ผู้บริหารยูโอบี สิงคโปร์เจ้าของธนาคารยูโอบีรัตนสิน หารือผู้ว่าฯแบงก์ชาติ หลังตัดสินใจซื้อหุ้นธนาคารเอเชีย
จากเอบเอ็นแอมโร "ธาริษา" เผยแบงก์ชาติหนุนหลังแต่ต้องรอคำตอบจากผู้บริหารธนาคารเอเชีย
ขณะที่บอสใหญ่ยูโอบีประกาศนโยบายลงทุน ในไทยเพิ่มเพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักในเอเชีย
วานนี้ (11 มี.ค.) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายวี อี เชียง รองประธานกรรมการ
ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ ซี แบงก์ (ยูโอบี) และนายเยน ฮุย มิง กรรมการจัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
(ซีอีโอ) ธนาคารยูโอบีรัตนสิน (UOBR) เข้าพบ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าฯ ธปท.
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าฯธปท. สายเสถียรภาพสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ผู้บริหารธนาคารยูโอบีรัตนสินและยูโอบีเข้ามาพบม.ร.ว.ปรีดิยาธร
เพื่อหารือเรื่องการควบรวมกับธนาคารเอเชีย (BOA) เกี่ยวกับขั้นตอนและระเบียบปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ได้แก่ การคืนใบอนุญาต สิทธิประโยชน์ทางภาษี ค่าใช้จ่าย เป็นต้น
"ยูโอบีต้องการคำแนะนำจากแบงก์ชาติผู้บริหารยังถามด้วยว่า ถ้าหากมีการควบรวมระหว่างยูโอบีรัตนสินกับแบงก์เอเชียสำเร็จ
แบงก์ชาติจะขัดข้องหรือไม่"
นางธาริษากล่าวว่า แบงก์ชาติสนับสนุนให้เกิดการควบรวมกิจการ ทั้งนี้ การควบรวมธนาคารยูโอบีรัตนสินกับธนาคารเอเชียน่าจะสร้างความแข็งแกร่งขึ้น
อีกประเด็นที่ผู้บริหารยูโอบีให้ความสำคัญคือผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย นางธาริษากล่าวว่า
มีกฎเกณฑ์ตามแนวทางการควบรวมกิจการอยู่แล้ว สามารถดำเนินการตามได้ทันที
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดมีกระแสข่าวว่าการเจรจาของ 2 ธนาคาร เหลือเพียงการต่อรองราคา
และน่าจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในเร็วๆ นี้ นางธาริษากล่าวว่า การหารือครั้งนี้ผู้บริหารธนาคารยูโอบียังไม่ได้แจ้งว่า
การเจรจาซื้อหุ้นธนาคารเอเชียได้ข้อสรุปแต่อย่างใด
"หากยูโอบีต้องการซื้อฝ่ายเดียวยังไม่สามารถ ทำได้ เพราะต้องให้ผู้บริหารธนาคารเอเชียตัดสินใจด้วย
เท่าที่ทราบ ผู้บริหารธนาคารเอเชียมีการเจรจากับพันธมิตรที่ต้องการเข้ามาซื้อหุ้นอยู่หลายแห่ง"
นางธาริษากล่าวว่า หากการเจรจาสำเร็จทั้งสองธนาคารจะต้องเสนอแผนการควบรวมกิจการทั้งหมดมาให้ธปท.พิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในฐานะที่ถือหุ้นในธนาคารยูโอบีรัตนสินคงต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วย
ปัจจุบันยูโอบีถือหุ้นในธนาคารยูโอบีรัตนสิน 78.83% กองทุนฟื้นฟู 21.16% รายย่อยซึ่งเป็นของตระกูลจันทร์ศรีชวาลา
0.01% มีสินทรัพย์ 56,182 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารเอเชียถือหุ้นใหญ่โดย เอบีเอ็นแอมโรในสัดส่วน
80.77% มีสินทรัพย์ 170,513 ล้านบาท
โดยวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้บริหารเอบีเอ็นแอมโร ผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารเอเชียและนายจุลกร
สิงหโกวินท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเอเชีย ได้เข้าพบผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ขณะที่วันที่
17 ก.พ.ประธานกรรมการยูโอบี สิงคโปร์เดินทางมามอบนโยบายให้ผู้บริหารยูโอบีรัตนสิน
โดยระบุอย่างชัดเจนว่า ยูโอบีมีเป้าหมายในการเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากมีความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว
ประกอบกับทำเลที่ตั้งของประเทศไทยสามารถเป็น 1 ใน 3 จุดยุทธศาสตร์หลักในการลงทุนนอกจากสิงคโปร์และจีน
ยูโอบีก่อตั้งขึ้นในปี 1935 ปัจจุบันถือเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และเป็นผู้เล่นชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก
มีสินทรัพย์รวมกว่า 113,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และกองทุนผู้ถือหุ้น 13,300 ล้านดอลลาร์
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิหลังหักภาษี
1,202 ล้านดอลลาร์ ยูโอบีมีธนาคารในเครือชื่อ ฟาร์ อีสเทิร์น แบงก์ในสิงคโปร์,
ยูไนเต็ด โอเวอร์ ซีส์ แบงก์ (มาเลเซีย), แบงก์ ยูโอบี อินโดนีเซีย, ยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์
แบงก์ ฟิลิปปินส์ และยูโอบี รัตนสินในประเทศไทย และมีเครือข่ายสาขา 249 แห่งทั่วโลก
ประกอบด้วยสาขาธนาคารในสิงคโปร์ และสำนักงานในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย
จีน ฮ่องกง สหรัฐฯ ไต้หวัน ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น พม่า เกาหลีใต้
อังกฤษ และเวียดนาม และธนาคารยูโอบียังทำธุรกิจอื่นๆ อาทิ ท่องเที่ยว-เดินทาง ลีสซิ่ง
พัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และการค้า