ปิดบัญชีตลาดรถปีแพะ ทำยอดขายรวม 5.33 แสนคัน เติบโต 30 เปอร์เซ็นต์ ไล่เบียดตัวเลขสูงสุดในอดีตเพียง
ไม่กี่หมื่นคัน สำหรับยอดขายตลาดรถรวมและตลาดรถยนต์นั่งโตโยต้าครองอันดับหนึ่งเช่นเดิม
ขณะที่ตลาดรถปิกอัพ ยังคงเป็น อีซูซุ ปีนี้ค่ายรถมั่นใจตลาดจะโตมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
หรือเท่ากับ 5.90 แสนคัน เหตุสคช.คาดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่อ GDP ในปีนี้โต
7-8 เปอร์เซ็นต์ และรถใหม่เตรียมลงสังเวียนอีกเพียบ
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตอย่างก้าวกระโดด
เพราะจากที่คาดการณ์กันไว้เมื่อต้นปี 4.6 แสนคัน ก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกแสนคันในช่วง
กลางปีและช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก็ปรับเพิ่มเป็น 5.2-5.3 แสนคัน
ซึ่งตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ก็ไม่ผิดเพี้ยน เพราะบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
และบริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด รายงาน ยอดขายปี 2546 ว่ามีปริมาณการขายถึง
533,176 คัน มีอัตราการเจริญเติบโต 30 เปอร์เซ็นต์ และหากเปรียบเทียบกับเดือนพฤศ-จิกายน
ที่ผ่านมา จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50.98 เปอร์เซ็นต์
สำหรับตลาดที่มียอดขายมากสูงสุดคือตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 354,171 คัน อัตราการเจริญเติบโต
25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วยตัวเลขการขายรถกระบะขนาด1ตัน จำนวน 309,114
คัน เติบโต 28 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รถยนต์นั่ง 179,005 คัน มีอัตราการเจริญ เติบโต
41.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสถิติการขายของปี 2545
หากหันมามองตัวเลขยอดขายในช่วงเดือน สุดท้ายของปี 2546 จะพบว่ามียอดขายสูงสุดในรอบปี
คือมีตัวเลขถึง 65,000 คัน ด้วยตัวเลขยอดขาย 64,822 คัน เติบโต 32.7 เปอร์เซ็นต์
และรักษาระดับปริมาณการขายเกินกว่า 40,000 คัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
แบ่งเป็นยอดขายรถกระบะ 1 ตัน 35,531 คัน เติบโต 26.7 เปอร์เซ็นต์ รถยนต์นั่ง 24,249
คัน เติบโต49 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นรถเพื่อการพาณิชย์
ปฏิเสธไม่ได้ว่ายอดขายรถในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเกิดจากงาน มหกรรมยานยนต์
ครั้งที่ 20 เพราะตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่ได้จากงานนี้มีถึง 18,418 คัน ประกอบกับการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ต่างๆ
ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอพิเศษทางด้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน รวมถึงการจ่ายโบนัส ของภาคเอกชนทำให้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคง่ายขึ้น
เหนืออื่นใดรถยนต์ใหม่ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายก็ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทนั้น
ๆ เพิ่มขึ้นกระฉูด อย่างฮอนด้า แจ๊ซ มียอด ขายประมาณ 7-8 พันคัน และที่ยังแรงไม่หยุดในตลาดรถยนต์นั่งคือ
โตโยต้า วีออส ส่วนกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ ก็มียอดขายไม่ตกลงมาเลย
จากตัวเลขยอดขายทั้งปีของรถยนต์ทุกประเภทที่ขายได้ 533,176 คัน ค่ายที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งคือ
โตโยต้า 188,748 คัน เพิ่มขึ้น 45.1 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนแบ่งการตลาด 35.4 เปอร์เซ็นต์
อันดับสอง อีซูซุ 131,422 คัน เพิ่มขึ้น 41.7 เปอร์-เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาด 24.6
เปอร์เซ็นต์ และ อันดับสามฮอนด้า 69,069 คัน เพิ่มขึ้น27.3 เปอร์-เซ็นต์ มีส่วนแบ่งการตลาด
13.0 เปอร์เซ็นต์
ส่วนรถยนต์นั่งโตโยต้าก็ยังครองอันดับหนึ่งด้วยตัวเลขยอดขาย 82,734 คัน เพิ่มขึ้น
63.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาด 46.2 เปอร์เซ็นต์ อันดับสอง ฮอนด้า 60,774 คัน
เพิ่มขึ้น 71.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาด 34.0 เปอร์เซ็นต์ อันดับสาม นิสสัน
9,879 คัน ลดลง 22.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาด 5.5 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่รถกระบะ 1 ตัน นั้นไม่ต้องพูดถึง อีซูซุ เป็นแชมป์ตลอดกาลด้วยตัวเลขยอดขาย
123,789 คัน เพิ่มขึ้น 40.8 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนแบ่ง การตลาด 40.0 เปอร์เซ็นต์ อันดับสองโตโยต้า
99,901 คัน เพิ่มขึ้น 36.3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาด 32.3 เปอร์เซ็นต์ อันดับสาม
นิสสัน 31,449 คัน เพิ่มขึ้น 6.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการ ตลาด 10.2 เปอร์เซ็นต์
สำหรับตลาดรถยนต์ในปี 2547 ค่ายรถคาด การณ์ว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยมีการประมาณการตัวเลขการขายที่
590,000 คัน และ อัตราการเจริญเติบโตมากกว่า10 เปอร์เซ็นต์ จาก สภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีแนวโน้มสดใส
ดังตัวเลขประมาณการอัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจต่อจีดีพี ในปี 2547 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ระดับ
7-8 เปอร์เซ็นต์ และสำนักงานเศรษฐกิจกระทรวงการคลังที่ระดับ 8.3 เปอร์-เซ็นต์
บวกกับในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะมีงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของปี
คือ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 25 ซึ่งในงานนี้จะมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น
และผลจากการเปิดรถใหม่ก็จะส่งให้ยอดขายรถในปีนี้แรงไม่แพ้ปีที่ผ่านมา