SCCปันผลอีก3.50บาทกำไรงวดปี46สูง2หมื่นล.


ผู้จัดการรายวัน(29 มกราคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

SCC ใจป้ำจ่ายปันผลอีก 3.50 บาท จากที่ปันผล ระหว่างกาลแล้ว 2.50 บาท หลังโชว์กำไรงวดปี 46 สูงเฉียด 2 หมื่น ล้านบาท เตรียมออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ 10,000 ล้านบาท แทนชุดเดิมที่จะหมดอายุ 1 เมษายนนี้ เตรียมใช้เงินทุนประมาณ 3-4 พันล้าน บาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรที่เสื่อมสภาพ มั่นใจยอดขายปีนี้โต 10% พร้อมขยายกำลังผลิตกระเบื้องปูพื้นมูลค่า 448 ล้านบาท ยันไม่มีแผนซื้อกิจการใดๆ เพิ่ม เพราะเศรษฐกิจฟื้นมูลค่าธุรกิจปรับสูงขึ้น

นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูน ซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน บริษัทและบริษัทย่อยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติให้จ่ายปันผลเพิ่มอีก 3.50 บาท รวมกับที่จ่ายปันผลระหว่างกาลมาแล้ว จำนวน 2.50 บาท ทำให้เท่ากับปี 46 SCC ปันผลทั้งสิ้น 6 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ SCC คาดว่า จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 10% และมีกำไรโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยผลการดำเนินงาน เมื่อเทียบกับปี 2546 ที่มียอดขายรวมกว่า 140,000 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 16% มีกำไรก่อนหักรายการพิเศษ 17,000 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 60% และมีกำไร 19,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนไตรมาส 4 ปี 46 บริษัทและบริษัท ย่อย มียอดขายรวม 39,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% มีกำไรสุทธิ 5,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลดี จากการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นของทุกสายธุรกิจ ในเครือ

ปัจจัยที่สนับสนุนยอดขายให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น คือ แนวโน้มของราคาปิโตรเคมีที่คาดว่าจะเพิ่ม สูงขึ้นจากความต้องการของทั่วโลกที่มีมากขึ้น โดยมียอดขายรวมปี46 50,767 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากราคาปิโตรเคมีในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ เท่ากัน ขณะที่มองว่ารายได้จากธุรกิจซีเมนต์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายกว่า 30,552 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน และ SCC ยืนยันว่าในปีนี้ยังไม่มีแผนปรับเพิ่มราคา ปูนซีเมนต์แต่อย่างใด เพราะความต้องการใช้กับปริมาณการผลิตของตลาดในประเทศยังจะเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

ส่วนธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะทรงตัวซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และยังไม่มีปัจจัยบวกอื่นที่จะบอกว่าปีนี้ จะมีแนวโน้มดีขึ้น โดยธุรกิจนี้มียอดขายรวม 33,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายในประเทศสูงขึ้น

สำหรับการลงทุนเพิ่มนั้น ขณะนี้ยังไม่มีแผน ที่จะใช้เพิ่มลงทุนในโครงการใหม่ๆ แต่ SCC มีแผนที่ จะใช้เงินทุนประมาณ 3-4 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรที่เสื่อมสภาพในโรงงานแต่ละแห่ง และไม่มีแผนซื้อกิจการใดๆ เพิ่มเติมอีกเนื่องจากมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้มูลค่าของธุรกิจต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น

นายชุมพลกล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2547 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติโครงการขยายกำลังการผลิตกระเบื้องปูพื้นเซรามิกของบริษัทเดอะโสสุโก้ กรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด ซึ่งเครือซิเมนต์ไทยถือหุ้นร้อยละ 100 โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตส่วนเพิ่ม 5.4 ล้านตารางเมตรต่อปี จากกำลังการผลิตปัจจุบัน 14.5 ล้านตารางเมตรต่อปี และมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 448 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2548

พร้อมกันนี้ ให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2547 หรือ SCC084A จำนวนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เนื่องจากหุ้นกู้เดิม ครั้งที่1/2542 หรือ SCC044A และ ครั้งที่ 2/2542 หรือ SCC044B รวมทั้งสิ้นจำนวน 14,000 ล้านบาท จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 1 เมษายน 2547 และเพื่อทดแทนเงินกู้ระยะสั้นและระยะยาวของธนาคาร

หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นประเภท ระบุชื่อผู้ถือ ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ สกุลเงินบาท เสนอขาย Public Offering (PO) โดยเสนอขายเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ SCC044A และ SCC044B ประเภทบุคคลธรรมดาตามจำนวนหุ้นกู้ที่ถือ ณ วันปิดสมุดทะเบียน เพื่อการไถ่ถอน และอีกส่วนหนึ่งจะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ประเภทบุคคลธรรมดาของ SCC ทุกรุ่น และบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ทุกรุ่น

ทั้งนี้ ให้การเสนอขายดังกล่าวรวมถึงผู้บริหารของ SCC ที่ถือหุ้นกู้ SCC044A SCC044B และชุดอื่นๆ ของ SCC และ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ด้วย อายุ 4 ปี ออกหุ้นกู้วันที่ 1 เมษายน 2547 และครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 เมษายน 2551 (ไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มจำนวน) อัตราดอกเบี้ยคงที่ ตามราคาตลาดในขณะที่ออก จ่ายดอกเบี้ย ทุกๆ 3 เดือน (1 มกราคม 1 เมษายน 1 กรกฎาคม และ 1 ตุลาคม) กำหนดระยะเวลาจองซื้อ ระหว่างวันที่ 8-30 มีนาคม 2547

นายกานต์ ตระกูลฮุน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ SCC กล่าวว่า ปีนี้ SCC มีหุ้นกู้ที่จะครบดีลในเดือนเมษายนจำนวน 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้จำนวน 8,800 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่ายที่ 10.5% เป็นล็อตที่จ่ายสูงเมื่อเทียบกับทุกล็อตที่ผ่านมา และเดือนพฤศจิกายนนี้จำนวน 6 พันล้านบาท ซึ่งหุ้นล็อตนี้ต้องดูถึงความต้องการใช้เงินทุนของบริษัทก่อนว่าจำเป็นต้องใช้หรือไม่ รวมทั้งดูความต้องการของผู้ถือหุ้นหรือผู้ที่ถือหุ้นกู้เดิมอยู่แล้วว่าต้องการซื้อหุ้นกู้ล็อตใหม่หรือไม่ ถึงเวลานั้นจึงจะบอกได้ว่าบริษัทจะออกหุ้นกู้ล็อตใหม่อีกหรือไม่ อย่างไร

โดยแผนงานของบริษัท แต่ละปีต้องการลดหนี้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทหรือเดือนละประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมี อัตรา ส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.13ต่อ 1 เท่า พร้อมกับให้ความสำคัญต่อ debt to ebitda ที่บริษัทต้องการเห็นที่ระดับ 3 เท่าในปีนี้ ขณะที่บริษัทจะพิจารณาจากการใช้เงินลงทุนในแต่ละปีด้วยว่า ปีนั้นๆ จำเป็นต้องใช้เงินทุนเท่าใด ซึ่งในปี 46 บริษัท ลดหนี้ได้ถึง 12,000 ล้านบาท เพราะบริษัทไม่มีการลงทุนเพิ่มในระยะนี้

การลดหนี้ของบริษัทตามแผนนั้น ทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงตามยอดมูลหนี้ที่ลดน้อยลง ส่งผลต่อการดำเนินงานที่ดีขึ้นตามลำดับ คณะกรรมการบริษัทปูนซิเมนต์ไทยจึงเห็นควรเสนอที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 6.00 บาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา หุ้นละ 2.50 บาทเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2546 และจะจ่ายเงินปันผลประจำปี 2546 งวดสุดท้าย ในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท ในวันที่ 21 เมษายน 2547 โดยจะปิดสมุดจดทะเบียนพัก การโอนหุ้นเพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 8 เมษายน 2547

สำหรับราคาหุ้น SCC วานนี้ปิดที่ 242 บาท ลดลง 4 บาท เปลี่ยนแปลง 1.63% มูลค่าการซื้อขาย 395.17 ล้านบาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.