วิบากกรรมเศรษฐีรัสเซีย


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อ 1 ใน 2 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย มีอันต้องระเห็จเข้าไปอยู่ในคุก อีกคนที่เหลือจะทำอย่างไร

ตอนนี้ Roman Abramovich มหาเศรษฐีน้ำมันของรัสเซียและผู้ว่าราชการจังหวัด Chukotka ในขั้วโลกเหนือ ซึ่งมีวัยเพียง 37 ปี ก็ได้ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย (5.7 พันล้านดอลลาร์) ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ Mikhail Khodorkovsky มหาเศรษฐีน้ำมันที่เคยร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย (8 พันล้านดอลลาร์ก่อนจะลดลง 40% ในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน Yukos วัย 40 ปีถูกจับขังคุกด้วยข้อหาโกงและเลี่ยงภาษี ทั้งคู่ต่างไต่เต้าขึ้นมาจากดินเหมือนกันและต่างก็สบโอกาสร่ำรวยอย่างมหาศาล ในยุคแห่งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบมาพากลของรัสเซียในช่วงต้นทศวรรษ 1990

แต่นอกจาก Abramovich จะไม่ปลื้มแล้ว ดูเหมือนจะมีคนเห็นเขานั่งอยู่ที่สนามกีฬา Stamford Bridge ขนาด 42,000 ที่นั่งในกรุงลอนดอน เพื่อเชียร์ทีมฟุตบอล Chelsea ที่เขาซื้อมา ขณะลงเล่นใน Premiership มากกว่าเห็นเขาที่รัสเซียเสียอีก

คงไม่แปลกที่ Abramovich อาจกำลังคิดอพยพไปอยู่ในลอนดอน หลังจากที่ Khodorkovsky หนีวิบากกรรมไม่พ้นถูกทางการรัสเซียจับขังคุกหมดอนาคตอยู่ในขณะนี้ ด้วยข้อหาโกงและเลี่ยงภาษี ท่ามกลางเสียงครหาหนาหูว่าเป็นการกำจัดศัตรูการเมืองของประธานาธิบดี Vladimir Putin

ก่อนหน้าที่จะถูกเล่นงาน Khodorkovsky แสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับ Putin อย่างโจ่งแจ้ง เขาไม่พอใจ และประท้วงการที่รัฐบาลรัสเซียมีแนวโน้มในการใช้อำนาจเผด็จการ อำนาจบาตรใหญ่รวมทั้งการคอร์รัปชั่นมากขึ้น ด้วยการทุ่มเงินสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านหลายพรรค จนทำให้ใครๆ สงสัยว่าเขากำลังคิดทะเยอทะยานถึงตำแหน่งประธานาธิบดี

ส่วน Abramovich อาจจะมีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาเคยคิดว่าตัวเขาเป็นที่โปรดปรานของรัฐบาล เพราะเขาพยายามทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อเอาอกเอกใจรัฐบาล เช่น การซื้อช่องโทรทัศน์ ORT ด้วยเงิน 150 ล้านดอลลาร์จาก Boris Berezovsky ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนของ Putin แต่ปัจจุบันเป็นศัตรูตัวฉกาจ แล้วยกให้เป็นของรัฐ นอกจากนี้ Abramovich ยังสู้อุตส่าห์ใช้เงินส่วนตัวหลายร้อยล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในจังหวัด Chukotka อันห่างไกลความเจริญที่เขาเป็นผู้ว่าฯ อยู่ ทำให้ชาวเมืองนั้นมีโทรทัศน์ของรัฐดูเป็นครั้งแรก มีซูเปอร์มาร์เก็ตที่ทันสมัยแห่งแรก รวมทั้งได้สัมผัสโรงหนัง โรงคอนเสิร์ตและลานสเกตน้ำแข็งในร่มเป็นครั้งแรก

แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้ Alexei Kudrin รัฐมนตรีคลังรัสเซียกลับกล่าวต่อ Abramovich อย่างมะนาวไม่มีน้ำว่า เงินที่จะใช้ปรับปรุงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาว Chukotka ควรจะมาจากงบประมาณของรัฐ มากกว่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากการที่ธุรกิจของเขาได้รับการยกเว้นภาษี ตามกฎหมายยกเว้นภาษีให้แก่จังหวัดต่างๆ

เท่านั้นยังไม่พอ ในเวลาไล่ๆ กับที่เขายังมึนไม่หายกับคำพูดเย็นชาของ Kudrin ทางการรัสเซียก็สั่งสอบบัญชีและภาษีของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ชื่อ Sibneft ของเขา ขณะเดียวกันศาลมอสโก ก็ประทับรับฟ้องคดีเกี่ยวกับการรวมกิจการของบริษัท Yukos ของ Khodorkovsky กับ Sibneft ส่วนสภา Duma หรือสภาล่างของรัสเซียก็ผ่านกฎหมายใหม่ให้อำนาจรัฐบาลมากขึ้น ในการขึ้นภาษีส่งออกน้ำมันและยกเลิกการนิรโทษกรรมภาษี และสุดท้ายรัฐบาลยังได้เพิกถอนการยกเว้นภาษีให้แก่จังหวัดต่างๆ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ผลกระทบของการถูกฟ้องศาล การขึ้นภาษีและการถูกยกเลิกการยกเว้นภาษีทั้งหมดนี้ อาจทำให้บริษัทของเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 650 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรืออาจถึงกับล่มสลายไปเลย

เพียงเท่านี้ก็คงจะทำให้ Abramovich เริ่มสำเหนียกแล้วว่า วิบากกรรมคงจะตามมาถึงตัวเขาในวันหนึ่ง และเขาอาจประสบชะตากรรมไม่ต่างจาก Khodorkovsky เขาจึงเริ่มทะยอยขายทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว เริ่มจากหุ้นใน Sibneft ขายให้แก่ Yukos 3 พันล้านดอลลาร์ (แถมได้หุ้น 26% ของ บริษัทใหม่ที่เกิดจากการรวมกิจการระหว่าง Yukos กับ Sibneft ด้วย) และขายหุ้นครึ่งหนึ่งของเขาที่มีอยู่ 50% ในบริษัท RusA1 ซึ่งเป็นบริษัทอะลูมิเนียมผูกขาด รวมทั้งหุ้นของเขาในสายการบิน Aeroflot fh;p

ขณะเดียวกัน เขาก็เริ่มซื้อทรัพย์สินในอังกฤษ เริ่มจากเดือนกรกฎาคมซื้อทีม Chelsea ด้วยเงิน 230 ล้านดอลลาร์ และซื้อนักเตะใหม่ๆ อีก 190 ล้านดอลลาร์ 4 เดือนต่อมา เขาซื้อบ้าน 6 ชั้นใน Belgravia ในลอนดอนด้วยเงิน 48 ล้านดอลลาร์ จากที่มีบ้านราคา 20 ล้านอยู่แล้วใน West Sussex ในอังกฤษ และยังมีบ้านอีกหลังที่ St.Tropez ในฝรั่งเศส ล่าสุด Abramovich ถึงกับได้รับการจัดอันดับโดยหนังสือพิมพ์ Sunday Times ว่าเป็นผู้ที่มีรายได้สูงสุดในอังกฤษในปี 2003 คือ 960 ล้านดอลลาร์ คนสนิทของเขายังแอบกระซิบว่า เฉพาะปีนี้ Abramovich ได้เงินถึง 5 พันล้าน ดอลลาร์จากการขายทรัพย์สินบางส่วนในรัสเซีย

ล่าสุด Abramovich ก็ยังคงมีอารมณ์ที่จะขายต่อไป โดยเขาเพิ่งขายหุ้นอีก 37.5% ในบริษัทรถยนต์ Ruspromavto ไปอีก แต่ Abramovich จะถึงขั้นยอมแลกตำแหน่งเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดใน รัสเซียและตำแหน่งผู้ว่าฯ ไปเป็น "ท่านเซอร์" ในอังกฤษหรือไม่ ก็เห็นจะขึ้นกับความใจกว้างของ Putin ว่าจะยอมให้ Abramovich ขนเงินออกจากรัสเซียไปได้อีกกี่มากน้อย และความเมตตาของ Putin ที่จะยอมให้มีเศรษฐี "ผู้อยู่ในโอวาท" ในรัสเซียได้สักกี่คน

แปลและเรียบเรียงจาก
>> Time, December 1, 2003
โดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.