สงครามคลื่นวิทยุเตรียมระอุอีกรอบ จับตาเดือนมีนาคมหลายคลื่นหมดสัมปทาน ขาใหญ่ไล่กวาดคลื่นวิทยุเข้าสังกัด
ชี้ปีนี้สัมปทานสลับมือกันวุ่น ยื่นค่าตอบแทนสุดเวอร์ถึงระดับ 5-6 ล้านบาท กลับสู่ยุคเฟื่องฟูก่อนฟองสบู่แตกอีกครั้ง
กลุ่มที่หลุดคลื่นอ.ส.ม.ท.วิ่งประมูลเพื่อหาคลื่นใหม่ทดแทน
แหล่งข่าวจากวงการวิทยุ กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้วงการวิทยุจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
โดยเฉพาะการแย่งชิงสัมปทานคลื่นวิทยุ หลังจากที่ช่วงปลายปีและต้นปีนี้มีหลายค่ายที่คลื่นหลุดมือไปแล้ว
เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกนี้เท่าที่ทราบจะเป็นช่วงที่หลายคลื่นวิทยุของหลายบริษัทจะครบสัญญาสัมปทานจากเจ้าของคลื่นต่างๆ
ทำให้จะมีการเปลี่ยนผู้รับสัมปทานมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงนโยบายการดำเนินธุรกิจวิทยุขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
(อ.ส.ม.ท.) ที่ต้องการจะนำคลื่นวิทยุทั้งหมดที่ให้สัมปทานแบบทั้งคลื่นกับเอกชนนั้น
กลับมาบริหารจัดการเองทั้งหมด จะยิ่งกลายเป็นการจุดชนวนกระตุ้นให้เอกชนโดยเฉพาะผู้ที่รับสัมปทานอยู่กับอ.ส.ม.ท.
ต้องรีบวิ่งหาคลื่นใหม่ๆ เข้ามารองรับ
อีกทั้งเอกชนที่ทำคลื่นอื่นที่ไม่ใช่อ.ส.ม.ท.ก็ต้องเร่งรีบปรับตัวเพื่อรองรับกับการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้น
และพยายามรักษาสัมปทานนั้นต่อให้ได้ด้วยการปรับกลยุทธ์รูปแบบการนำเสนอของคลื่นใหม่ให้มีความสดใส
ทันสมัย ซึ่งหลายค่ายมีการเคลื่อนไหวอย่างมาก ค่ายบีเอ็นทีซึ่งขณะนี้มีเพียงคลื่นเดียว
คือ 98 เพราะสูญเสียคลื่น 94.5 ให้กับค่ายจีเอ็มเอ็มมีเดีย และคลื่น 103 สูญเสียให้กับมีเดีย
ออฟ มีเดียส์ ก็ประกาศกร้าวว่าจะต้องหาคลื่นเข้ามาบริหารเพิ่มอีก 4 คลื่นให้ได้
ส่วนค่ายจีเอ็มเอ็มมีเดียของนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานใหญ่ ก็กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะได้คลื่นใหม่เข้ามาอีก
1 คลื่น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การแข่งขันยื่นข้อเสนอวงเงินตอบแทนให้กับเจ้าของสัมปทานคลื่นวิทยุหน่วยงานต่างๆ
ในวงเงินที่สูงขึ้น เหมือนกลับคืนไปสู่ยุคที่รุ่งเรืองเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา มีการเสนอผลประโยชน์ประมูลตอบแทนให้กับเจ้าของคลื่นมากกว่า
5-6 ล้านบาทต่อคลื่นมาแล้วต่อเดือน คาดว่าปีนี้ตัวเลขการตอบแทนอัตราดังกล่าวจะเกิดระบาดในวงการ
เพราะกลุ่มทุนเอกชนหวังที่จะได้ยึดครองวิทยุให้มากที่สุด จากช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้วงเงินตอบแทนค่าสัมปทานอยู่ต่ำประมาณ
1.5-3 ล้านบาทเท่านั้นเอง เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี กลุ่มทุนจึงไม่กล้าเสี่ยงจ่ายค่าสัมปทานแพง
กรณีสัมปทานของอ.ส.ม.ท.เป็นตัวอย่างได้ดีเช่นคลื่น เอฟ.เอ็ม. 95 โดยบริษัทลูกทุ่ง
