เปิดโผ10ธุรกิจดาวเด่นปี47


ผู้จัดการรายวัน(26 ธันวาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

หอการค้าไทยเผยปีหน้ามี 10 ธุรกิจ ดาวเด่นที่จะได้รับผลดีจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวและนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล คาดจะทำกำไรและเติบโตอย่างเต็มที่ แถมได้รับแรงหนุนจาก ภาคประชาชนที่จะถอนเงินจากแบงก์มาใช้จ่าย มากขึ้น ชี้ท่องเที่ยว ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ อาหาร บันเทิง พลังงาน รับอานิสงส์ไปเต็มๆ พร้อม คาดเศรษฐกิจไทยปี 2547 โต 7.1-7.5% เพราะมี แรงหนุนเพียบ

วานนี้ (25 ธ.ค.) หอการค้าไทยได้ร่วมกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดการแถลงข่าวอุตสาหกรรมเด่นใน ปี 2547 และประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2546-2547

นายชาตรี เกื้อศิริกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้ทำการวิเคราะห์ อุตสาหกรรมที่จะมีผลประกอบการที่ดีในปี 2547 โดยพิจารณาจากความสำคัญที่มีต่อเศรษฐกิจ ผลประกอบการ ผลกำไร อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมจากปริมาณการจำหน่าย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิต รวมไปถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่ได้รับผลบวกจากการดำเนินนโยบายของรัฐ หรือได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินหรือภาคเอกชนอื่นๆ

ทั้งนี้ จากการพิจารณาภายใต้องค์ประกอบต่างๆ ข้างต้น พบว่าในปี 2547 ที่จะถึงนี้ มีอุตสาหกรรมเด่นๆ ถึง 10 อุตสาหกรรมที่จะมีแนวโน้มการขยายตัวในอัตราที่สูง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของภาครัฐที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และ เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ที่ส่งผลทำให้กำลังซื้อในภาคประชาชนขยายตัวดีขึ้น

สำหรับอุตสาหกรรมทั้ง 10 อุตสาหกรรม ได้แก่

1.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ดี โดยคาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณ 10.47% เพราะมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือ นโยบาย ของรัฐบาลที่กระตุ้นการท่องเที่ยวโดยผลักดันให้ไทย เป็น Tourism Capital of Asia และการเกิดขึ้นของสายการบินต้นทุนต่ำ ทำให้มีการขยายตัวท่องเที่ยวมากขึ้น

2.อุตสาหกรรมยานยนต์ มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีตลอดทั้งปี 2547 เพราะตลาดภายในประเทศยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็น Detroit of Asia ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ มีการย้ายฐานการผลิตมาไทยเพื่อผลิตส่งออกมากขึ้น

3.อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 10% โดยมีปัจจัยสำคัญสนับสนุน คือ ความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนยังคงมีสูง และนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างบ้านเอื้ออาทรให้ได้ 1 ล้านหน่วยภายในปีนี้

4.อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างเป็น อุตสาหกรรมที่ได้แรงสนับสนุนจากภาคอสังหา- ริมทรัพย์ ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่รัฐบาลยังมีโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง ใช้เงินหลายแสนล้านบาท และภาคอุตสาหกรรมยังมีการลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่เพิ่มขึ้น

5.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มขยาย ตัวได้ดี เพราะธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ยังคงขยายตัว และได้รับแรงผลักดันจากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้ภาครัฐและเอกชนหันมาใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น

6.อุตสาหกรรมอาหาร แนวโน้มขยายตัวดี เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยที่รัฐบาลสนับสนุนให้ไทยเป็นครัวของโลก ซึ่งจะทำให้ความต้องการสินค้าอาหารไทยมีมากขึ้นตามไปด้วย

7.อุตสาหกรรมบันเทิง เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากภาวะที่เศรษฐกิจขยายตัว เพราะหากคนมีเงินเพิ่ม การใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย และจะเลือกความบันเทิงมาเป็นลำดับต้นๆ ประกอบกับการแก้ไขปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ที่จริงจังมากขึ้น ทำให้สินค้าละเมิดลดลง และยังมีการผนวกธุรกิจเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การดาวน์โหลดเพลงใส่โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

