SSN และ TAC…สองหุ้นจำยอม "โอกาสเปิดเมื่อไร ก็จะไปเมื่อนั้น"


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

SSN หรือ บมจ.สินทรัพย์นคร ซึ่งประกอบธุรกิจบ้านจัดสรร ทุนจดทะเบียน 430 ล้านบาท เป็นหุ้นตัวแรกที่เข้ามาประเดิม BSDC โดยเข้ามาซื้อขายเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2538 เพราะความพลาดหวังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ประเด็นสำคัญที่ทำให้ SSN ไม่อาจฝ่ากำแพงตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าไปได้ก็คือ คณะกรรมการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่เชื่อว่า SSN จะมีผลประกอบการได้ดังที่ระบุไว้ในประมาณการทางการเงิน

เนื่องจากในอดีต SSN เคยทำแต่โครงการบ้านจัดสรรมูลค่าการลงทุน 300-600 ล้านบาท แต่โครงการที่จะเป็นแหล่งรายได้ในอนาคตอันใกล้มีมูลค่าการลงทุนถึงกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ SSN คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาสูงกว่าในอดีตมาก

ทว่าเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ข้อพิสูจน์ต่างๆ จึงต้องรอเวลา SSN จึงต้องมาตั้งหลักพิสูจน์ตัวเองที่ BSDC ก่อน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นที่ทำ IPO ไปแล้ว

ราคาหุ้นของ SSN เมื่อตอนทำ IPO อยู่ที่ 49 บาท ทว่าเมื่อเข้าซื้อขายใน BSDC เพียงวันแรกก็อยู่ที่ 36 บาท และหลังจากนั้นก็ไต่ระดับที่ 30 บาทต้นๆ จนมายืนอยู่ที่ระดับประมาณ 20 บาทในกลางเดือนมกราคม สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่น้อย แม้ว่าจะมีระบบ MARKET MAKER มาช่วยแล้วก็ตาม

จึงไม่น่าแปลกใจที่มีข่าวเสมอๆ ว่าผู้บริหาร SSN ยังหวังนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ ทั้งนี้ก็เพราะอาจช่วยเพิ่มราคาหุ้นได้บ้างและที่สำคัญก็คือดึงศักดิ์ศรีของบริษัทให้กลับคืนมา

ส่วน TAC หรือ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น มี บมจ. ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัส ตรี (UCOM) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือนัยหนึ่งก็คือ TAC เป็นลูกของ UCOM TAC ประกอบธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม โดยได้รับสัมปทานคลื่นวิทยุมือถือจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย

TAC จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และต้องการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยด้วยเพื่อกระจายแหล่งระดมทุน

ทว่าตามกฎของตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจดทะเบียนเป็นบริษัทลูกและแม่เครือเดียวกัน ต้องไม่มีรายได้หลักมาจากธุรกิจเดียวกัน ด้วยเหตุผลนี้ TAC จึงไม่สามารถเข้ามาโลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์ได้ดังใจหมาย

แต่ความมุ่งมั่นที่จะระดมทุนในตลาดไทยยังไม่สูญหาย TAC จึงต้องเข้ามาสู่อ้อมอกของ BSDC แทน เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2538

การเข้ามาของ TAC ทำให้ BSDC มีชีวิตชีวา มูลค่าการซื้อขายกระโดดขึ้นวันละหลายล้านบาท เพราะขนาดบริษัทที่ใหญ่ซึ่งมีทุนจดทะเบียนประมาณ 3,773 ล้านบาท และความน่าสนใจของหุ้นในสายตานักลงทุน

TAC จึงถือเป็น "พระเอก" ใน BSDC

ทว่าเมื่อมีข่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะผ่อนคลายกฎเกณฑ์การรับหลักทรัพย์จดทะเบียนที่เป็นข้อจำกัดของ TAC ผู้บริหาร TAC จึงมีความคิดที่จะย้ายหุ้นเพื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นเป้าหมายแรกเริ่มแทน

งานนี้ ฝ่ายที่อกสั่นขวัญแขวนที่สุดก็คงไม่พ้น BSDC



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.