แปซิฟิคปากแข็งยืนยันไร้ผลกระทบ กรณีกองทัพบกไม่ต่อสัญญาผลิตข่าวทางวิทยุ เผยแปซิฟิคเพิ่งปรับองค์กร
โยกฝ่ายข่าววิทยุและโทรทัศน์มารวมกันเพียงฝ่ายเดียว กองทัพบกเล็งสร้างศูนย์ห้องส่งใหม่
เตรียมลุยต้นปีหน้า เผยทีมงานแปซิฟิค บางส่วนเตรียมเข้าร่วมชายคากองทัพบก ช่วงแรกยังคงรูปแบบ
เดิม
แหล่งข่าวจากบริษัท แปซิฟิค คอมมูนิเคชั่น กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน"
ถึงกรณีที่กองทัพบกจะทำการผลิตข่าว ต้นชั่วโมงทางวิทยุเองว่า เรื่อง ดังกล่าว คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแปซิฟิค
เนื่องจาก ว่าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาทางแปซิฟิคได้เข้าไปจัดการและพัฒนาระบบการทำงานจนเป็นที่ยอมรับของวงการข่าว
และการที่ไม่ได้ต่อสัญญานี้ทางบริษัทฯคงต้องกลับมาวางแผนใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนที่ จะมีการเปลี่ยนแปลงแบบสายฟ้าแลบเกิดขึ้นกับทางแปซิฟิคนี้
ความเคลื่อนไหวภายในองค์กรก็มีการ เปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเช่นกันคือ ทางแปซิฟิคฯได้มีการปรับองค์กรโดยนำเอาทีมงานทางด้านฝ่ายธุรกิจข่าววิทยุกับโทรทัศน์มารวมกันเป็นฝ่ายเดียวกัน
เพื่อให้การประสานงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ภายใต้การดูแลของนางสาวจิระพรรณ
อินทเส ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายรายการวิทยุและโทรทัศน์ และจะมีระดับรองและผู้ช่วยกระจาย
ลงไป จากเดิมที่แต่ละฝ่ายข่าวจะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้ตำแหน่งประธานกรรมการบริหารยังคงเป็นปีย์
มาลากุล ณ อยุธยา เหมือนเดิม รวมบุคลากรขณะนี้ประมาณ 200 คน
แหล่งข่าวจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน"
ว่า ขณะนี้ทางสถานีฯอยู่ระหว่างการจัดตั้งทีมงานใหม่เพื่อรองรับการผลิตรายการข่าวต้นชั่วโมงเองทางวิทยุของกองทัพบกในปีหน้า
ซึ่งขณะนี้มีทีมงานแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีอดีตผู้ที่เคยร่วมงานอยู่กับกลุ่มแปซิฟิคฯ
เข้ามาร่วมงานด้วยเช่น นางสาวปานชนก พาทีทิน นางสาวขวัญชนก เจริญพฤกไพศาล เป็นต้น
และคาดว่าจะยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงความสนใจที่จะเข้ามาร่วมงานด้วย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ขณะเดียวกันยังรวมกับทีมงานข่าวโทรทัศน์ของช่อง 5 อีกกว่า 40 ทีมที่จะเข้ามาช่วยเสริมการทำงานให้กันและกัน
นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการวางแผนที่จะก่อสร้างศูนย์วิทยุใหม่ที่ช่อง 5 เดิมนี้
เพื่อใช้เป็นฐานในการออกอากาศข่าววิทยุ อู่ระหว่างการจัดเตรียมทั้งการออกแบบ การประเมินราคาค่าก่อสร้าง
และการเคลียร์พื้นที่ คาดว่าคงใช้พื้นที่ไม่มาก คาดว่าอีกประมาณ 2 เดือนจึงจะเสร็จเรียบร้อย
ซึ่งในช่วงแรกนี้คงต้องใช้ห้องส่งชั่วคราวของช่อง 5 ไปก่อนระยะหนึ่ง ในการดำเนินรายการร่วมกับทางทีมงานของศูนย์ข่าวแปซิฟิคที่ยังคงทำอยู่จนกระทั่งถึงสิ้นปีนี้
โดยรูปแบบการดำเนินรายการข่าวต้นชั่วโมงนั้น คาดว่าในช่วงระยะแรกยังคงดำเนินการในรูปแบบเดียวกับที่ทางแปซิฟิคเคยทำเอาไว้
คือ มีวันละจำนวน 13 เบรก เบรกละประมาณ 5 นาที ซึ่งจะมีการออกอากาศในเครือข่ายวิทยุของกองทัพบกจำนวน
126 สถานี แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำรายการข่าวหรือไม่นั้นคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารระดับสูงว่าจะทำอย่าไร
ล่าสุดนี้ทางศูนย์ข่าวแปซิฟิคฯชี้แจงว่า ศูนย์ข่าวแปซิฟิคฯได้รับทราบนโยบายของกองทัพบกล่วงหน้าเพียง
1 เดือน เท่านั้นว่า กองทัพบกจะเข้ามาผลิตข่าวต้นชั่วโมงเองแต่มีความรู้สึกยินดีที่กองทัพบกสามารถพัฒนาจนสามารถที่จะผลิตข่าวได้เองและได้ตั้งเป้าหมายที่จะถือประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นเป็นหลักในการทำงาน
เช่นเดียวกัน ศูนย์ข่าวแปซิฟิค ก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนด้วยเกียรติ
และความรับผิดชอบถึงวันสุดท้ายคือ วันที่ 31 ธันวาคม 2546