เสียงปี๊บๆ ของอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ กำลังเริ่มเลือนหายไปจาก ความต้องการของผู้ใช้
ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องเริ่มปฏิวัติตัวเอง เพื่อหาธุรกิจใหม่มาทดแทน
เราเห็นภาพนี้มานานแล้ว" อาจกิจ สุนทรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮัทชิสัน
เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ และบริษัทล็อกซเล่ย์ เพจโฟน บอกถึงสภาพของธุรกิจวิทยุติดตาม
ตัวที่ต้องเผชิญกับปัญหาผู้ใช้งานที่ลดลงไปเรื่อยๆ
การถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดีกว่า
ที่ราคาและค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ความต้องการใช้งานของผู้ใช้บริการวิทยุ
ติดตามตัวเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
"ทุกวันนี้เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทดแทนการใช้งานของเพจเจอร์ได้หมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหรือข้อมูล ค่าบริการรายเดือนก็ถูกกว่า" ผู้คร่ำหวอดในวงการโทรคมนาคมให้ความเห็น
ก่อนหน้านี้ วิทยุติดตามตัวได้เข้ามามีบทบาทกับผู้บริโภคชาวไทยเมื่อประมาณ
10 กว่าปีที่แล้ว โดยบริษัทแปซิฟิกเทเลซิส ผู้ให้บริการวิทยุติดตามตัวรายแรก
ภายใต้ ชื่อ "แพคลิงค์" เป็นรายแรกที่ได้รับสัมปทาน จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย
(กสท.) ซึ่งกลุ่มชินคอร์ปเองก็เคยเป็นผู้ถือหุ้น ก่อนจะถอนหุ้นออกไป
ต่อมาองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) ก็ให้สัมปทานแก่เอกชน เริ่มจากโฟนลิ้งค์ของกลุ่มชินคอร์ป
ตามมาด้วยบริการฮัทชิสัน ซึ่งเป็นการร่วม ทุนระหว่างฮัทชิสันวัมเปา และล็อกซเล่ย์
ที่เปิดให้บริการในเวลาไล่เลี่ยกัน ถัดจากนั้นก็มีกลุ่มเลนโซ่ และกลุ่มยูคอม
เป็นอีก 2 กลุ่มที่เข้าสู่ธุรกิจนี้
และในอีกไม่กี่ปีต่อมา วิทยุติด ตามตัวก็ได้กลายเป็นสัมปทานแรกๆ ที่มีการเปิดให้บริการโดยเสรี
ไม่ต้องจ่ายค่า สัมปทาน จ่ายแต่เพียงค่าใบอนุญาต รูปแบบการใช้งานของวิทยุติดตาม
ตัวของผู้บริโภคชาวไทยมีลักษณะเฉพาะตัว คือ การใช้งานจะเป็นการส่งข้อความผ่านโอเปอเรเตอร์
หรือที่เรียกว่า ระบบอัลฟ่านิวเมอริก ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จะเป็นแค่การส่งเลขหมายโทร-ศัพท์ให้ผู้รับโทรกลับ
การลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจของไทย นอกเหนือจากตัวระบบที่ต้องให้บริการได้ทั่วประเทศแล้ว
เม็ดเงินส่วนใหญ่ยังต้องใช้ไปกับการจ้างโอเปอเรเตอร์ เป็นจำนวนมาก รวมถึงคู่สายโทรศัพท์เพื่อรอง
รับกับความต้องการของผู้ใช้บริการ
แต่แล้วพัฒนาการของเทคโนโลยี และอัตราค่าบริการ และเครื่องลูกข่ายของ โทรศัพท์เคลื่อนที่
และโทรศัพท์พีซีที ก็ส่ง ผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจวิทยุติดตามตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สัญญาณการเปลี่ยนแปลงเริ่มมาตั้งแต่แปซิฟิกเทเลซิสขายกิจการแพคลิ้งค์ ให้กับกลุ่มเลนโซ่
ตามมาด้วยการคืนสัมปทาน "เวิลด์เพจ" ให้กับ ทศท. ซึ่งต่อมาก็ได้อนุมัติสัมปทานนี้ไปให้กับกลุ่มบริสเทล
ก่อนหน้านี้ ธุรกิจวิทยุติดตามตัว เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับฮัทชิสันมาตลอด
เริ่มทำกำไรตั้งแต่ปี 2537 โดยที่ในปี 2539 มีลูกค้ามากถึง 1.6 แสนราย แต่พอมาถึงปี
2543 ยอดผู้ใช้เริ่มตกลงไปเรื่อยๆ
การคาดการณ์ฐานลูกค้าที่มีอยู่ 80,000 เครื่อง ในปีที่แล้ว จะลดลงเหลืออยู่เพียงแค่
35,000 เครื่อง จากตลาดรวม 3 แสนเครื่อง เช่นเดียวกับรายได้จากธุรกิจเพจเจอร์จากที่เคยทำได้
500 ล้านบาทในปีที่แล้ว จะลดลงเหลือเพียงแค่ 300 ล้านบาทในปีนี้
