ATC-TPC จูงมือโชว์ผลกำไรงวดปี 46 เติบโตขึ้น 2,000% และ 7.34% ตามลำดับ เนื่องจากราคาพีวีซีและสารอะโรเมติกส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
รวมทั้งบริษัทได้มีการรีไฟแนนซ์หนี้เดิม ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลง ด้านATC งดจ่ายเงินปันผล
เพราะยังขาดทุนสะสมอยู่
นายไพบูลย์ ปัญญวุฒิ กรรม การผู้จัดการใหญ่ บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
(มหาชน) (ATC) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2546 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 4,004 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 20 เท่า จากช่วงเดียว กันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 207 ล้าน บาท และมี
EBITDA จำนวน 5,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ที่มี EBITDA 1,744 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น
3,717 ล้านบาทหรือคิดเป็น 213%
โดยปี 2546 มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 12,654 ล้าน บาท เป็นผลจากราคาเฉลี่ยผลิต
ภัณฑ์ที่ปรับสูงขึ้นจาก 280 เหรียญ สหรัฐต่อตันในปี 2545 เป็น 353 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี
2546 หรือขยายตัว 26% และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจาก 1.83 ล้านตัน ในปี 2545 เป็น
2.36 ล้านตันในปี 2546 เนื่องจากมีปริมาณกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากการ Debottlenecking
ระยะที่ 1 เต็มปี แต่ปี 2545 ผลิตด้วยกำลังการผลิตใหม่เพียง 7 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน
2545 และยังมีการหยุดเดิน เครื่องจักรเพื่อเชื่อมต่อกำลังการผลิตใหม่เป็นเวลา 45
วัน
ส่วนต้นทุนวัตถุดิบ ปี 2546 บริษัทฯ มีต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจากปี 2545 จำนวน
8,588 ล้านบาท ตามปริมาณขายและราคาเฉลี่ยวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้น ในสัดส่วนที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาเฉลี่ยผลิตภัณฑ์
โดยราคาเฉลี่ยวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจาก 219 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2545 เป็น 258 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ในปี 2546 หรือเพิ่มขึ้น 18% การเพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจาก
61 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2545 เป็น 95 เหรียญ สหรัฐต่อตันในปี 2546
ด้านดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 336 ล้านบาท เป็นผลจากยอดเงินต้นที่ลดลงจากการชำระคืน
และอัตราดอก เบี้ยที่ลดลงจากการ Refinance เงินกู้เดิมด้วยการออกหุ้นกู้
แม้ว่าบริษัทฯจะมีกำไรเติบโตสูงมาก แต่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้งดจ่ายเงินปันผล
เนื่องจากบริษัทมียอดขาดทุนสะสมอยู่ โดยปัจจุบันจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2547
บริษัทฯอยู่ระหว่างการแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบถึงการลดทุนชำระ และคาดว่าจะจดทะเบียนการลดทุนและบันทึกการล้างขาดทุนสะสมอีกจำนวน
8,622 ล้านบาทได้ในต้นเดือนมีนาคม 2547
นายเทพ วงษ์วานิช กรรม การผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติก และเคมีภัณฑ จำกัด (มหาชน)
(TPC) เปิด เผยผลการดำเนิน งานงวดปี 2546 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,306.50
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.34% เมื่อ เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,217.08
ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 14.93 บาท ดีขึ้นกว่า ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น
13.91 บาท
ทั้งนี้ เนื่อง จากสถานการณ์พีวีซี ในช่วงปี 2546 ปรับราคาขยับขึ้นโดยตลอด หลังจากการปรับตัวลดลงในช่วงการระบาดของโรคทางเดิน
หายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) และสงครามอิรักในช่วงไตรมาส 2 ประกอบ กับวีซีเอ็ม
ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักเกิดขาดแคลนในช่วงปลายปี ทำให้ราคาพีวีซีดีดตัวปรับขึ้นสูงกว่าปีก่อน
บริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและจากการให้บริการรวมทั้งสิ้น 18,063
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13% และมีต้นทุนขายทั้งสิ้น 15,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
15% ตามปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและการปรับขึ้นของราคาวัตถุดิบ โดยรายได้จากการขายในปี
2546 มาจากการขายของธุรกิจพีวีซี กับธุรกิจท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป คิดเป็นสัดส่วน
90% และ 18% ของรายได้รวม ตามลำดับ
ส่วนรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 55% อยู่ที่ 216 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ มาจากเงินปันผลรับ
การขายสินทรัพย์ และการได้รับคืนภาษีมูลค่าของบริษัทย่อยในต่างประเทศ ขณะที่รายจ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น
8% เนื่องจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง
27% เพราะปี 2546 ได้มีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวบางส่วน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ลดลง
ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง
ดังนั้น บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล โดยพิจารณาจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรในแต่ละปี
ซึ่งมีนโยบายการจ่ายอยู่ที่ร้อยละ 30-40 ของกำไรสะสมดังกล่าว สำหรับผลการดำเนินงานปี
2545 บริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินปันผลจำนวน 7.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็น 41% ของกำไรสะสม
ส่วนในปี 2546 บริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ ผู้ถือหุ้น เป็นจำนวน
3 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็น 17% ของกำไรสะสม