อีสท์ วอเตอร์เตรียมเงิน 400-500 ล้านบาท ซื้อ หุ้น "เอ็กคอมธารา"
จากผู้ถือหุ้นใหญ่ "ผลิตไฟฟ้า" ทั้งหมด มั่นใจดีลนี้จบแน่ภายในปี 47
โดยแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดในมือที่มีอยู่พันล้านบาท
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการอำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก
จำกัด (มหาชน) (EASTW) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในบริษัท
เอ็กคอมธารา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)(EGCOMP)
เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถืออยู่แล้ว 15% โดย อีสท์ วอเตอร์ต้องการถือหุ้นไม่น้อยกว่า
50% เพื่อให้สามารถเข้าบริหารจัดการในเอ็กคอมธาราได้เต็มที่
ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ประเมินมูลค่าหุ้นเอ็กคอมธารา จะอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท
หาก EGCOMP ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้ง หมดจำนวน 70% หากอีสท์ วอเตอร์ไม่ได้ซื้อหุ้นครบจำนวน
70% ก็จะจัดสรรหุ้นที่เหลือให้กับผู้ถือหุ้นเดิม หรืออาจหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่เข้าแทน
ทำให้เงินที่เตรียมไว้ 500 ล้านบาทอาจใช้ไม่เต็ม จำนวน
สำหรับแหล่งเงินทุนนั้นจะมาจากเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งปัจจุบันมีกระแสเงินสดในมือ
1 พันล้านบาท รวมทั้งในปีนี้ อีสท์ วอเตอร์ยังมีแผนจะออกหุ้นกู้ไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท
และออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อนำเงินมาไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระใน ก.ค.2547
ประมาณ 2.2 พันล้านบาท และที่เหลือใช้ขยายธุรกิจเพิ่ม เติม
นายวันชัย มีความมั่นใจว่าการเจรจาซื้อหุ้นเอ็กคอมธาราน่าจะ แล้วเสร็จภายในปี
2547 เนื่องจาก EGCOMP มีนโยบายแน่ชัดที่ จะโฟกัสเฉพาะธุรกิจไฟฟ้า แต่จะขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไป
รวมทั้งล้มเลิกแผนการนำเอ็กคอมธาราเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่จะเข้ามาลงทุนผ่านทางอีสท์
วอเตอร์แทน เพราะปัจจุบัน EGCOMP ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งในอีสท์ วอเตอร์อยู่แล้ว
ภายหลังจากเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในเอ็กคอมธาราแล้วจะให้บริษัทลูก คือ บริษัท ยูนิเวอร์แซล
ยูทิลิตี้ จำกัด (ยูยู) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้ บริการน้ำประปาเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
เนื่อง จากโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ ทางอีสท์ วอเตอร์จะเน้นเฉพาะธุรกิจน้ำดิบเท่านั้น
ดังนั้น ทิศทางการเติบโตของยูนิเวอร์แซล ยูทิลิตี้ (ยูยู) จะยิ่งเติบโตเพิ่มขึ้น
ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายนำยูยูเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อีก 2ปีข้างหน้า โดยมีกำลังการผลิตน้ำประปาไม่น้อยกว่า
1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน และมีทุนจดทะเบียน 1 พันล้านบาท เพื่อให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุน
จากปัจจุบันที่ บริษัทฯมีทุนจดทะเบียนเพียง 500 ล้านบาทและมีกำลังการผลิตน้ำประปาน้อยกว่า
1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน
แหล่งข่าวจากบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)(EGCOMP) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา
แต่เราไม่ได้รีบร้อนขายเอ็กคอมธารา เพราะ เป็นบริษัทที่มีกำไรจากการดำเนินงาน แม้ว่าจะมี
นโยบายว่าจะขายธุรกิจรอง (Non Core) ซึ่งรวมเอ็กคอมธาราด้วยก็ตาม ที่ผ่านมาได้มีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกับอีสท์
วอเตอร์
"หากขายเอ็กคอมธาราไปแล้ว บริษัทฯก็ไม่รู้จะเอาเงินมาทำอะไรที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงเท่ากับเอ็กคอมธารา"
แหล่งข่าวกล่าว
เดิมเอ็กโก้ได้มีแนวคิด 2 ทาง คือ 1.ต้อง การลงทุนธุรกิจน้ำผ่านทางอีสท์ วอเตอร์
โดยจะขาย หุ้นเอ็กคอมธาราให้อีสท์ วอเตอร์ และ 2. ยังคงบริษัท เอ็กคอมธาราไว้ในเอ็กโก้
หลังจากนั้นให้นำเอ็กคอมธาราเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแนวทางที่ 2 ได้ยกเลิกไปแล้ว
ส่วนแนวทางแรก ก็ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจน เพราะยังไม่ได้มีการตีมูลค่าราคาหุ้นของเอ็กคอมธารา
รวมถึงการตรวจสอบสินทรัพย์และหนี้สิน (ดีลดิลิเจนซ์) เชื่อว่ายังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึง
จะได้ข้อสรุป
สำหรับในปี 2547 เอ็กคอมธาราจะไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม แต่จะปรับปรุงเพื่อลดต้นทุนให้ต่ำลงอีก
ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีภาระดอกเบี้ยลดลงจากเดิม 10.5% เหลือเพียง 5.5% คาดว่าปีนี้บริษัทฯจะมีรายได้ประมาณ
150 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ
70 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ตัวเลขขาดทุน สะสม ณ สิ้นปี 2546 อยู่ที่ 70 ล้านบาท จะล้างขาดทุนสะสมได้หมดและปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ในปี
2547
บริษัท เอ็กคอมธารา เป็นผู้จำหน่ายน้ำประปาให้การประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและสมุทรสงคราม
คิดเป็นปริมาณ 3.6 หมื่น ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีสัมปทานเป็นระยะเวลา 30 ปี
โครงสร้างผู้ถือหุ้นเอ็กคอมธารา ประกอบด้วย EGCOMP ถือหุ้นใหญ่ 70% อีสท์ วอเตอร์
15% บริษัท รีไควร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด 5% บริษัท ยานากาวา คอนสตรัคชั่น จำกัด
5% และบริษัท อาควาไทย จำกัด 5%