"ลูกค้าที่ใช้บริการวิทยุติดตามตัวเวลา นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประเภทองค์กร
ที่ยัง มีความจำเป็นต้องใช้งานจริงๆ" อาจกิจเชื่อว่าจำนวนผู้ใช้บริการเพจเจอร์ลดลงเหลืออยู่
10,000-20,000 ราย ซึ่งนับเป็นจำนวนต่ำสุดของการให้บริการ
ทางออกของฮัทชิสัน รวมถึงผู้ให้บริการเพจเจอร์ทุกรายเวลานี้คือ การแสวงหา
ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อมาชดเชยกับรายได้ที่หายไป
การ re-invet การลงทุนใหม่เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับอาจกิจ นี่คือ
"การสร้าง ฐานใหม่ให้กับฮัทชิสันอีกครั้ง"
ภายใต้การลดขนาดของธุรกิจเพจ เจอร์ที่จะเหลือเพียงแค่การรักษาระบบให้รอง
รับกับผู้ใช้บริการยังคงเหลืออยู่ เงินกำไรที่ได้จากธุรกิจเพจเจอร์จะถูกนำไปใช้ในการลงทุนใน
3 ธุรกิจใหม่ ที่ใช้เงินไปแล้ว 50 ล้าน บาทในปีที่แล้ว
ธุรกิจให้บริการ call center นับเป็นทางเลือกแรกของผู้ให้บริการวิทยุติดตามตัวเกือบทุกราย
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะมันสามารถใช้ประโยชน์จากฐานธุรกิจเดิม ทั้งโอเปอเรเตอร์
บริการ call center เริ่มเข้ามามีบทบาทในไทยหลายปีมาแล้ว ใช้ในการขายตรง
เช่น งานวิจัย หรือการแจกสินค้าตัวอย่าง เวลานั้นยังเป็นธุรกิจไม่ใหญ่มาก
และเริ่มมาเป็นรูปเป็นร่างเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
สิ่งที่ฮัทชิสันวางไว้ก็คือ การขยายผลของธุรกิจ call center ทั้งในรูปแบบบริการใหม่ๆ
เช่น บริการส่งสินค้าถึงบ้าน บริการส่ง ข้อความเพื่อโปรโมตสินค้า และเป็นส่วนหนึ่ง
ของบริการ customer relation management รวมไปถึงการขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ
ที่ จะมีความต้องการมากขึ้น และจะส่งผลให้บริ- การ call center เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จะว่าไปแล้ว การเคลื่อนไหวของผู้ให้ บริการรายนี้ มีขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี
2542 นั่นก็คือ การเปิดเว็บไซต์เลมอนออนไลน์นอกเหนือจากการเห็นความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
เพื่อไม่ต้องตกยุค new economy แล้ว "เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนมาก" คือ
ที่มาของ การก้าวเข้าสู่ธุรกิจ portal web ในเวลานั้น
ธุรกิจให้บริการข้อมูล หรือบริการ loxnews เป็นบริการขายข้อมูลทางเพจเจอร์
เป็นบริการเสริมที่ฮัทชิสันให้บริการเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว เริ่มมาจากแนวคิดง่ายๆ
คือ "เป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่ แต่สร้างรายได้" อาจกิจบอก
ทุกวันนี้ ฮัทชิสันมีลูกค้าในมือ 4,000 ราย ที่เสียค่าบริการเดือนละ 1,000
บาท เพื่อ แลกกับการได้รับข่าวสารที่ฮัทชิสันซื้อมาจาก สำนักพิมพ์ และนำมาจัดทำเป็นข้อมูลที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตัวเอง
"เราเชื่อว่า นี่คือ 3 ธุรกิจที่ซ่อนอยู่ใน ธุรกิจเพจเจอร์ที่เราเชื่อว่าจะทำได้ดี
ภายใต้สภาพของธุรกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน" อาจกิจ บอก "ที่สำคัญเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน
มาก แต่เริ่มได้จากเล็กๆ"
บริษัทอาเธอร์ แอนด์เดอร์สัน ถูกว่าจ้างมาสำหรับการจดทะเบียนบริษัทใหม่ที่จะมารองรับธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการ
re-invest การลงทุนใหม่ ซึ่งถูกคาดการณ์ไว้ว่า รายได้มากกว่าครึ่งหรือประมาณ
300 ล้าน บาท จะมาจากธุรกิจใหม่ ที่จะชดเชยรายได้ของบริการวิทยุติดตามตัว
ถึงแม้ว่า อวสานของเพจเจอร์ยังมาไม่ ถึง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า
อีกไม่นาน อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ กำลังจะหายไป จากตลาดไม่ช้าก็เร็ว