BTแนะแบงก์เร่งพัฒนา-เพิมขนาดรองรับการแข่งขันหลังเปิดเสรีทางการเงิน


ผู้จัดการรายวัน(11 กุมภาพันธ์ 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

"อนุสรณ์ ธรรมใจ" ผอ.สำนักวิจัยฯ ไทยธนาคาร แนะธนาคารพาณิชย์ไทย เร่งพัฒนาและ เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการ แข่งขันหลังจากทางการมีนโยบายเปิดเสรีทางการเงิน พร้อมให้ความมั่นใจระยะยาวจะส่งผลดีต่อระบบสถาบันการเงิน แต่ควรจะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยมีการเตรียมพร้อมและปรับตัวรับการแข่งขัน

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยธนาคารไทยธนาคาร เปิดเผยผลการประเมินทิศทางของธนาคารพาณิชย์ ภายใต้กรอบการเปิดเสรีระดับทวิภาคีว่า การ เปิดเสรีระดับทวิภาคีเป็นนโยบายระยะยาวของรัฐบาลที่ควรจะดำเนิน การอย่างรอบคอบเป็นระบบและเป็น ขั้นตอน โดยเฉพาะการเจรจาทำข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีความซับซ้อนสูงเมื่อเทียบกับการทำข้อตกลงกับประเทศอื่น

"การเจรจาทำข้อตกลงควรใช้รูปแบบของ Positive Lists ซึ่งง่ายและชัดเจน รวมทั้งมีผลกระทบนอกเหนือการคาดการณ์น้อยกว่าการ เจรจาแบบ Negative Lists หากประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการเปิดเจรจาทำข้อตกลงเปิดเสรีระดับทวิภาคีจะก่อให้เกิดผลเสียตามมาโดยเฉพาะในระยะสั้น"

สำหรับการเปิดเสรีระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ สำนักวิจัยฯคาดว่า ไทยจะมีความเสียเปรียบในการเจรจา ระดับทวิภาคีกับประเทศสหรัฐฯ อย่างมาก เนื่องจากสหรัฐอเมริกามีอำนาจในการต่อรองสูง มีเป้าหมายใน การเจรจาอย่างชัดเจน ทำให้มีความได้เปรียบในการเจรจา ขณะที่ไทยยังไม่พร้อมในการเจรจา ประกอบกับประเทศไทยยังขาดนักเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดทำเขตการค้าเสรี ทำให้ประเทศไทยตกเป็นรองในการเจรจา

ขณะเดียวกัน ไทยยังขาดนักกฎหมายระหว่างประเทศที่มีความรู้ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการเจรจา เพราะว่าข้อตกลงต่างๆ จะมีลักษณะ เป็นกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อความ ต่างๆ จะมีผลผูกมัดตลอดไป ขณะที่ภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกามีความ ได้เปรียบ มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านการดำเนินธุรกิจและการเงินสูง

อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีทาง การเงิน ในระยะยาวจะเกิดผลดีต่อการพัฒนาระบบสถาบันการเงินทั้งทางด้านระบบการบริหารและบุคลากร ให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามมาตรฐาน สากล ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโน-โลยี ขณะการแข่งขันของภาคการเงินการธนาคารที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและมีความสะดวกในการใช้บริการมากขึ้น

ดร.อนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดเสรีทางการเงินของไทยไม่ควร เร่งรีบมากเกินไปเพื่อให้อุตสาหกรรม ธนาคารของไทยได้เตรียมความพร้อม และปรับตัวสำหรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินธุรกิจให้มีความประหยัดต่อขนาดของสถาบันการเงิน

"ความพร้อมของสถาบันการเงินไทยจะส่งผลให้การเปิดเสรีทาง การเงินมีผลดีมากกว่าผลเสีย และจะ ช่วยพัฒนาให้ระบบการเงินของประเทศมีความเข้มแข็งและโปร่งใส ดังนั้น สถาบันการเงินต้องเร่งปรับตัวให้มีประสิทธิภาพเพื่อแข่งขันได้"

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ไทยแต่ละแห่งต้องเร่งปรับตัวให้มีขนาดใหญ่และมีความคล่องตัวขึ้น ตลอดจนมีจุดยืนเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะทวีความรุนแรงขึ้นและเพื่อสามารถ แข่งขันกับธนาคารต่างชาติได้ เนื่อง จากการที่ไทยเตรียมเปิดเสรีทางการเงินการธนาคาร โดยอนุญาตให้ต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจธนาคารได้ทุกประเภท เช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ไทย จะทำให้ธนาคารต่างชาติขยายการให้บริการอย่างหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็น ในการอนุญาตให้ธนาคารต่างชาติเข้าถือหุ้นร่วมกับธนาคารพาณิชย์ไทยโดยไม่จำกัดสัดส่วน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและแข่งขันกับธนาคาร ต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในไทยได้ด้วย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.