ไตรภพ ลิมปพัทธ์ "Role Model"


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวไอทีวีจับมือไตรภพ ลิมปพัทธ์และกันตนากรุ๊ป 2 ยักษ์ใหญ่ทางด้านเกมโชว์และละคร เป็น Strategic Partner ที่เพิ่มศักยภาพให้กับสถานี นอกเหนือจากจุดแข็งด้านรายการข่าว นับว่าเป็นการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญในวงการโทรทัศน์เมืองไทยเลยทีเดียว

หลายคนไม่คาดคิดว่า ไตรภพ ลิมปพัทธ์ เจ้าของบริษัทบอร์น ออพเปอเรชั่น ที่ทำรายการป้อนให้กับช่อง 3 มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 นั้นจะจับมือลาประวิทย์ มาลีนนท์ บุคคลที่เขาเรียกว่า "นาย" ด้วยความเคารพมาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ด้วยไมตรีจิตชนิดไม่มีอะไรขุ่นขึ้งกันเลยแม้แต่น้อย ตามถ้อยคำที่เขาเพียรให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อ เพราะการ "จาก" กันครั้งนี้หมายถึงว่า ทุกรายการของไตรภพต้องหลุดจากผังรายการของช่อง 3 ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2547 เป็นต้นไป และจากคำพูดที่ว่า "ไปเพื่ออนาคตที่ดีกว่า" ของไตรภพเอง

ต้องยอมรับว่าปีนี้หลายรายการของบอร์นฯ ค่อนข้างแผ่วลงซึ่งอาจจะส่งผลให้บทบาทของเขาที่มีต่อ "นาย" น้อยลงบ้าง ความน้อยอกน้อยใจเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เขา ก้าวไปเกี่ยวก้อยกับไอทีวีอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยสนใจเข้าไปถือหุ้นก่อนที่จะถอยออกมาด้วยเหตุผลที่ว่า "มันวุ่นวายนัก และไม่ลงตัว"

อนาคตที่ดีของไตรภพคือ เข้าไปเป็นผู้บริหารและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับไอทีวี ซึ่งแน่นอน เขาจะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในสังคมไทยมากยิ่งขึ้นไปกว่าการเป็นเพียงเจ้าของรายการทางทีวีช่อง 3 หรืออาจจะหมายรวมไปถึงการก้าวไปสู่เส้นทางการเมืองภายใต้ร่มเงาของพรรคไทยรักไทยในอนาคต เพราะแม้ในเวลานี้เขาจะยืนยันว่าไม่เล่นการเมือง แต่เขาเคยทิ้งท้ายไว้กับ "ผู้จัดการ" ว่า "เป็นเรื่องของอนาคตและหากถึงเวลาที่ชาติต้องการ"

ส่วนสายสัมพันธ์ของกันตนากรุ๊ปกับช่อง 7 สี อาจจะไม่ได้รับผลกระทบนัก เพราะรายการยอดนิยมที่กันตนาผลิตป้อนให้กับช่อง 7 สีถึง 40 เปอร์เซ็นต์นั้นยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดิม เพียงแต่รายการที่ป้อนให้กับช่อง 9 ช่อง 5 ต้องโยกมาลงที่ไอทีวี

แต่ผู้แฮปปี้ที่สุดสำหรับดีลใหญ่ครั้งนี้คือ "ชินคอร์ป" เพราะสามารถเอาธุรกิจบันเทิงมาต่อยอดกับธุรกิจที่มีอยู่ในด้านคอนเทนต์สำหรับบริษัทในเครือ เช่น การผลิตรายการให้สถานี, เนื้อหาสำหรับบริการมือถือของเอไอเอส หรือแม้แต่เนื้อหาสำหรับ บรอดแบนด์ของไอพีสตาร์

บุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่าเป็นการพัฒนาทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมให้เพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านล้านบาท เพิ่มกลุ่ม user ให้ได้ถึง 20 ล้านคน จากธุรกิจของเครือทั้งหมด ซึ่งมันหมายถึงว่าเป็นการครอบคลุมเกือบ 1 ใน 3 ของคนทั้งประเทศเป็นเป้าหมายพื้นฐานก่อนหวังกำไร

ภาพเบื้องหน้าที่เห็นเป็นการจับมือแบบพันธมิตรร่วมทุน (Strategic Partner) ของ 3 บริษัท กับ 1 คนของมหาชน เพื่อความแข็งแกร่งของสถานีข่าวและสาระบันเทิงครบวงจร ภาพเบื้องหลังจึงเป็น big move และงานหนักในปีหน้าของใครหลายๆ คน ในวงการทีวีเมืองไทย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.