กระทิงหุ้นไทยเดือดส่งท้ายปีนี้770


ผู้จัดการรายวัน(31 ธันวาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

"ทักษิณ" แนะนัก ลงทุนอยากได้กำไร เน้นลงทุนหุ้นพีอี ต่ำ ยอมรับภาวะตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน การเก็งกำไรเป็นเรื่องธรรมดา แต่สั่งกำชับตลาดหลักทรัพย์แล้วให้ดูแลใกล้ชิด ขณะที่กระทิงหุ้นไทยเดินหน้าต่อเนื่องอีก 2% วานนี้ ทะลุ 760 จุด ด้วยวอลุ่มหนาแน่นถึง 5.23 หมื่น ล้านบาท โดยเฉพาะหุ้นปตท.ที่ราคาพุ่งถึง 11.5 ปิด 183 ล้านบาท ด้วยมูลค่าเทรดรวมถึงเกือบ 6 พันล้านบาท หรือ 11% ของวอลุ่มรวมทั้งตลาดฯ หลัง "ทักษิณ" คาดหุ้นตัวนี้ราคามีสิทธิ์พุ่งแตะ 300 บาท แถมหุ้นแบงก์โบรกเกอร์ใหญ่ยังเดินหน้า ขณะที่แนวโน้มกระทิงยังเดินหน้าต่อเนื่อง ขึ้นทดสอบ 770 จุดก่อนสิ้นปีแพะ แม้อาจปรับฐานวันสุดท้ายของปีนี้เป็นช่วงๆ วันนี้ ขณะที่หุ้น MEDIAS กลับมาเทรดวันแรกวานนี้ ราคาพุ่ง 1,120% ก่อนปิดตลาดฯ ลงเล็กน้อยเหลือ 39.90 บาท

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยวานนี้ (30 ธ.ค.) ว่าตลาดหุ้นช่วงท้ายวานนี้ผันผวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นปี และปล่อยข่าวลือเพื่อเก็งกำไรอยู่บ้าง แต่เขามั่นใจว่า ตลาดหลักทรัพย์ควบคุมได้ เพราะเขา กำชับชัดเจนว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี

"ตลาดหลักทรัพย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ถ้าไม่มีอะไรที่ผิดปกติก็ไม่เป็นไร เมื่อวันพฤหัสฯที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผมได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องมาพูดคุย และกำชับให้ดูความผิด ปกติ ไม่ต้องพูดกันมาก ทำงานให้ดีอย่างเดียว ตลาดหุ้นจะได้ไม่สับสน" นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนที่มีการปล่อยข่าวลือในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเก็งกำไรหรือสร้างราคาหุ้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เป็นธรรมดาของตลาดฯ ที่มีการปล่อย ข่าวเพื่อสร้างราคาหุ้น โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่อยากได้กำไรแบบการพนัน ก็จะเล่นซื้อขายภายในวันเดียว ซึ่งรัฐบาลแนะนำตลอดมาว่า ต้องดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้น มิฉะนั้น จะมีความเสี่ยง ถ้าเล่นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี โอกาสเสี่ยงก็น้อย โอกาสได้กำไรก็สูง

"จริงๆแล้วหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจก็บอกทุกวันว่า PE ratio เป็นอย่าง ไร หรือมีผลตอบแทนต่อราคาที่เท่าไร จะเห็นชัดว่า ตลาดหุ้นไทยมี PE อยู่ที่ 11-12 ถ้าหุ้นตัวไหน PE สูงกว่า PE ตลาดฯมาก ความเสี่ยงก็สูง ถ้าอยู่ในระดับเดียวกับตลาดฯ ก็มีความเสี่ยงต่ำ โอกาสทำกำไรก็มีมาก อยากได้กำไรแน่ๆต้องลงทุนใน PE ต่ำ" นายกรัฐมนตรีกล่าว

กระทิงคึกคักต่อเนื่อง

กระทิงหุ้นไทยวานนี้ (30 ธ.ค.) ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ดัชนีหลักทรัพย์ร้อนแรงไม่เลิก ปิดวานนี้เพิ่ม 17.42 จุด เพิ่ม 2.33% มูลค่าซื้อขายรวมถึง 52,325.57 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยบวกท่วมตลาด หลังคลังปรับเป้าเศรษฐกิจไทยปีหน้า 8.3% หุ้นต่าง-ประเทศปิดบวก ดัชนีพุ่งสูงสุด 767.41 จุด และต่ำสุด 746.89 จุด หุ้น ที่มีมูลค่าซื้อขายมากที่สุดวานนี้ คือกลุ่มพลังงาน มูลค่าซื้อขาย 10,294.46 ล้านบาท ดัชนีกลุ่มพุ่ง 13% หลังนายก-รัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คาด หุ้น ปตท.(PTT) มีสิทธิ์ชน 300 บาท หุ้นกลุ่มบริษัทเงินทุน มูลค่าซื้อขาย 7,411.11 ล้านบาท และกลุ่มอสังหา-ริมทรัพย์ 7,237.72 ล้านบาท

