หุ้นเทิร์นโอเวอร์เกิน 40% ร่วงระนาว หลังเจอข่าวร้าย ก.ล.ต.เล็งห้ามเล่นเน็ตเซตเทิลเมนต์
และมาร์จิ้น งานนี้ SAMTEL โดนหนักสุด สัปดาห์เดียวหุ้นทรุดเฉียด 14% ด้านโบรกเกอร์ชี้นักลงทุนแห่ทิ้งหุ้น
หวั่นถูกจับตาจากทางการ อย่างไรก็ตาม อย่าใช้เป็นหลักในการพิจารณา เหตุหุ้นบางตัวเทิร์นโอเวอร์
สูงแต่ก็ไม่ได้เกิดจากการปั่น
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อน ไหวราคาหุ้น 6 บริษัทที่อยู่ในข่ายมี เทิร์นโอเวอร์สูงกว่า
40% และมี P/E เกิน 100 เท่า หรือมีผลการดำเนินงานขาดทุน หรือกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ
(รีแฮบโก) ที่ผลการหารือร่วมกันระหว่างสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เบื้องต้นจะห้ามลูกค้าซื้อขายหุ้นดังกล่าวในระบบการยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
(มาร์จิ้น) และการซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้ (เน็ตเซตเทิลเมนต์) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่
1 มี.ค. 2547 เป็นต้นไป
ปรากฏว่าราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง เมื่อเทียบกับเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน
โดยหุ้นของบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) (NWR) ปิดตลาดวานนี้ (19 ก.พ.)
ที่ระดับ 10.80 บาท ปรับตัวลดลง 12.9% จากวันที่ 13 ก.พ. ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 12.40
บาท บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (GRAND) ปิดตลาดที่ระดับ
3.92 บาท ปรับตัวลดลง 10.90% จากวันที่ 13 ก.พ. ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.40 บาท บริษัทบริหารและพัฒนาเพื่อการ
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) (GENCO) ปิดตลาดที่ระดับ 2.02 บาท ปรับตัวลดลง
10.61% จากวันที่ 13 ก.พ. ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.26 บาท
บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) (SAMTEL) ปิดตลาดที่ระดับ 28.50 บาท ปรับตัวลดลง
13.63% จากวันที่ 13 ก.พ. ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 33 บาท บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอ-เรชั่น
จำกัด (มหาชน) (TA) ปิดตลาดที่ระดับ 8.90 บาท ปรับตัวลดลง 8.71% จากวันที่ 13 ก.พ.
ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 9.75 บาท บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) (TNITY) ปิดตลาดที่ระดับ
33.25 บาท ปรับตัวลดลง 13.07% จากวันที่ 13 ก.พ. ที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 38.25 บาท
(ตามตาราง)
นายทรงศักดิ์ โชคอุดมมั่น กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ไซรัส
จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการการห้ามให้มาร์จิ้นและเน็ตเซตเทิลเมนต์ในหุ้นที่มี Turnover
List มากกว่า 40% และค่าพี/อี เรโชสูงเกิน 100 เท่านั้น ในส่วนของลูกค้าของบริษัทได้รับผลกระทบเช่นกันแต่ไม่มากนัก
เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าใหม่ที่มาเปิดพอร์ตจะลงทุนแต่ในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีการจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ หุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์สูงที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ประกาศออกมานั้น
ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการลงทุนในเบื้องต้นได้เท่านั้น เพราะบางหุ้นบางตัวแม้มีเทิร์นโอเวอร์สูงแต่ก็ไม่ได้เกิดจากการปั่นหรือสร้างราคาหุ้น
แต่เป็นเพราะปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น ทำให้เกิดการเข้ามาเก็งกำไรกันมากขึ้น เช่น
หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ในปีนี้ไม่มีภาระการตั้งสำรอง ทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น
ด้านแหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีกระแสข่าวว่าจะมีมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรในหุ้นที่มีเทิร์นโอเวอร์สูงนั้น
ทำให้หุ้นหลายบริษัทราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าหุ้นดังกล่าวกำลังถูกจับตามอง
ซึ่งนักลงทุนไม่ควรที่จะเข้าไปเก็งกำไรในช่วงนี้เพราะสภาพตลาดหุ้นที่ไม่เอื้ออำนวย
ประกอบกับปัจจัยไข้หวัดนกที่แพร่ระบาดก็ยังไม่สามารถ ควบคุมได้อย่างแน่นอน จึงยังเป็นปัจจัยที่มีความ
เสี่ยงต่อการลงทุนอยู่
หุ้น NWR มีเทิร์นโอเวอร์ 379.03% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน GRAND มีเทิร์น
โอเวอร์ 195.02% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน GENCO มีเทิร์นโอเวอร์ลิสต์ 124.75%
และมีผลการดำเนินงานขาดทุน SAMTEL มีเทิร์น โอเวอร์ 79.94% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน
TA มีเทิร์นโอเวอร์ 55.42% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน ส่วน TNITY มีเทิร์นโอเวอร์
40.62% และมีค่า P/E 106.39 เท่า ซึ่งอยู่ในรายชื่อเทิร์นโอเวอร์ลิสต์ของสัปดาห์สิ้นสุด
12 ก.พ. 2547