SCBเป้าผู้นำรายย่อย ยันศักยภาพพร้อมรบ


ผู้จัดการรายวัน(24 ธันวาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

"วิชิต" ตั้งเป้าแบงก์ไทยพาณิชย์ (SCB) รุกขยายการลงทุนธุรกิจครบวงจรปีหน้า หวังเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจร (ยูนิเวอร์แซลแบงกิ้ง) ทุ่ม 2,000 ล้านบาทปรับปรุงสาขา ด้วยการปรับกลยุทธ์ของกลุ่มในเครือ เพื่อจัดกระบวนทัพด้านวาณิชธนกิจเต็มรูปแบบ มุ่งสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่เข้มแข็ง ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูก ค้ารายย่อยเป็น 40% ใน 3 ปี โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำให้บริการลูกค้ารายย่อย พร้อมบริหารธุรกิจสมัยใหม่ บริหารความเสี่ยงแบบใหม่ และกลยุทธ์บริการที่เพิ่มประสิทธิภาพ มากขึ้น ชี้ปีหน้าธุรกิจธนาคารจะแข่งขันกันมากขึ้น ด้าน "คุณหญิงชฎา" คาดปี 47 อัตรา เติบโตธุรกิจแบงก์ใบโพธิ์ขยายประมาณ 10% มากกว่าจีดีพีไทย ตั้งเป้าลดหนี้เน่าปีหน้า 2 หมื่นล้านบาท

ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดตัวสาขารูปแบบใหม่ที่สยามสแควร์เป็นทางการวานนี้ (23 ธ.ค.) เป็นสาขาที่ปรับปรุงเพิ่มพื้นที่ให้บริการลูกค้า เนื่องจากสาขาดังกล่าว ลูกค้า ใช้บริการหนาแน่น โดยช่วงปีที่ผ่าน มาปรับปรุงสาขาไปแล้ว 116 แห่ง คาดว่าสิ้นปีนี้ จะปรับปรุงได้ 130 สาขา ภายใน 2 ปี จะเสร็จ 500 สาขา โดยใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธาน กรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคาร มีแผนจะเพิ่มทั้งธุรกิจและสร้างคน โดยจะขยาย การลงทุนไปธุรกิจที่ครบวงจรมากขึ้น (Universal Banking) อย่างแท้จริง โดยมีธุรกิจที่เกี่ยว ข้องกับธุรกิจแบงก์ครบวงจร และมีนโยบายชัดเจน จะถือหุ้นบริษัทในเครือให้มากที่สุด เพื่อ ให้มีบทบาทกำหนดนโยบาย และมีความรับผิดชอบชัดเจน

นายวิชิตกล่าวว่าธนาคารวางนโยบายมุ่งสู่การเป็นยูนิเวอร์แซลแบงกิ้ง ด้วยการปรับปรุงเครือข่ายที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อให้บริการการเงินครบวงจร โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) กลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Banking) และกลุ่มวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ซึ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธนาคารปรับปรุงระบบของธนาคารด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าครบ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของธนาคาร

เขากล่าวว่าธนาคารมีเป้าหมายว่า ภายใน 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้ารายย่อยที่ปัจจุบัน มีอยู่ 26% เป็น 40% เนื่องจากธนาคารเชื่อว่า กลุ่มลูกค้ารายย่อยจะเป็นกลุ่มที่สร้างความมั่น คงให้กับธนาคารมากกว่าลูกค้ารายใหญ่ เพราะจากวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา ธนาคารพบว่าลูกค้า รายใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจที่ไม่มีเสถียรภาพ

เป้าโต 10% ปีหน้า

ทางด้านคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าช่วงปีที่ผ่านมา ธนาคารประสบความสำเร็จทำธุรกิจใหม่ๆ เช่น ประกันชีวิต เสนอบริการลูกค้า บุคคล ประเภทหุ้น ตราสารหนี้ และกองทุน ต่าง ๆ คาดว่าแนวโน้มสิ้นปี สินเชื่อจะขยายตัวประมาณ 4% เงินฝากขยายตัว 7.4% ธุรกิจลูก ค้าบุคคล ธนาคารมีส่วนแบ่งตลาด 27% ซึ่งอนาคต จะเพิ่มเป็น 40%

คุณหญิงชฎากล่าวว่าปีหน้า ธนาคารคาดว่าการขยายตัวธุรกิจของธนาคารจะอยู่ที่ 10% จากปีนี้ เป็นเงิน 4.8 หมื่นล้านบาท ของยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคาร ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.8 แสน ล้านบาท สูงกว่าอัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทย ที่รัฐบาลตั้งเป้าที่ประมาณ 8% ทั้งนี้จะเป็นการเติบโตลูกค้ารายย่อย 20% และลูกค้ารายใหญ่ 14-15%

