"ธุรกิจอสังหาฯ"ปีหน้าโตต่อเนื่องรายใหม่ต้องดีจริงแบงก์ยอมให้กู้


ผู้จัดการรายวัน(29 ธันวาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ไทยธนาคารย้ำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีหน้ายังโตได้ต่อเนื่อง ผลจากดอกเบี้ย ต่ำ ความต้องการยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการขยายตัวอาจชะลอความร้อนแรง เนื่อง จากราคาบ้านขยับสูงขึ้น เตือนผู้ประกอบการรายใหม่ หากไม่ดีจริงแบงก์ไม่ปล่อยกู้ให้

สำนักวิจัยและวางแผน ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ธุรกิจอสังหาริม-ทรัพย์จะยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณอุปทานที่อยู่อาศัยที่ยังทยอยเข้าสู่ตลาด รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ แต่อัตราการขยายตัวดังกล่าวอาจชะลอความร้อนแรงลงบ้าง เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มขยับสูงขึ้น เนื่อง จากการผลักภาระต้นทุนการก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการไปให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ แนวโน้มดอกเบี้ยระดับต่ำ จะเป็นเสมือนดาบสองคมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวคือ ระดับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้สูงขึ้น รวมทั้งเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่ได้รับการลดหย่อนจากภาครัฐ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคบางรายตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่อาจจะเกินกำลังซื้อปกติของตน ซึ่งจะกลายเป็นภาระหนักในอนาคต

นอกจากนี้สำนักวิจัยธนาคารไทยธนาคาร ยังแพร่บทความ "ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2547 กับการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ" ระบุว่า การฟื้นตัวอย่างชัดเจนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กระตุ้นผู้ประกอบการให้กลับมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น เห็นได้จากผู้ประกอบการพัฒนา ที่ดินรายเดิมเริ่มมีการพัฒนาโครงการเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่จากธุรกิจอื่นก็ทยอยเข้าสู่ธุรกิจ

ทั้งนี้ สำนักวิจัยฯ มีความเห็นว่าการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ครั้งนี้ คงจะไม่ง่ายเหมือนกับช่วงอสังหาริมทรัพย์ บูมŽ ในอดีต โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบัน การเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังในการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการ รายใหม่ ประกอบกับปัจจุบันสถาบันการเงินเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับผู้บริโภคมากกว่า เมื่อแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ยังมีจำกัด ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ต้องสร้างจุดแข็งเพื่อแข่งขันกับผู้ประกอบการรายเดิม นอกจากนี้ การที่กระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการการลดหย่อนภาษีธุรกิจเฉพาะที่ปรับลงจากอัตรา 3.3% เหลือ 0.11% เท่ากับว่ามาตรการนี้ต้องสิ้นสุดลง

สำหรับการปรับอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 0.11% กลับไปเก็บในอัตราเดิมที่ 3.3% ในเบื้องต้นจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากการปรับอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะกลับไปใช้ที่อัตราเดิม จะส่งผลกระทบให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 5% แต่ผู้ประกอบการสามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้ผู้บริโภคด้านการขึ้นราคาที่อยู่อาศัย ขณะที่มาตรการการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และการจดจำนองที่อัตรา 0.11% ตามลำดับ ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน จากกระทรวงมหาดไทย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.