PICNIเตรียมพร้อมรับเสรีLPGดันยอดขายก๊าซ2.3หมื่นตัน/ด.


ผู้จัดการรายวัน(19 มีนาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ปิคนิคแก๊สฯพร้อมรับเสรี LPG โดยตั้งบริษัทย่อยในสิงคโปร์ เพื่อรับรู้ข้อมูลเพื่อนำเข้าก๊าซฯและเร่งขยายร้านค้า-คลังเก็บก๊าซฯเพิ่ม เพื่อรองรับตลาดที่ขยายตัว ยอมรับเหล็กขาดแคลนฉุดการก่อสร้างคลังเลื่อนออกไป แต่หาทางออกโดยเจรจาเรื่องคลังกับไทยออยล์และบางจากฯไว้แล้ว เชื่อหากเปิดเสรีก๊าซฯขยับขึ้นทันที 3 บาทต่อกิโลกรัม เผยเป้าปีนี้มียอดขายก๊าซฯในประเทศ 2.3 หมื่นตันต่อเดือน จากเดิมที่มียอดขาย 1.89 หมื่นตัน และยอดขาย ที่เวียดนามอีก 4 พันตันต่อเดือน

นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (PICNI) เปิดเผยถึงผลกระทบหากรัฐจะเปิดเสรีก๊าซหุงต้ม (LPG) ในช่วงเมษายนนี้ว่า จะส่งผลกระทบระยะสั้น โดยราคา LPG จะปรับเพิ่มขึ้นกก.ละ 3 บาท ซึ่งบริษัทได้มีการ เตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรี LPG โดยสำรองเงินไว้สำหรับซื้อ LPG เพิ่มขึ้นหากราคา LPG ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งบริษัทได้ตั้งบริษัทย่อยในสิงคโปร์ เพื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสารให้ทันสถานการณ์ในการนำเข้า LPG หาก ราคานำเข้าบวกค่าขนส่งต่ำกว่าราคา LPG ในโรงแยกก๊าซฯและโรงกลั่น

รวมทั้ง บริษัทมีแผนจะซื้อเรือบรรทุกก๊าซฯจากปัจจุบันที่เช่าอยู่ โดย ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาถึงข้อดี-ข้อเสีย ประหยัดต้นทุนและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยหากมีการซื้อเรือน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทมีการ ก่อสร้างคลังเก็บก๊าซฯเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมขยายร้านปิคนิค แก๊ส เพิ่มขึ้นในปีนี้เป็น 500 ร้าน จากเดิม 380 ร้าน และในปีถัดไป จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันร้าน รวมทั้งเน้นการให้บริการเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค เพื่อก้าวสู่ความเป็น Leader Retailer ขณะเดียวกันก็จะขยายคลังเก็บ LPG เพิ่มเติม เพื่อลดต้นทุน การเช่าคลัง โดยจะเปิดคลังแห่งใหม่ที่สมุทรสงครามในช่วงตุลาคมนี้ หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างคลังเก็บก๊าซฯที่สุราษฎร์ธานี 500 ตัน และส่วนขยาย คลังเก็บก๊าซฯที่ลำปางในปลายปี 2547 จากเดิม 200 ตันเป็น 800 ตัน โดยใน ปีถัดไปจะสร้างคลังเพิ่มเติมอีก2 แห่งที่นครสวรรค์ และขอนแก่น

"หลังเปิดเสรีก๊าซ LPG หากมีคลังก๊าซฯมาก ก็จะช่วยประหยัดต้นทุน แต่เจอปัญหาเหล็กขาดตลาด ทำให้ไม่มีเหล็กในช่วง 6 เดือนข้างหน้านี้ จึงต้องเลื่อนการก่อสร้างคลังแห่งใหม่ไปเป็นปลายปีแทน ส่วนคลังก๊าซฯที่สมุทรสงครามนั้นไม่มีปัญหา เพราะได้มีการก่อสร้างไปแล้ว 60% โดยในส่วนของคลัง บริษัทได้มีการเจรจากับไทยออยล์และบางจากไว้แล้ว"

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2547 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย LPG ทั้งในและต่างประเทศประมาณ 2.7 หมื่นตัน/เดือน แบ่งเป็นปริมาณการขายใน ประเทศ 2.3 หมื่นตัน/เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ยเดือนละ 1.89 หมื่นตัน และปริมาณการขายก๊าซฯที่เวียดนาม 4 พันตัน/เดือน รวมทั้งตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด LPG จากเดิม 8% เพิ่มขึ้นเป็น 10% ต่ำกว่าเป้าหมาย เดิมที่ตั้งไว้ 12% ส่วนธุรกิจด้านวิศวกรรมของปิคนิคฯปีนี้จะรับรู้รายได้ 1.49 พันล้านบาทจากโครงการที่ก่อสร้างในปีที่แล้วมูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 30% ของรายได้ทั้งหมดในปีนี้ โดยไตรมาส แรก บริษัทจะรับรู้รายได้กว่า 300 ล้านบาท

"สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมารายได้จากก๊าซฯจะมีสัดส่วน 90% และรายได้จากวิศวกรรม 10% แต่ ในปีนี้คาดว่ารายได้จากงานวิศวกรรม จะเพิ่มเป็น 30% เนื่องจากปีที่แล้วงานด้านวิศวกรรมมีรายได้ต่ำ ส่วนแผนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศนอกเหนือจากเวียดนามนั้น ขณะนี้อยู่ ระหว่างศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบทั้งที่อินโดนีเซีย กัมพูชา และศรีลังกา ก่อน ตัดสินใจ โดยมีจุดมุ่งหมายเป็นผู้นำก๊าซ LPG ขนาดถัง 4 กิโลกรัม" นายธีรัชชานนท์กล่าว

นางอ้อยทิพย์ ชลธิชานันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค แก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซฯ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการขายหุ้น เพิ่มทุนเมื่อปีที่แล้ว และได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 3.4 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการชำระหนี้และใช้ในการขยายงาน โดยอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกออกในจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซฯต้องเลื่อนไปเป็นปลายปีนี้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.