หุ้นแบงก์ร่วงสวนกระแส เหตุข่าวลือกระหึ่มแบงก์กรุงไทย เตรียมเพิ่มทุนควบรวม
"นครหลวงไทย-แบงก์ไทย" บวกหุ้นกลุ่มแบงก์ยังเจอมรสุมข่าวกรมมลพิษเตรียมฟ้อง
5 แบงก์ กรุงไทย กสิกรไทย ทหารไทย นครหลวงไทย และเอเชีย เรียกค่าเสียหาย 3,000
ล้านบาท ฐานเป็นผู้ค้ำประกันบริษัทรับเหมาที่ผิดสัญญาว่าจ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (9 มี.ค.) ดัชนีมีทิศทางที่ค่อนข้างสดใส
ตอบรับกับข่าวการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นนายสมคิด จาตุศรี-พิทักษ์
ที่จะกลับมานั่งเก้าอี้เดิมอีกครั้ง โดยดัชนีปิดตลาดที่ 710.66 จุด เพิ่มขึ้น 6.20
จุด มูลค่าการซื้อขาย 20,248.67 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะในส่วนของหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ส่งผลให้ดัชนี
กลุ่มไฟแนนซ์ปิดที่ระดับ 1,769.08 เพิ่มขึ้น 58.44 จุด หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น
3.42% ในขณะ ที่หุ้นธนาคารกลับปรับตัวลดลง โดยดัชนีกลุ่มแบงก์ปิดที่ระดับ 241.94
จุด ลดลง 1.62 จุด ซึ่งนำ โดยการลดลงของหุ้น KTB ที่ปิดตลาดที่ระดับ 10.80 บาท
ลดลง 0.30 บาท คิดเป็น 2.70%
นอกจากนั้น ราคาหุ้นของธนาคารกสิกรไทย(KBANK) และธนาคารเอเชีย(BOA) ปรากฏว่าปรับตัวลดลงเช่นกัน
โดย KBANK ปิดที่ 50 บาท ลดลง 0.50 บาท และ BOA ปิดที่ 5.30 บาท ลดลง 0.05 บาท
นางสาวรัชนก ด่านดำรงรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาติ
กล่าว ว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลง เนื่องจากข่าวกรมมลพิษเตรียมฟ้อง
5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย กรุงไทย ทหารไทย นครหลวงไทย และเอเชีย เพื่อเรียกค่าเสียหาย
3 พันล้านบาท ฐานเป็นผู้ค้ำประกันบริษัทรับเหมาที่ผิดสัญญาว่าจ้างโดยแบงก์ที่ต้องรับผิดชอบ
มากสุดคือธนาคารทหารไทย จำนวน 1,035 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย จำนวน 556 ล้านบาทธนาคารกสิกรไทย
จำนวน 536 ล้านบาท ธนาคารเอเชีย จำนวน 451 ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย จำนวน 417
ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าหากต้องจ่ายค่าเสียหายจริงก็จะกระทบกับแบงก์ไม่มาก เนื่อง
จากแบงก์ใหญ่อย่างธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย มีฐานกำไรสุทธิจำนวนมาก
นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่า ธนาคารกรุงไทยจะมีการเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเงินกอง
ทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐานบีไอเอสประมาณ 14% ถือว่าสูงมากหากเทียบกับ 8.5%
ขั้นต่ำ ดังนั้นหากจะเพิ่มทุนคงจะไม่ใช่เอาไปแก้ปัญหาแต่อาจจะเอาไปใช้สร้างความเติบโตมากกว่า
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์ กล่าวว่าในช่วงท้ายตลาดมีข่าวลือในห้องค้าหลักทรัพย์ซึ่งมาจากสถาบันที่เป็นโบรกเกอร์ต่างประเทศแห่งหนึ่ง
โดยระบุว่าธนาคารกรุงไทย (KTB) จะมีการเพิ่มทุนในเร็วๆนี้ เพื่อนำไปซื้อหุ้นของธนาคารนครหลวงไทย
(SCIB) และธนาคารไทยธนาคาร (BT) เพื่อดำเนินการควบรวมกิจการตามแผนแม่บทสถาบันการเงินฉบับใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) จากกระแสข่าวลือดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น KTB ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในช่วงปลายตลาด
ทั้งนี้การที่ KTB จะควบรวมกิจการกับ SCIB และ BT ถือว่ามีความเป็นไปได้ เนื่องจากทั้ง
3 แห่งมีผู้ถือหุ้นเป็นกองทุนฟื้นฟูฯเหมือนกัน จากก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า
KTB อาจจะควบ รวมกับ SCB แต่ล่าสุดผู้บริหาร SCB ก็ออกมายืนยันว่าจะควบรวมกับธนาคารที่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้น