สำหรับผลประกอบการธนาคารปีนี้ คาดว่าแนวโน้มสินเชื่อจะขยายตัวใกล้เคียงเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ สัดส่วน 4% หรือ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ด้านเงินฝาก ขยายตัว 7.3-7.4% ทั้งนี้ ธนาคาร พยายามหาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อให้บริการลูกค้า

ด้านเงินฝากที่ขยายตัวค่อนข้างมาก เพราะ ธนาคารพยายามส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ อื่นๆ ของธนาคาร เพื่อสร้างรายได้จากค่าธรรม-เนียม โดยธนาคารตั้งเป้าปี 2547 เพิ่มเป็น 40% จากปีนี้ ที่มีสัดส่วน 30% ของรายได้รวมของธนาคาร รายได้ที่เพิ่มขึ้นปีหน้า จะมาจากกำไรจาก การขายสินทรัพย์เน่า (NPA) กำไรจากการขายตราสารหนี้ ตราสารทุน ซึ่งสร้างรายได้ให้ธนาคาร จำนวนมาก

"อัตราเติบโตธุรกิจโดยรวมของธนาคารปีหน้า ที่สุทธิแล้วมีการขยายตัว 10% ขณะเดียวกัน เป็นการเติบโตจากลูกค้ารายย่อย 20% และลูกค้ารายใหญ่ 14-15% ที่ตัวเลขออกมาเป็น 10% ก็เพราะหนี้ที่มีปัญหาในปีหน้า จะถูกตัดออกจาก บัญชีของธนาคารอย่างถาวร ทำให้ตัวเลขโดยรวมลดลง" คุณหญิงชฎา กล่าว

มั่นใจดอกเบี้ยปีหน้ายังไม่ขยับ

คุณหญิงชฎากล่าวถึงแนวโน้มดอกเบี้ยของ ธนาคารพาณิชย์ปีหน้า ว่ายังไม่น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ หากดูจากปัจจัยภายใน ซึ่งได้แก่ ดุลบัญชี เดินสะพัดของไทยที่ยังเกินดุล การส่งออกที่ดี แสดงให้เห็นว่ามีเงินต่างประเทศไหลเข้า ส่วนสินเชื่อและเงินฝาก ปัจจุบัน ยังมีส่วนเกินเงินฝาก แม้ธนาคารจะพยายามปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และ ประการสุดท้าย ความมั่งคั่งจากราคาสินทรัพย์ดีขึ้น เช่น ราคาที่ดิน ทำให้คนมีรายได้ มีการใช้จ่าย ปัจจัยทั้ง 3 สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดเงินไทย ยังมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ ส่วนปัจจัยต่าง-ประเทศ เริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยมะกันปีหน้า ทำให้เธอมั่น ใจว่า ดอกเบี้ยไทยไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมาก

"ถ้าเป็นภาวะปกติ ก็ไม่น่าจะมีการขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยในไทย แต่ก็ต้องระวัง เพราะหากดูอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว ดังนั้น ก็อาจจะทำให้ดอกเบี้ยขึ้นได้เล็ก น้อย" คุณหญิงชฎากล่าว

ตั้งเป้าลด NPL ปีหน้า 20,000 ล้าน

คุณหญิงชฎากล่าวว่า ธนาคารน่าจะลดหนี้ NPL ได้อย่างน้อย 20,000 ล้านบาทปีหน้า ซึ่งเป็น การปรับลดลงโดยธนาคารเองเพราะภาวะเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น ทำให้มีโอกาสที่ NPL จะได้รับการ แก้ไขมากกว่าอดีต ซึ่งปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่ทุกธนาคาร รวมถึงธนาคารไทยพาณิชย์ แก้ปัญหา NPL ได้แบบยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ปีหน้า หากรัฐบาลออก มาตรการรับซื้อหนี้ จะทำให้หนี้ NPL ออกจากบัญชีธนาคารได้ ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ธนาคารจะได้ใช้ประโยชน์

"การแก้หนี้ NPL ในปีหน้า จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นมาตรการของรัฐบาล กับส่วนที่ธนาคารทำเอง เพราะธนาคารก็มีพนักงาน และมีระบบงานที่เข้าถึงลูกค้า ทำให้การแก้ปัญหามีความเข้มข้นขึ้น สำหรับจำนวนที่อยากลด ซึ่งธนาคารก็อยากลดให้มากที่สุด ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับโครงการของรัฐ ว่าจะเอื้อในทางปฏิบัติได้แค่ไหน" คุณหญิงชฎากล่าว

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าปีหน้า ธนาคารจะรุกลูกค้ารายย่อยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ธนาคารมีฐานลูกค้า 6-7 ล้านคน ซึ่งถือ เป็นโอกาสที่จะขยายได้มาก ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 1 ของตลาด ส่วนแบ่ง 27% รวมถึงจะรุกตลาดธุรกิจบัตรเครดิตเต็มที่



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.