นางสาวศุภมาศ พยัคฆพันธ์ นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่าบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้น ไทยโดยทั่วไปวานนี้ ผันผวนระหว่างวัน ช่วงเช้ามีแรงซื้อหุ้นใหญ่หลายตัว คือ ปตท. (PTT) ปตท.สำรวจและผลิต ปิโตรเลียม(PTTEP) ส่งผลดันดัชนี ตลาดฯพุ่งสูง แม้เทขายทำกำไรหุ้นปูน ใหญ่ (SCC) ก็ตาม ตลาดฯอยู่ในช่วง ภาวะกระทิง นักลงทุนรายย่อยกลับเข้า ซื้อเก็งกำไร คาดวันนี้ตลาดฯ ยังแรงไม่เลิก ส่งท้ายปีแพะ นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังการลงทุน ต้นปีหน้า คาดดัชนีตลาดฯ จะเพิ่มต่อเนื่อง ก่อน นักลงทุนขายทำกำไรช่วงกลาง ม.ค. เมื่อมองภาพรวมทั้งปี 2547 ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะทะลุ 800-1,200 จุด เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นภาวะตลาดและเศรษฐกิจ ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น

ด้านนายธวัธชัย รุ่งเรือง นักวิเคราะห์ บล.แอสเซท พลัส กล่าวว่าโดยทั่วไป ตลาดฯวานนี้ค่อนข้างผัน ผวนระหว่างวัน หุ้นมาร์เกตแคปขนาด ใหญ่ อย่าง PTT แรงต่อเนื่องจากการ ที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในงานครบรอบ 30 ปี ปตท. ว่าหุ้นปตท.น่าจะขึ้นถึง 300 บาท ซึ่งมีผลทางจิตวิทยาต่อนักลงทุน ทำให้แรงซื้อต่อเนื่อง นักลงทุนรายย่อย ซื้อเก็งกำไร

สำหรับ ดัชนีตลาดวันนี้ คาดยังไปได้ต่อ แนวต้าน 770 จุด อาจมีแรงขายทำกำไรบ้างต้นปีหน้า คาดว่าดัชนีจะชะลอตัว มีแรงเทขาย 1-2 สัปดาห์แรก ก่อนกลับมาซื้อช่วงไตร-มาส 4 หุ้นน่าจับตามอง คือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้าง ปิโตรเคมีภัณฑ์ พลังงาน เป็นต้น

นางสาวสุภากรณ์ สุจิรัตนวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นคึกคักวานนี้ เนื่องจากมีการเข้าลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน การลงทุนขณะนี้ จะมีหุ้นขนาดใหญ่เวียนกลุ่มสลับแรง เทขายเป็นระยะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่

ภาวะการลงทุนช่วงสิ้นปีนี้ แตก ต่างจากปี 2545 เห็นได้ชัด นักลงทุนส่วนใหญ่ปีนี้ กล้าจะลงทุนตลาดหุ้น และถือหุ้นข้ามปี สวนกระแสนักลง ทุนต่างชาติ ที่ปลายปีนี้เทขายตลอด เนื่องจากนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่ มั่นใจว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องปีหน้า ขณะที่ปีก่อนมีปัจจัยกังวลภาวะสงครามตะวันออก กลาง

กระทิงเดินหน้า 770 จุด

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดัชนีอาจ ปรับฐานบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรง กรอบความเคลื่อนไหวดัชนีวันสุดท้าย ปีนี้ คาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นยืน 770-775 จุดได้ และแนวรับ 746 จุด กล-ยุทธ์การลงทุน สามารถถือหุ้นข้ามปีได้ โดยเฉพาะหุ้นใหญ่

คาดว่าปีหน้า ดัชนีจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นยืนที่ 800-1,200 จุด สามารถลงทุนได้ในตลาดหุ้นอีก 1 ปี หลังจากนั้น ช่วงปลายปี 2547 ซึ่งเป็น ช่วงก่อนเลือกตั้งตลาดฯน่าจะผันผวน

ด้านนางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสต์ กล่าวว่า การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นสูง และหุ้นปตท. ปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากมีกองทุนซื้อ แรงซื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ และมีการหมุนเวียนกลุ่มเข้าลงทุน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติน่าจะเทขายมากกว่า

MEDIAS พุ่ง 1,120%

วานนี้ (30 ธ.ค.) หุ้นบริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ (MEDIAS) กลับเข้าซื้อขายกลุ่มบันเทิง หลังจากถูกห้ามซื้อขาย และย้ายไปหมดฟื้นฟูกิจการ (Rehabco) ตั้งแต่ปี 2543 ผลจากการที่บริษัททำแผนฟื้นฟูกิจการ จนทำ ให้บริษัทมีคุณสมบัติย้ายกลับสู่อุตสาหกรรมปกติได้

โดยราคาหุ้น MEDIAS เปิดตลาดวานนี้ 50 บาท เพิ่มขึ้น 45.90 บาท จาก 4.10 บาท พุ่ง 1,119.51% และหยุดนิ่งนานกว่าชั่วโมง ราคาหุ้นจึง ค่อย ๆ ปรับลดลงเรื่อย ๆ จนช่วงเช้า ปิดตลาด 42.65 บาท ก่อนที่ช่วงบ่าย ราคา วิ่งขึ้นลงทุนอยู่ที่ระดับดังกล่าว ก่อนปิดตลาดฯ 44 บาท เพิ่ม 39.90 บาท พุ่ง 973.17% มูลค่าซื้อขาย 44.78 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บล.ซีมิโก้ คาดปีหน้า MEDIAS จะกำไรสุทธิจากการดำเนิน งานปกติเพิ่ม 54% 9 เดือนแรกปีนี้ MEDIAS กำไรสุทธิ 267 ล้านบาท เป็น กำไรจากการดำเนินงานปกติ 187 ล้าน บาท และกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 80 บาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.