GENCO เล็งแตกไลน์ธุรกิจไปสู่ "รีไซเคิลและอสังหาริมทรัพย์" ลดการพึ่งพารายได้จากการกำจัดกากอุตสาหกรรมเพียงอย่าง
เดียว โดยร่วมมือกับฟิลิปส์ รีไซเคิลหลอดไฟใช้แล้ว เผยบอร์ดฯเตรียมพิจารณาอนุมัติพร้อมแผนดำเนินการธุรกิจในวันที่
28 มกราคม
นายอัศวิน วิภูศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารเพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัทฯ ที่มีนายเผด็จภัย
มีคุณเอี่ยม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ในวันที่ 28 มกราคมนี้ จะพิจารณาอนุมัติแผนการดำเนินงานบริษัทปี
2547 เพื่อแสวงหารายได้จากธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจรีไซเคิล และอสังหาริมทรัพย์
เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจการกำจัดกากอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว
เนื่องจากเห็นว่าการแข่งขันกำจัดกากอุตสาหกรรมทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้น การพึ่งพารายได้จาก
การกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างเดียว คงจะลำบาก ทำให้ GENCO ได้เริ่มมีการปรับตัวในช่วงที่ผ่านมา
โดย ร่วมมือกับบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะใช้โรงปูนเผาขยะอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตรายซึ่งต่อไปการทำธุรกิจรีไซเคิลจะมีการทำแบบครบวงจรมากขึ้น
ส่วนแผนการประมูลกำจัดกากน้ำมันที่ใช้แล้วและขยะในเรือที่เข้ามาเทียบท่าบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง
GENCO ได้ยื่นประมูลไปตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.2546 และคงจะต้องรอการประกาศถึงผู้ที่ชนะประมูลอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
"หลังจากที่เพิ่มทุนเป็น 900 ล้าน บาทขณะนี้กลุ่มของผมถือหุ้นใหญ่ และจากการเพิ่มทุนทำให้บริษัทได้เงิน
สดมาประมาณ 500 ล้านบาท รวมกับเงินทุนเดิมอีก 100 ล้านบาท ก็จะมีการขยายงานรองรับการเติบโต"
นายอัศวินกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า แผนบริหารปี 2547 เจนโก้เตรียมที่จะตั้งบริษัทลูก รองรับการขยายงานที่จะนำเงินจากการเพิ่มทุนส่วนหนึ่งมาบริหาร
โดยเฉพาะการรุกเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิล หรือการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเดิม GENCO
เน้นการให้บริการกำจัดกาก อุตสาหกรรมที่เป็นพิษ ซึ่งจะดำเนินการอย่างครบวงจรมากขึ้น
โดยเตรียม ตั้งบริษัทในเครือรองรับ เช่น ร่วมมือกับผู้ผลิตหลอดไฟฟ้าฟิลิปส์ ที่จะรีไซเคิลหลอดไฟฟ้าใช้แล้ว
รวมไปถึง มีแผนที่จะรุกตั้งบริษัทในเครือเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากนายอัศวินเคยเป็นนายกสมาคมบ้าน
จัดสรรจึงมีประสบการณ์ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
สำหรับการประมูลกำจัดกากน้ำมันที่ใช้แล้วและขยะในเรือที่เข้ามาเทียบท่าบริเวณท่าเรือแหลมฉบังมีรายงานข่าวแจ้งว่า
หลังจากได้มีการเปิดเงื่อนไขการประมูลให้ผู้สนใจเข้าประมูล ซึ่งปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าซื้อซองประมูล
5 รายแต่มีการยื่นซองเพียง 3 รายคือ 1. บริษัท GENCO 2. บริษัทเอสซี แมนเนจเมนท์
จำกัด 3. บริษัทซีต้าไทย จำกัด แต่ในส่วนของรายที่ 3 เป็น การยื่นซองเปล่าจึงเหลือการพิจารณา
เงื่อนไขของ 2 รายแรกเท่านั้น