8.อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ จะขยายตัวได้ดี เพราะรัฐบาลมีโครงการผลักดันไทย เป็นศูนย์กลางแฟชั่นโลก และโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น

9.อุตสาหกรรมพลังงาน ภายใต้นโยบายการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานในภูมิภาค จะทำให้ความต้องการใช้พลังงานมีมากขึ้น จากการที่อุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น

10.อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพ จะเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มสดใส หลังจากที่รัฐบาลได้มุ่งสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจโรงพยาบาล และสปาแห่งเอเชีย ประกอบกับธุรกิจ โรงพยาบาลไทยมีมาตรฐานสูง ธุรกิจด้านสปามีความเชี่ยวชาญและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้มาใช้บริการ และยังได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้มีการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ในปี 2547 คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัวอย่างแน่นอน และภาวะอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ ส่งผลให้ประชาชนจะหาช่องทางในการลงทุนหรือการออม ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคาร หรือนำเงินไปบริโภคสินค้า เนื่องจากเห็นว่าการบริโภคในปัจจุบันมีราคาไม่สูงมากนัก และคุ้มค่ากว่าการนำเงินไปฝากกับธนาคาร

สำหรับธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์และจะมี ผลประกอบการที่ดีขึ้น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจที่มีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจใหม่ เช่น ธุรกิจโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์และบริการทางคอมพิวเตอร์ กลุ่มธุรกิจที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เช่น ท่องเที่ยว ยานยนต์ แฟชั่น ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มธุรกิจ ที่ผู้บริโภคสามารถใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ เช่น อสังหาริมทรัพย์ เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง ยานพาหนะ และเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มเกี่ยวกับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนลงทุนสูงกว่าฝากเงิน เช่น ประกันภัยและประกันชีวิต ธุรกิจในตลาด หลักทรัพย์ หุ้นกู้ และสหกรณ์

นายธนวรรธน์กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2547 คาดว่าจะยังคงขยายตัว อย่างต่อเนื่องจากปี 2546 และมีความมั่นใจว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะอยู่ในระดับ 7.1-7.5% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เศรษฐกิจโลกขยายตัว 4.1% ปริมาณการค้าเพิ่มขึ้น 5.5% ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก อัตราดอกเบี้ยต่ำที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน นโยบายของรัฐบาลที่ใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสำรองงบกลางเพิ่มอีก 1.3 แสนล้านบาท และการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนจะเข้ามาช่วยเสริมมากขึ้น ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้หนี้ภาครัฐและเอกชนผ่อนคลายลง ทำให้เกิดสภาพคล่องในธุรกิจ ทั้งนี้ หากรัฐบาลกระตุ้นให้หนักขึ้น ก็เป็นไปได้ที่อัตราการเติบโตจะถึง 8%

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจไทยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ปัจจัยภายนอกยังมีความไม่แน่นอนสูง ในเรื่องความไม่สมดุลทางการค้าของสหรัฐฯกับจีน อาจทำให้จีนปรับค่าเงินหยวนตามแรงกดดันได้ รวมทั้งปัญหาความผันผวนจากราคาน้ำมัน และปัญหาความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในภูมิภาค ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้

นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความเห็น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อตลาดหลักทรัพย์ไทยว่า ในปี 2547 ดัชนีที่นักลงทุน คาดการณ์จะปรับตัวขึ้นสูงถึง 818.25 จุด โดยเห็นว่าปัจจัยที่มีผลทำให้ดัชนีเพิ่มขึ้น คือ เศรษฐกิจไทย ความมั่นคงของรัฐบาล นโยบายของรัฐบาล และการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ พร้อมกันนี้ นักลงทุนยังได้ให้ข้อเสนอแนะว่าถ้าต้องการให้ตลาดมีความมั่นคง ข้อมูลต้องโปร่งใส ขจัดข่าวลือ ขจัดปัญหาการปั่นหุ้น และนโยบายของรัฐบาลต้องชัดเจน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.