ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในเครือซิเมนต์ไทยทุ่มเงิน 1,000 ล้านในปีนี้ เพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิก
และหลังคาคอนกรีต รองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ "สยามอุตสาหกรรมวัสดุทนไฟ"
เร่งเดินผลิตตั้งเป้าปีหน้าผลิตวัสดุทนไฟได้เต็มที่ 1.5 แสนตัน ก่อนดูลู่ทางตั้งโรงงานใหม่
โดย พุ่งเป้าไปยังเวียดนาม ชี้เป็นตลาดที่มีศักยภาพ และอยู่ไม่ไกลจีนที่ เป็นแหล่งวัตถุดิบ
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทผลิต ภัณฑ์ก่อสร้างซิเมนต์ไทย
จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในเครือซิเมนต์ไทยจะขยายการลงทุนเพื่อ
รองรับการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทย คาดว่าจะใช้เงิน ประมาณ 800-1,000
ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้อง ปูพื้นเซรามิก และหลังคาคอนกรีต
เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการการขยายกำลังการผลิตกระเบื้องปูพื้นเซรามิก ของบริษัทเดอะโสสุโก้
กรุ๊ปฯในเครือซิเมนต์ไทย จะมีกำลังการผลิต เพิ่ม 5.4 ล้านตารางเมตรต่อปี จากกำลังการผลิตปัจจุบัน
14.5 ล้านตารางเมตรต่อปี ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการ เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม
2548
ส่งผลให้กำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิกทั้งหมดของเครือซิเมนต์ไทยเพิ่มขึ้นเป็น
75 ล้านตารางเมตรต่อปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทเซรามิคอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระเบื้องปูพื้นและปูผนังในเครือปูนใหญ่
ที่มีกำลังการผลิตอยู่ 37 ล้านตารางเมตร ส่งออกไปต่างประเทศถึง 20 ล้านตารางเมตร
และปีนี้จะส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านตารางเมตร
นายขจรเดช กล่าวถึงผลกระทบต่อกรณีค่าระวางเรือขนส่งสินค้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นว่า
ขณะนี้ค่าระวางเรือได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ
5% แต่มองว่าเป็นการปรับขึ้นทั่วโลก ซึ่งทุกบริษัทฯได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันหมด
คาดว่าทั้งปี กลุ่มเซรามิกจะมียอดขายประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
20%
ส่วนโครงการขยายกำลังการผลิตหลังคาคอนกรีต จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% ทั้ง 2
โรงงานทั้งที่ลำพูน และทุ่งสง ใช้เงินลงทุนโรงละ 150 ล้านบาท ทำให้มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น
12 ล้านตารางเมตรต่อปี
การขยายกำลังการผลิตดังกล่าวเพื่อรองรับ ดีมานด์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยคาดว่าปีนี้ตลาดบ้านจะยังขยายตัวอยู่โดยเฉพาะ ตลาดระดับกลาง จะโตเพิ่มขึ้น 10-15%
เล็งตั้งโรงงานใหม่ในเวียดนาม
นายสมยศ ตั้งมีลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอุตสาหกรรมวัสดุทนไฟ จำกัด ในเครือปูนใหญ่
กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาการ ตั้งโรงงานผลิตวัสดุทนไฟเพิ่มอีกแห่ง ซึ่งมองไว้
2 ทาง คือลงทุนในไทย หรือต่างประเทศ เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ
คาดว่า จะตัดสินใจอย่างช้าภายในปีหน้า หลังจากโรงงาน เดิมเดินเครื่องผลิตเต็มที่
1.5 แสนตันต่อปี
"หากตัดสินใจลงทุนในต่างประเทศก็คงต้องหาพาร์ตเนอร์ท้องถิ่น โดยความเห็นส่วนตัวมองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และเศรษฐกิจมีการเติบโตมาก รวมทั้งอยู่ใกล้จีน ซึ่งร่นระยะเวลาการนำเข้าวัตถุดิบ
โดยโรงงานแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิต 1 แสนตัน ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท ส่วนที่ไม่ตัดสินใจเลือกจีน
เพราะขณะนี้มีบริษัทยุโรปหลายรายย้ายฐานไปจีนเกือบ ทุกบริษัทแล้ว"
ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะเดินเครื่อง จักรอยู่ที่ 80% ของกำลังการผลิต เนื่องจากตลาด
ก่อสร้างเติบโตขึ้น ทำให้การใช้ปูนซีเมนต์ เซรามิก และเหล็กเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งวัสดุทนไฟถือเป็นสินค้าที่เข้าไปใช้ในกระบวนการเผาปูนซีเมนต์ เซรามิกและเหล็ก
เป็นต้น คาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8-10%
นายสมยศ กล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นวิกฤต เศรษฐกิจ เรามีนโยบายต้องการให้โรงงานเดินเครื่องเต็มที่
ก่อนขยายการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งอาจ จะลงทุน Debottleneck ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก
1 หมื่นตันต่อปี นอกจากนี้จะมีการลง ทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ เพื่อพัฒนาสินค้าให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
ปัจจุบัน บริษัทส่งออกวัสดุทนไฟไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย ญี่ปุ่น
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แอฟริกา สหรัฐฯ อินเดีย เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของกำลังการผลิต
ที่เหลือจะเน้นขายในประเทศเป็นหลัก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 60% ของความต้องการใช้ในประเทศประมาณ
1.4 แสนตันต่อปี ซึ่งมีคู่แข่งเป็น สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
บริษัท สยามอุตสาหกรรมวัสดุทนไฟ มีกำลังการผลิต 1.5 แสนตันต่อปี ถือเป็นบริษัทที่มี
กำลังการผลิตวัสดุทนไฟรายใหญ่ในเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ โดยโรงงานตั้งอยู่ที่สระบุรี
ปัจจุบันบริษัทฯได้รับรางวัล Deming Application Prize จากสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรแห่งประเทศญี่ปุ่น