หุ้น SATTEL ร่วง 14% หลังบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุนใหม่ 213.8 ล้านหุ้น เพื่อขายประชาชน
ทั่วไป 208 ล้านหุ้น พร้อมกัน 5.89 ล้านหุ้น สำรองไว้รองรับการแปลง สภาพซื้อหุ้นสามัญในโครงการ
ESOP 3 ที่ออกให้กรรมการและพนักงาน พร้อมประกาศแตกพาร์จาก 10 บาทเหลือหุ้นละ 5
บาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดปี 46 กำไรหด 22%
วานนี้ (25 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น SATTEL ของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
ร่วงลงทันทีหลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงานออกมาและพบว่าราคาหุ้นดังกล่าวติด
อันดับหุ้นที่มีราคาปรับลดลงอันดับ 4 ในช่วงเช้า โดยราคาปิดช่วงเช้าที่ 33.75 บาท
ลดลง 4 บาท คิดเป็นลดลง 10.60% มูลค่าการซื้อขาย 596.64 ล้านบาท ก่อนปิดตลาดที่
32.50 บาท ลดลง 5.25 บาท คิดเป็น 13.91% มูลค่าการซื้อขาย 866.69 ล้านบาท
โบรกเกอร์รายหนึ่งกล่าวว่า เพราะนักลงทุน วิตกจากผลดำเนินงานที่ลดลง ขณะที่ SATTEL
เตรียมเพิ่มทุนใหม่ 213.80 ล้านบาท โดยแบ่งขายให้กับประชาชนทั่วไป แต่รายละเอียดการจัดสรรยังไม่ชัดเจน
ขณะที่กันหุ้นส่วนหนึ่งไว้รองรับการแปลงสภาพวอร์แรนต์โครงการ ESOP
นายดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ กรรมการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ชินแซทเทลไลท์
จำกัด (มหาชน) (SATTEL) ของคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ว่าได้อนุมัติให้ลดทุน
โดยตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้จำหน่ายจำนวน 100,099,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
10 บาท คงเหลือหุ้นจำนวน 449,900,100 หุ้น คิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 4,499,001,000
บาท และให้บริษัทเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ
5 บาท โดยทุนจดทะเบียนของบริษัทจะคงเดิมคือ 4,499,001,000 บาท แต่หุ้นสามัญเพิ่มขึ้นจาก
449,900,100 หุ้น เป็น 899,800,200 หุ้น
อนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญแก่กรรมการ พนักงาน
และที่ปรึกษาของบริษัท ครั้งที่ 3 จำนวน 2,947,100 หน่วย (ซึ่งหากภายหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้
(Par Value) เป็นหุ้นละ 5 บาทแล้ว จะเป็นจำนวน 5,894,200 หน่วย ) คิดเป็น 0.67%
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท
ทั้งนี้ ให้จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 ให้แก่
กรรมการ พนักงาน และที่ปรึกษาของบริษัทที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเกินกว่าร้อยละ
5 ของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ขออนุญาตทั้งสิ้นของโครงการซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนแล้ว
พร้อมกับมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากเดิม 4,499,001,000 บาทเป็น 5,568,472,000
บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 213,894,200 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
เป็นจำนวนเงิน 1,069,471,000 บาท
ให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจำนวน ไม่เกิน 208,000,000 หุ้น เสนอขายแก่ประชาชน
ทั่วไป โดยแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินในการออกและเสนอขาย
หุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวพร้อมกัน 5,894,200 หุ้น สำรองไว้เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อ
หุ้นสามัญของบริษัทตามโครงการ ESOP ครั้งที่ 3
นอกจากนี้ SATTEL เตรียมขอผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 46 อัตราหุ้นละ
50 สตางค์ แต่เมื่อราคาพาร์ลดเหลือ 5 บาท บริษัทจะจ่ายหุ้นละ 25 สตางค์ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท
โดยบริษัทกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผลในวันที่
2 เมษายน 47 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ซึ่งต้องได้รับการยินยอมจากผู้ให้สินเชื่อโครงการไอพีสตาร์ของบริษัทก่อน
และผู้ถือหุ้น โดยจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 47
นายดำรงเปิดเผยผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 46 ว่า SATTEL เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี
46 ว่าบริษัทมีรายได้รวม 6,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้
5,429 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 46 มี 1,080.82 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร
1,410.52 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้นลดลงจาก 3.22 บาทเหลือ 2.47 บาทต่อหุ้นหรือลดลง
22% โดยรายได้รวมปี 46 เพิ่มขึ้น 14.5% จากปีก่อน อันเป็นผลจากรายได้ธุรกิจ อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น
155.7% เนื่องจากบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด เข้าไปลงทุนในบริษัท ล็อกซเล่ย์
อินฟอร์เมชั่นส์ เซอร์วิส ในเดือนมีนาคม 46 ทำให้เกิดความหลากหลายในการให้บริการและการขยายตัวของฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะลูกค้าประเภท Leased line และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม (Broadband
Satellite Internet)
ส่วนรายได้จากธุรกิจให้บริการระบบโทรศัพท์ ในต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 99% เนื่องจากรับรู้รายได้จาก
บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (LTC)