจและการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ รวมทั้งการขยายตัวด้านกิจกรรมการตลาดของธุรกิจยานยนต์ และสื่อสาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครองตลาดอยู่ สอดรับกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของปิโก" นายพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ประธานกรรมการ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า การระดมทุนครั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการลงทุนในบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจที่สอดคล้อง ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่อขยายการดำเนินงานธุรกิจในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทตามแนวโน้มของภาวะอุตสาหกรรมการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่มีแนวโน้มที่ดี โดยมีรัฐบาลให้การสนับสนุน และกำหนดเป็นกลยุทธ์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแสดงสินค้านานาชาติและศูนย์รวมของภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้กว่า 4 พันล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติที่ภูเก็ต และเชียงใหม่ ภายใน 2 ปีข้างหน้า

ปัจจุบัน บริษัทปิโก (ไทยแลนด์) มีกลุ่มลูกค้าประจำทั้งธุรกิจผู้ผลิตรถยนต์ และการสื่อสาร เช่น Mercedez Benz, Chevrolet, Ford, GM และ Shin Group ซึ่งบริษัทชั้นนำเหล่านี้ต่างให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมทางการตลาดแบบครบวงจร เพื่อสร้าง ภาพลักษณ์ธุรกิจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงมากขึ้นส่งผลให้บริษัทมีรายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจบริหารงานออกแบบพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะหากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้าสถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทที่ทำธุรกิจขายตรง เช่นบริษัทที่ขายเครื่องสำอาง เป็นต้น

ด้านโครงสร้างรายได้ในปี 2545-2546 มีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีรายได้รวมในปี 2545 จำนวน 373.60 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 449.34 ล้านบาทในปี 2546 โดยมีรายได้หลักจากการจัดกิจกรรมงานแสดงสินค้า 61.59% การจัดกิจกรรมการตลาด 24.50% และการจัดกิจกรรมนิทรรศการถาวรและพิพิธภัณฑ์ 8.06% ของรายได้รวม ส่วนกำไรสุทธิมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2545 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.15 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 30.14 ล้านบาท ในปี 2546



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.