มั่นคงเคหะการ-สัมมากร เสนอภาพลักษณ์ใหม่องค์กรผ่านงานโฆษณา เน้นวัตถุประสงค์ย้ำแบรนด์
ปรับวิธีการนำเสนอให้เข้ากับไลฟ-สไตล์ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ชี้แข่ง ขันยุคนี้ต้องปรับวิธีการนำเสนอให้ทันสมัย
นอกเหนือจากรูปแบบบ้าน พื้นที่ใช้สอย และสภาพแวดล้อมโครงการ
การตลาดแนวใหม่ของกลุ่มผู้ประกอบการจัดสรรยังเน้นใช้สื่อ เป็นส่วนผสมกับการจัดกิจกรรมการ
ตลาดและส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะ องค์กรที่อยู่ในตลาดมานานทำให้ภาพลักษณ์ในยุคก่อนไม่สามารถเข้า
ถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตั้งใจ
สัมมากร และมั่นคงเคหะการ 2 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดมากว่า 20
ปี เริ่มเคลื่อน ไหวด้านการตลาด และมีการปรับวิธีการนำเสนอสินค้าไปพร้อมกับภาพลักษณ์องค์กรครั้งใหม่
นายกิตติพล ปราโมทย์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า วิธีการนำเสนอสินค้าของกลุ่มที่อยู่อาศัยในอดีตรวมถึงสัมมากรจะเน้นรูปแบบ
และบอกถึง ฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านเป็นหลัก แต่วิธีการตลาดยุคใหม่ จำเป็น ต้องนำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น
สะท้อนความรู้สึกของลูกค้า เมื่อได้เห็นโฆษณา และบ่งบอกได้ถึง ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
ที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ภายในโครงการ
สำหรับสัมมากร ได้เริ่มปรับแนวทางการนำเสนอสินค้าผ่านโฆษณาประมาณต้นปี โดยเริ่มจาก
การวางแนวคิดตั้งแต่เริ่มพัฒนาสินค้า กำหนดพื้นที่ใช้สอยภายใน บ้านให้เป็นสัดส่วน
และมีจุดเด่นใน การเข้าถึงลูกค้า โดยเริ่มวิธีคิดนี้ในโครงการสัมมากร รังสิต คลอง
2 และโครงการที่ศรีนครินทร์
วิธีการนำเสนอในแนวทางของการดึงความรู้สึกของผู้บริโภค เข้ามามีส่วนร่วม (Emotion
Advertising) กับสินค้าและโฆษณา ที่นำเสนอ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวสินค้า และการพัฒนาของผู้ประกอบการ
ที่จะทำอย่างไรให้ความรู้สึกนั้นชัดเจนมากขึ้นเมื่อลูกค้าได้เข้าอยู่แล้ว โดยสื่อโฆษณาที่ใช้จะเป็นสิ่งพิมพ์ในนิตยสาร
และป้ายโฆษณาในรัศมีรอบโครงการ
ในส่วนของสัมมากร จะเน้นการพัฒนาสินค้าภายใต้แนวคิดหลัก ประกอบด้วย บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย
เน้นการออกแบบในสไตล์ ร่วมสมัย (Contemporary) และความเป็น ส่วนตัวในการอยู่อาศัยที่ได้จากการ
กำหนดพื้นที่โครงการ
"ปีนี้มีการแข่งขันสูง ความได้เปรียบอยู่ที่สินค้าและทำเล ถ้าทำ 2 ส่วนนี้ได้ดีจะสามารถขายได้ในตลาด
รองลงมาเป็นชื่อเสียงของผู้ประกอบการ โดยปีนี้คาดว่าจะมีโครงการที่อยู่ระหว่างขายและโครงการใหม่
รวม 6 โครงการ และน่าจะมียอดขายประมาณ 800 ล้านบาท"
ด้าน นายชูเกียรติ ตั้งมต-ธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท
มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มั่นคงฯ เริ่มปรับแนวทางการนำเสนอสินค้ากับตลาด
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด จัตุรัสชวน ชื่น ซึ่งจะใช้เป็นวิธีคิดหลักในการสร้างแบรนด์และทำโฆษณาสินค้า
"การเสนอสินค้า และภาพลักษณ์บริษัทผ่านงานโฆษณาจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
เริ่มสร้าง การรับรู้ไปทีละส่วน จากชิ้นแรก ที่เสนอไป อยู่ระหว่างการวัดผลว่าเป็นอย่างไร
ก่อนที่จะพัฒนาในส่วนต่อไป" แนวทางการใช้สื่อจะเน้นกับป้ายโฆษณามากที่สุด
เพราะเป็น สื่อที่วัดผลได้ และมีประสิทธิภาพ จากการวัดผลจากยอดจองเป็นส่วนใหญ่ระบุว่าได้รับทราบข้อมูล
มาจากป้ายโฆษณา
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการ พิจารณานำวารสารองค์กรที่หยุดดำเนินการในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจกลับมาทำใหม่
เพราะมองว่าจะเป็นอีกเครื่องมือทางการตลาดที่เล็งผลได้ และมีลูกค้าเสนอว่าต้อง
การเป็นสมาชิก โดยในอดีตมีการ จัดพิมพ์หลายหมื่นเล่ม คิดเป็น ต้นทุนต่อครั้งในการตีพิมพ์ประมาณ
1 ล้านบาท คาดว่าหากนำกลับมาทำใหม่น่าจะอยู่ที่ 1-2 แสนเล่ม
วิธีการนี้ได้ผลทางการตลาด เพราะเป็นการนำเสนอข่าวสารโครงการ และเป็นสื่อของสมาชิก
อาทิ ลูกค้าเก่าที่ต้องการขายบ้านเดิมเพื่อซื้อบ้านในขนาดใหญ่ขึ้น หรือ มีการแนะนำสินค้าจากลูกค้า
เก่าไปยังลูกค้าใหม่
ในปี 2547 บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ ชวนชื่น แคราย บ้านเดี่ยว
ขนาด 50-70 ตร.ว. จำนวน 144 ยูนิต ราคา 4.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท
สร้างบ้านพร้อมอยู่ จำนวน 30 ยูนิต ชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช บ้านเดี่ยว ราคา 4 ล้านบาท
ชวนชื่น วัชรพล บ้านเดี่ยว 3-4 ล้านบาท และโครงการสิรีนเฮ้าส์ บางนา บ้าน เดี่ยวและบ้านแฝด
200 ยูนิต ราคา 1.3-1.5 ล้านบาท รวมทั้งจะเปิดตัวบ้านเดี่ยวใหม่ในเฟสเดิมของโครง
การชวนชื่น แจ้งวัฒนะ 120 ยูนิต และ ชวนชื่น ปิ่นเกล้า จำนวน 150 ยูนิต