แม้การจัดงานแถลงข่าวจะเป็นกิจกรรมที่ทำประจำจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่เมื่อต้องแถลงข่าวเปิดวิสัยทัศน์ในปี
2546
ท่ามกลางสื่อมวลชน คู่ค้า และพันธมิตรกว่า 300 ราย
เอไอเอสจึงต้องจัดให้ดูยิ่งใหญ่และแตกต่างไปจากรูปแบบเดิมๆ
BEC Tero Hall ในบริเวณสวนลุม ไนท์ พลาซ่า ถูกเลือกสำหรับงานแถลงข่าวโดยว่าจ้าง
124 คอมมูนิเคชั่นส์ เป็น organizer จัดงานด้วยงบประมาณ 4 ล้านบาท
เป็นความตั้งใจที่เอไอเอสใช้บอกเล่าถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงจากการเป็น
Mobile Operator ไปสู่ Wireless Service Provider ที่ไม่ใช่แค่บริการด้านเสียงเท่านั้น
แต่เป็นบริการ Wireless Service ที่นำเทคโนโลยีไร้สายมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันอย่างแนบแน่น
รูปแบบการจัดงานครั้งนี้จึงต้องสะท้อนกับทิศทางดังกล่าว และลงในรายละเอียดมากขึ้น
ตั้งแต่การ์ดเชิญ บริเวณทางเดินไปจนกระทั่งเวที หรือแม้แต่ชุดสูทที่ผู้บริหารทั้ง
4 สวมใส่ ภายใต้แนวคิด Tomorrow Society Wireless Society
ผู้บริหารระดับสูงทั้ง 4 นำโดย สมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการผู้อำนวยการ วิเชียร เมฆตระการ รองกรรมการผู้อำนวยการ
สายงานปฏิบัติการเครือข่าย และกฤษณัน งามผาติพงษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ
สายงานการตลาด สลับกันขึ้นเวทีที่ทำเป็นรูปวงกลม ในชุดเสื้อสูทพระราชทานสีดำ
ที่ดูเคร่งขรึม และลึกลับแต่ก็โดดเด่นเมื่อยืนบนเวทีท่ามกลาง สปอตไลต์ที่สาดแสงลงมาตลอดเวลา
ไฮไลต์ของงานในวันนั้นอยู่ที่เนื้อหา ที่ผู้บริหารทั้ง 4 ผลัดกันมาฉายภาพธุรกิจ
ระบุถึงตลาดจะเริ่มอิ่มตัว การเติบโตจะมีเพียงแค่ 3 ล้านเลขหมาย หลังจากที่ขยาย
ตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 ที่มีเพียงแค่ 2 ล้านเลขหมาย ถัดมาเพียงแค่
4 ปี มียอดผู้ใช้ 22 ล้านคน
การลงทุนของเอไอเอสมุ่งไปที่บริการ Wireless Service ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ดูเหมือนว่า จะตั้งใจส่งไปถึงคู่แข่งอย่างดีแทค ที่หันมาให้ความสำคัญในเรื่องของ
network ที่ Co-CEO ลงทุนเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา
"ไดเรกชั่นในอนาคต จึงต้องมุ่งไปที่การลงทุนขั้นที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องของ
Wireless Service ให้มากขึ้น หากยังมุ่งลงทุนอยู่แค่เครือข่ายที่ครอบคลุมและคุณภาพเครือข่าย
แสดงว่าการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในโมเดลเดิม" งานในวันนั้น ผู้บริหารของเอไอเอส
ยังระบุถึงการนำเครือข่ายสื่อสารไร้สายของเอไอเอสมาใช้เป็นพื้นฐานต่อเชื่อมผู้บริโภค
เข้ากับอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการบิน การเงิน โฆษณา บันเทิง ขนส่งและสุขภาพ
ทั้งหมดนี้คือเป้าหมายของธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่จะเกิดขึ้นในปี 2004 และการเป็นเครือข่ายสื่อสาร
รองรับกับเครือข่ายธุรกิจของกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต