M-HOME เปลี่ยนชื่อใหม่ตามความต้องการของผู้กุมบังเหียน "กลุ่มเค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้"
ที่มีตระกูลงามอัจฉริยะกุลถือหุ้นใหญ่ และเข้าทำแบ็กดอร์สำเร็จเมื่อปีที่แล้ว จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นกว่า
51% ขณะที่ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบและบอร์ดบริษัทไม่ขัดความประสงค์ พร้อมเดินหน้าซื้อที่ดินและโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเข้ามาดำเนินการสร้างรายได้
นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท โมเดอร์น โฮม ดีเวลลอปเม้นท์
จำกัด (มหาชน) (M-HOME) ในฐานะตระกูลที่กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน M-HOME ถึงกว่า
51% เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการของบริษัท ฯ เมื่อวันที่
19 มกราคม 2547 ซึ่งอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อ ย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท
และได้รับการอนุมัติจากศาลล้มละลายกลางแล้ว เพื่อเปลี่ยนชื่อของบริษัทใหม่
โดยให้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (K.C. Property
Public Company Limited) และได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชนเรียบร้อย
เมื่อวันที่ 14 มกราคมปี 2547 และบริษัทฯ มีความ ประสงค์เปลี่ยนชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์จาก
M-HOME เป็น KC
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจด ทะเบียนเปลี่ยนชื่อที่กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2547 ทำให้บริษัทต้องแจ้งการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ ดังกล่าว
และขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดำเนินการเปลี่ยนชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ
จาก "M-HOME" เป็น "KC" ด้วย
บริษัท โมเดอร์นโฮม แพลนเนอร์ จำกัดในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทโมเดอร์นโฮม
ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ชี้แจงความคืบหน้าในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการว่าตามที่ได้แจ้งให้นักลงทุนรับทราบ
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปี 2546 ถึงผลการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 จำนวน 10,292,020 บาท
เพื่อให้มีทุนชำระแล้วของบริษัทฯ มีจำนวนครบตามทุนจดทะเบียน 350,000,000 บาท
โดยเป็นการขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) และได้ดำเนินการเพิ่มทุนแล้วเสร็จ15
ธันวาคมปี 2546 ปรากฏว่าสามารถจองซื้อหุ้นจองซื้อครบเต็มจำนวน ทำให้ตระกูลงามอัจฉริยะกุล
ที่ดำเนิน ธุรกิจเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ กลุ่ม เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้
กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใน M-HOME ไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่กลุ่ม เค.ซี. พร็อพเพอรตี้ ได้เข้าบริหารกิจการใน
M-HOME เมื่อเดือนตุลาคมปี 2546 ตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์
ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเข้ามาดำเนินการในบริษัท ฯ ต่อ
โดยประกอบด้วยโครงการ เค.ซี.เลควิว จำนวนพื้นที่ 23 ไร่ 3 งาน 14.3 ตารางวา มูลค่า
382.14 ล้านบาท โครงการ เค.ซี.รามอินทรา 8 จำนวนพื้นที่ 32 ไร่ 1 งาน 93.5 ตารางวา
มูลค่า 192.77 ล้านบาท โครงการ เค.ซี.พาร์ควิลล์ 4 จำนวนพื้นที่ 34 ไร่ 3 งาน 27.0
ตารางวา มูลค่า 208.45 ล้านบาท และโครงการ เค.ซี.กรีนวิลล์ 2 จำนวนพื้นที่ 141
ไร่ 2 งาน 52.0 ตารางวา มูลค่า 160.01 ล้านบาท รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 232 ไร่ 2 งาน
86.8 ตารางวา มูลค่า 943.37 ล้านบาท โดยจำนวนเงินมาจากค่าเฉลี่ยราคาประเมินที่จัดทำโดยบริษัท
ไซมอน ลิมส์และหุ้นส่วน จำกัด กับบริษัท บีซีเอ ประเมินราคา จำกัด