แม่น้ำเจ้าพระยาไหลวนคดเคี้ยวอยู่เบื้องหน้า เมื่อมองลงมาจากร้าน Sirocco ส่วนด้านร้านอาหารอิตาเลียนจะเห็นทิวทัศน์ของฝั่งธนบุรี
ทุกมุมมองถูกเติมให้เต็มเมื่ออยู่ในห้องจัดเลี้ยงใต้โดม 360 องศา รัฐวดีตั้งความหวังไว้อย่างมากว่า The Dome คือ แม่เหล็กตัวใหญ่ที่จะดึงผู้คนให้เข้ามารู้จัก
State Tower
ภัตตาคารหมุนบนยอดโดม คือคอนเซ็ปต์เดิมที่ติดมาจากโบรชัวร์ของโครงการ "สีลม
พรีเชียส ทาวเวอร์" เมื่อประมาณ 14 ปีก่อน เป็นแนวคิดที่แสดงถึงความหรูเริด
สุดยอดแล้วในสมัยนั้น เพราะหมายถึงภัตตาคารหมุนซึ่งสูงที่สุดในเมืองไทย
แต่วันปิดยอดหลังคาโดม ในปี 2542 แนวคิดของผู้บริหารกลุ่มใหม่ก็เปลี่ยนไป
ภาพของพื้นที่กลางแจ้งกลางถนนสีลมที่มีความสูงจากพื้นดินถึง 247 เมตร น่าจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าภัตตาคารหมุนเพียงร้านเดียว
The Dome ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Rare Simple Elegance" ก็เลยเกิดขึ้น โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดประมาณ
3,000 ตารางเมตร กินบริเวณพื้นที่ 3 ชั้น เริ่มที่ชั้น 63 เป็น "Sirocco"
ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และ Sky Bar ซึ่งเปิดบริการไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ในเดือนมีนาคม 2547 เตรียมเปิดบริการในชั้นที่ 64 ด้วยบาร์ต่างๆ เช่น วอดการ์
บาร์, วิสกี้ บาร์, ไวน์ บาร์ แชมเปญ บาร์ ส่วนร้านอาหารอิตาเลียนบนชั้น
65 จะเปิดตัวในเดือนเมษายน
และส่วนสำคัญที่สุดคือห้องจัดเลี้ยงใต้โดม ที่กรุกระจกใสเป็นจอพานอรามาขนาดใหญ่
เปิดให้เห็นมุมมอง 360 องศา หากจัดงานในเวลากลางวัน ภายใต้ท้องฟ้าที่แจ่มใสแขกสามารถมองเห็นแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ของเมืองไทย
ที่คดเคี้ยวไปมาอยู่เบื้องล่าง หากเป็นกลางคืนแสงไฟที่พริบพราวอยู่ทั่วฟ้ากรุงเทพฯ
คือความตื่นตาที่น่ามองเมื่อจัดเป็นซิตดาวน์ดินเนอร์ รองรับแขกได้ประมาณ
200 คน จัดค็อกเทลจุคนได้ประมาณ 300-400 คน
ห้องจัดเลี้ยงที่ไม่ใหญ่มากนัก สะท้อนความคิดของเจ้าของโครงการที่จะเน้นลูกค้ากลุ่ม
executive ที่ต้องการpositioning ตัวเองให้อยู่ในที่ที่ดีที่สุด
ว่ากันว่าห้องจัดเลี้ยงใต้โดมของ State Tower นั้น เป็นที่สนใจของบริษัทออกาไนเซอร์
และเจ้าของสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ ที่กำลังหาสถานที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครในกรุงเทพฯ
ทำการเปิดตัวสินค้า
ไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่มีงานเลี้ยงในวาระต่างๆมากมาย และยังชอบแสวงหาบรรยากาศใหม่ๆ
ในงานเลี้ยง เป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใครในโลก ทำให้รัฐวดีมั่นใจว่า แนวความคิดของ
The Dome น่าจะมาถูกทาง เธอบอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า
"บอกตัวเองตลอดว่าทำร้านอาหาร คนไทยต้องเป็นลูกค้าหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่มาแน่นอนกว่า
และคนไทยกลุ่มนี้จะไปดึงเพื่อนฝูงชาวต่างประเทศเข้ามาเอง สำหรับความคาดหวังลึกๆ
ก็คือ เมื่อชาวต่างประเทศมาเที่ยวกรุงเทพฯ ไปเที่ยววัดพระแก้ว ชมพระราชวัง
แล้วจะต้องมาทานอาหารที่เดอะโดม"