กบข.ลงหุ้นเพิ่ม-ไร้ใบสั่งรัฐ


ผู้จัดการรายวัน(6 กุมภาพันธ์ 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

กบข.เพิ่มน้ำหนักพอร์ตลงทุนตลาดหุ้นไทยปีนี้จาก 15% เป็น 17-18% หรือประมาณ 4 พันล้านบาท ของพอร์ตรวมเกือบ 2.4 แสนล้านบาท เน้นหุ้นแบงก์ วัสดุก่อสร้าง ไอที สื่อสาร พลังงาน ขนส่ง แถมสนหุ้นรัฐวิสาหกิจ หลังโกยกำไรจากตลาดหุ้นปีที่แล้วถึง 130% ชี้ภาวะตลาดฯ ยังสดใส ดัชนียังขึ้นได้อีก 30-40% เศรษฐกิจไทยยังโตต่อเนื่อง "วิสิฐ" ยันไม่มีใบสั่งจากรัฐบาลให้พยุงหุ้น การตัดสินใจลงทุนของกบข.ขึ้นกับมติบอร์ดที่มุ่งสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้สมาชิก

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงนโยบายการลงทุนของกบข. ว่า ในปี 2547 นี้ กบข.จะเพิ่มสัดส่วนลงทุนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็น 17-18% จากมูลค่าเงินลงทุนสิ้นปี 2546 ที่ 2.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น 15% หรือคิดเป็นวงเงินรวม 4,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยปีนี้ ยังมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปลายปี 2546 เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีอัตราการ ขยายตัวที่ดี แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับปัจจัยลบเกี่ยวกับไข้หวัดนกในไก่เข้ามากระทบบ้าง แต่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น

"ในปี 2546 กบข. มีกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 130% ซึ่งสูงกว่าการปรับตัวขึ้น ของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปรับตัวขึ้นในอัตรา 116% ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะได้รับผล ตอบแทนลดเหลือประมาณ 30% เนื่องจากปีที่แล้วดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเกิน 100% เพราะราคาหุ้น ต้นปีต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็นมาก แต่ปีนี้ โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนมากเช่นปีก่อน ค่อนข้างยาก"

นายวิสิฐ คาดการณ์ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ยังมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 30-40% จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนสถาบันซื้อหุ้น โดยช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาวะตลาดหุ้นปรับตัว ลดลงมามาก เพราะได้รับผลกระทบจากข่าวระบาดโรคไข้หวัดนก กบข.จึงทยอยซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ต

สำหรับหุ้นที่กบข.ลงทุนจะเป็นหุ้นที่สัดส่วน ราคาหุ้นต่อกำไร (พีอี) ประมาณ 12-13 เท่า ในกลุ่มธุรกิจสถาบันการเงิน วัสดุก่อสร้าง เทคโนโลยี สื่อสาร พลังงานและขนส่ง รวมทั้งยังสนใจ จะลงทุนหุ้นรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาหุ้นเพิ่ม ขึ้นช่วงนี้ กบข.ก็เริ่มชะลอการลงทุน

"การเข้าลงทุนของกบข. ในตลาดหุ้นนั้น ขอ ยืนยันได้ว่าไม่มีการขอ หรือคำสั่งจากรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งการตัดสินใจลงทุนของ กบข. นั้น จะขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการ ซึ่งผู้ที่เป็นกรรม การ 25 คน ก็เป็นตัวแทนจากสมาชิก ที่มุ่งสร้าง ผลประโยชน์ให้เกิดสูงสุด" นายวิสิฐกล่าว

สำหรับพอร์ตการลงทุนของกบข.นั้น จะแบ่ง สัดส่วน ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ประมาณ 75-78% ที่เหลือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ยังมีแผนจะนำเงินลงทุนต่างประเทศปีนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยจะลงทุนครั้งแรก 8,000 ล้านบาท ในพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก

รวมถึงสนใจจะลงทุนพันธบัตรเอเชีย (เอเชียบอนด์) ที่ริเริ่มโดยนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กบข. แต่งตั้งผู้บริหารกองทุน 3 กอง ตั้งเป้าผลตอบแทนดีกว่าลงทุนตราสารหนี้ใน ประเทศ ประมาณ 0.5-1%

ปี 2546 กบข.ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศประมาณ 2% ผลดำเนินงานปี 2546 กบข. บริหารเงินลงทุนได้ผลตอบแทนการลงทุนสำหรับบัญชีสมาชิก 21,696.16 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทนการลงทุนจัดสรรให้สมาชิก 11.84% เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ที่อยู่ที่ 8.21% สินทรัพย์สุทธิตามมูลค่ายุติธรรม ณ 31 ธ.ค. 2546 จำนวน 238,393.03 ล้านบาท

ส่วนในปีนี้ กบข. คาดว่าจะได้รับผลตอบ แทนจากการลงทุนตราสารหนี้เพิ่มเป็น 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนสมาชิก 5-6% ซึ่งเป็นอัตราที่ กบข. กำหนดไว้ทุกปี เพื่อให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจไทย ที่ไม่น่ามีปัจจัยลบกระทบอีกปีนี้

นายวิสิฐกล่าวว่า แผนการลงทุนปี 2547 เปิดให้สมาชิกออมเงินเพิ่มได้มากขึ้นกว่าปัจจุบัน ที่อยู่ระดับ 3% โดยเฉพาะช่วงดอกเบี้ยเงินฝากต่ำเช่นปัจจุบัน รวมถึงข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว สามารถจะลงทุนกับ กบข.ต่อได้ ขณะนี้ กำลังขออนุญาตทางการ โดยนโยบายการลงทุนของกบข.จะเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนในระยะ ยาวเท่านั้น เป็นลักษณะนักลงทุน (Financial Investor) ไม่ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือบริหาร บริษัทแต่อย่างใด

บริษัทที่ลงทุน ถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ จะถือหุ้น 5% ของทุน ชำระแล้วของแต่ละบริษัท แต่ถ้าเป็นบริษัททั่วไป จะถือหุ้นไม่เกิน 25% ขณะนี้ ธุรกิจประเภทเดียวที่ กบข.จะเป็นผู้บริหารคือบริษัทหลักทรัพย์จัดการ กองทุนรวม (บลจ.) เนื่องจากจะส่งเสริมผลิตภัณฑ์ออมเงิน เพื่อเป็นทางเลือกสมาชิก

นอกจากนี้ กบข.ลงทุนธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ บริษัท การบินไทย 10% มูลค่า 50 ล้านบาท เพราะนายวิสิฐมองว่าเป็นธุรกิจแนวโน้มดี คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ประมาณ 12-15%



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.