ในไตรมาส 3 ปีนี้ เป็นกำหนดการที่ธนาคารธนชาติ (Nation Bank) ซึ่งเป็นเป็นธนาคารจำกัดขอบเขตธุรกิจ
(Restricted Bank) แห่งแรก ที่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการกันระหว่างบริษัทเงินทุนธนชาติ
บริษัทเงินทุนเอกชาติ และบริษัทเงินทุนอีก 3 แห่ง จะเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชน
ขนาดของธนาคารธนชาติ จะเล็กสุดในระบบ หรือใหญ่กว่าธนาคาร ยูโอบี รัตนสิน
แต่เมื่อเทียบคุณภาพสินทรัพย์จะเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์ดีมากที่สุด เพราะจะไม่มีหนี้เสียเลย
บันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บง.ธนชาติ ซึ่งได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) ให้ยกระดับเป็นธนาคารจำกัดขอบเขตกล่าว
การยกระดับบง.ธนชาติ เป็นธนาคารจำกัดขอบเขต เป็นไปตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ต้องการลดจำนวนบริษัทเงินทุนลง โดยบริษัทเงินทุนแห่งใดที่มีขนาดได้ตามเกณฑ์
ก็สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอยกระดับเป็นธนาคารได้
ที่ผ่านมามีบริษัทเงินทุนหลายแห่งที่แสดงความสนใจยกระดับตนเองเป็นธนาคารจำกัดขอบเขต
โดยนอกจากบง.ธนชาติแล้ว ยังมีบง.ทิสโก้ และบง.เกียรตินาคินอีก 2 แห่ง โดยในส่วนของบง.ทิสโก้นั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบง.บางแห่งในการควบรวมกิจการ เพราะตามเกณฑ์ของธปท.
กำหนดว่า บง.ที่ต้องการเป็นธนาคารจำกัดขอบเขตธุรกิจ จะต้องควบรวมกันอย่างน้อยให้ได้
5 แห่ง และต้องมีเงินกองทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบันบง.ธนชาติมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 13,331.29 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา
บง.เอกชาติได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนไปแล้วรวมกว่า 8,000 ล้านบาท รวมทั้งการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์อีก
3,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมเงินกองทุนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ของทั้ง 2 บริษัท
จะได้เกิน 10,000 ล้านบาท ตามเกณฑ์ที่ธปท.กำหนด
สำหรับขั้นตอนในการจัดตั้งธนาคาร ขณะนี้บง.ธนชาติ อยู่ระหว่างการโอนหนี้ดีจำนวนประมาณ
10,000 ล้านบาท ไปยังบง.เอกชาติ และโอนหนี้เสียไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์
(เอเอ็มซี) ธนชาติ
ตามแผนการที่วางไว้ หลังได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง
ธนาคารธนชาติจะทำสัญญาเช่าอาคารต้นสน ถนนชิดลม ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาวางแผนจะเปิดเป็นสาขา
แต่ต้องระงับไปเนื่องจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เพื่อใช้เป็นสำนักงานใหญ่ และในปีแรกจะเปิดสาขา
5-10 แห่ง ส่วนในปีที่ 2 มีแผนที่จะรวมกิจการกับธนาคารพาณิชย์อื่น หรือเสนอตัวเข้าซื้อกิจการธนาคารพาณิชย์บางแห่ง
ในการดำเนินธุรกิจนั้น เนื่องจากธนาคารธนชาติ เป็นธนาคารประเภทจำกัดขอบเขตธุรกิจ
ดังนั้นจะไม่สามารถรับฝากเงินประเภทออมทรัพย์ได้ในปีแรก แต่จะสามารถดำเนินการได้ในปีที่สอง
รวมทั้งการเปิดให้บริการเงินด่วนหรือเอทีเอ็ม ส่วนการให้บริการเช็คนั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการอย่างช้าภายในปีที่
5 ที่เปิดดำเนินการ รวมถึงการให้บริการซื้อขายเงินตราต่างประเทศด้วย
ส่วน บง.ธนชาติ ก็จะยังคงอยู่ โดยจะหันมาทำธุรกิจเช่าซื้อ เพื่อไม่ให้ธุรกิจเกิดการซ้ำซ้อนกัน
รวมถึงการซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงินมาบริหาร เพราะจากประเมินแล้วพบว่า
ธุรกิจดังกล่าวสามารถทำรายได้ดีกว่าการปล่อยกู้ โดยที่ผ่านมาบง.ธนชาติได้ซื้อหนี้เสียมูลค่ารวม
5,937 ล้านบาท จากยอดหนี้คงค้าง 23,067 ล้านบาทมาจากธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ
และได้แบ่งหนี้เสียออกเป็น 2 ส่วนเพื่อแยกบริหาร ส่วนหนึ่งโอนมาอยู่ใน บบส.ธนชาติ
อีกส่วนหนึ่งอยู่ใน บบส.เมกซ์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง มาบุญครอง, มอร์แกน
สแตนเลย์ และ บง.ธนชาติ
ไตรมาสแรกที่ผ่านมา บง.ธนชาติ เป็นบง.ที่สามารถทำกำไรได้สูงสุด ในจำนวนบง.
11 แห่ง ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสามารถทำกำไรได้
683.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,592.86% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน
45.81 ล้านบาท ขณะที่บง.ทั้ง 11 แห่ง ได้แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิรวม
1,450.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250.95% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2543 ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิรวม
960.66 ล้านบาท
เป็นที่น่าจับตาว่า การที่บง.ธนชาติสามารถจัดตั้งธนาคารจำกัดขอบเขตขึ้นมาได้ในปลายปีนี้
จะมีผลต่อการแข่งขันในธุรกิจธนาคารพาณิชย์โดยรวมในปีหน้าอย่างไร