เอฟเอ็ม จำกัด และ 96.5 โดยบริษัท ฟาติมา บรอดคาสติ้ง จำกัด จะจ่ายค่าเช่าเดือนละประมาณ
2 ล้านบาทให้กับอ.ส.ม.ท. ส่วนคลื่นเอฟ.เอ็ม. 99 โดยบริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย
จำกัด จ่ายประมาณเดือนละ 2.3 ล้านบาท ซึ่งทั้งสามรายนี้เพิ่งหมดสัมปทานกับอ.ส.ม.ท.เมื่อสิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง
ทำให้ต้องพยายามเข้าประมูลชิงคลื่นวิทยุจากรายเก่าให้ได้เพื่อทดแทนคลื่นที่หลุดไป
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารของ ค่ายอาร์.เอส.โปรโมชั่น ซึ่งมี สกายไฮ เน็ทเวิร์ค บริษัทที่ทำธุรกิจวิทยุและเป็นค่ายหนึ่งที่คลื่น 98 หลุดมือไปให้กับค่ายบีเอ็นทีเมื่อเร็วๆ
นี้ กล่าวให้ความเห็นว่า ขณะนี้วงการวิทยุมีการเสนอจ่ายค่าสัมปทานกันสูงจริง ซึ่งบริษัทพิจารณาแล้ว
หากต้องแข่งขันกันรุนแรงขนาดนั้น คลื่นที่หมดสัมปทานของบริษัทเมื่อมีคู่แข่งเสนอเข้ามาสูงเกินความเหมาะสม
บริษัทก็ไม่ต้องการจะแข่งประมูลด้วย เพราะว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
สาเหตุที่กล้าเสนอเงินกันมากนั้น เนื่องจากคนในวงการวิทยุคาดว่าปีนี้มูลค่าโฆษณาสื่อวิทยุจะเติบโต
10% เพิ่มจากปีที่แล้วที่มี 6,600 ล้านบาท ซึ่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ที่มี 6,100
ล้านบาท ประมาณ 7%
เหตุผลอีกประการมาจากค่ายเวอร์จิ้นเรคคอร์ดที่โตเร็วมากในช่วง1 ปีที่ผ่านมา สามารถก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้ในเวลาอันสั้นทั้งทางด้านกลุ่มฐานผู้ฟัง
ปัจจุบันเวอร์จิ้นมีฐานผู้ฟังประมาณ 1.5 ล้านคน ทำรายได้จากโฆษณาถึง 270 กว่าล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว
ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้เห็นได้ชัดกับค่ายของจีเอ็มเอ็มมีเดียถึงกับต้องผวามาแล้ว
ล่าสุด จีเอ็มเอ็มฯได้ ปรับคอนเซ็ปท์ 2 คลื่นคือ เรดิโอ โนพร็อบเบล็ม 88 เป็นคลื่นพีคเอฟเอ็ม
เป็นคลื่นที่นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ที่แปลกๆ และถือเป็นที่สุดในทุกเรื่องราว รวมทั้งมีเพลงด้วย
ส่วนคลื่นเรดิโอโหวตแซตเทิลไลค์ 93.5 เป็นคลื่น อีเอฟเอ็ม ที่เน้นความสนุกสนามเต็มรูปแบบเพื่อรับมือกับเวอร์จิ้นฯโดยเฉพาะ
ล่าสุดนายเชษฐ มังคโลดม กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ
เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ ได้เตรียมงบประมาณถึง 200 ล้านบาท
จัดกิจกรรมมากมายทั้งประจำเดือนและประจำปี ล่าสุดเปิดตัวโครงการเวอร์จิ้น วีไอพี
การ์ด เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก เช่น ส่วนลดร้าน ค้า ร้านอาหาร ซื้อบัตรแสดงคอนเสิร์ตหรือโชว์ต่างๆ
โดยทำเป็นการ์ดชื่อว่า I"M A VIRGIN จำนวน 100,000 ใบในช่วงแรกที่สนับสนุนโดยเป๊ปซี่
พร้อมกับปรับโฉมรถเวอร์จิ้น เรด รันเนอร์ 3 คันใหม่ด้วยคาดเผยโฉมเดือนกุมภาพันธ์นี้
ตั้งเป้าเพิ่มฐานผู้ฟังอีก 5%